LINE เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้งานอุปกรณ์ Android เชื่อมต่อบัญชี LINE เดียวกันบนหลายอุปกรณ์ได้อย่างสะดวก ฟีเจอร์นี้ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งาน โดยผู้ใช้สามารถใช้สมาร์ทโฟนหลักเมื่ออยู่นอกบ้าน และสลับมาใช้แท็บเล็ตที่ลงทะเบียนเป็นอุปกรณ์เสริม ทำให้การติดต่อสื่อสารไม่ขาดตอนไม่ว่าจะใช้อุปกรณ์ใดก็ตาม
ฟีเจอร์นี้จะเริ่มทยอยให้บริการในแอปพลิเคชัน LINE เวอร์ชัน 15.3.0 เป็นต้นไป โดยนับเป็นการขยายระบบอุปกรณ์เสริมที่เดิมรองรับเฉพาะ PC และ iPad เท่านั้น ให้ครอบคลุมอุปกรณ์ Android ซึ่งมีผู้ใช้งานจำนวนมากทั่วโลก
วิธีการตั้งค่าอุปกรณ์ Android เป็นสมาร์ทโฟนเสริม
การตั้งค่าอุปกรณ์ Android เป็นสมาร์ทโฟนเสริมทำได้ง่ายๆ เพียงไม่กี่ขั้นตอน ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน LINE บนอุปกรณ์ Android เครื่องที่ต้องการใช้เป็นอุปกรณ์เสริม จากนั้นเริ่มต้นกระบวนการลงทะเบียนดังนี้
ขั้นแรก ให้แตะที่ปุ่ม “ล็อกอิน” ในหน้าเริ่มต้นของแอป หากยังไม่มีบัญชี LINE สามารถเลือก “ลงทะเบียนใหม่” เพื่อสร้างบัญชีใหม่ได้ จากนั้นเลือกตัวเลือก “ซับเทอร์มินัล” และกดปุ่ม “ตกลง” เพื่อดำเนินการต่อ
เมื่อขั้นตอนข้างต้นเสร็จสิ้น ระบบจะแสดง QR Code บนหน้าจอของอุปกรณ์เสริม ผู้ใช้จะต้องสแกน QR Code ดังกล่าวด้วยอุปกรณ์หลักที่ได้ลงทะเบียนบัญชี LINE ไว้แล้ว หลังจากสแกนสำเร็จ ผู้ใช้จะสามารถล็อกอินเข้าสู่บัญชี LINE บนอุปกรณ์เสริมได้ทันที
หากไม่สามารถล็อกอินได้ ให้ตรวจสอบการตั้งค่าบนอุปกรณ์หลักโดยไปที่ “หน้าแรก” > “เมนู” > “บัญชี” จากนั้นเปิดการตั้งค่า “อนุญาตการล็อกอิน” เพื่อให้ระบบอนุญาตการเชื่อมต่อจากอุปกรณ์อื่น
ข้อจำกัดในการใช้งานอุปกรณ์เสริม
แม้ว่าการใช้งานอุปกรณ์เสริมจะช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย แต่ผู้ใช้ควรทราบถึงข้อจำกัดบางประการ โดย LINE กำหนดให้ผู้ใช้สามารถล็อกอินพร้อมกันบนอุปกรณ์เสริมได้สูงสุด 3 เครื่องในเวลาเดียวกัน ประกอบด้วยอุปกรณ์ Android 1 เครื่อง, PC 1 เครื่อง และ iPad 1 เครื่อง
สำหรับผู้ที่ต้องการใช้งาน LINE บนอุปกรณ์ PC หรือ iPad สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากศูนย์ช่วยเหลือของ LINE โดยค้นหาหัวข้อ “การล็อกอินจาก PC” หรือ “การล็อกอินจาก iPad” ซึ่งจะมีคำแนะนำเฉพาะสำหรับอุปกรณ์แต่ละประเภท
ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับฟีเจอร์ใหม่และอัพเดทล่าสุดของ LINE ได้ที่เว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันทางการของ LINE
ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ ช่องทางโซเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok
