แกร็บ ประเทศไทย จับมือ กรุงเทพมหานคร (กทม.) และ มูลนิธิองค์กรทำดี เปิดตัวแคมเปญ “เมืองปลอดภัย อุ่นใจไปกับ Grab” มุ่งยกระดับความปลอดภัยในสังคมและป้องกันการคุกคามทางเพศ สอดรับนโยบาย “ปลอดภัยดี” ของ กทม. ที่มุ่งลดจุดเสี่ยงด้านอาชญากรรม อุบัติเหตุ และสาธารณภัย
แคมเปญดังกล่าวสร้างการมีส่วนร่วมกับกลุ่มไรเดอร์และคนขับแกร็บผ่าน 3 กิจกรรมหลัก ได้แก่ กิจกรรม #ปักหมุดจุดมืด การรณรงค์ป้องกันภัยคุกคามทางเพศ และการพัฒนาเทคโนโลยีด้านความปลอดภัย เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน
ความร่วมมือเพื่อสร้างเมืองปลอดภัย
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า “กรุงเทพมหานคร มุ่งมั่นที่จะสร้างเมืองที่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินตามนโยบาย ‘ปลอดภัยดี’ โดยยกระดับการป้องกันปัญหาอาชญากรรมเพื่อสร้างความอุ่นใจรอบด้านให้กับประชาชนภายใต้แนวคิด 3 ส. อันได้แก่ สว่าง สะดวก และ สบายใจ”
ในปีงบประมาณ 2567 ที่ผ่านมา กทม. ได้ดำเนินการปรับปรุงจุดเสี่ยงอาชญากรรมไปแล้วกว่า 177 จุด การผนึกความร่วมมือกับแกร็บในครั้งนี้ถือเป็นส่วนสำคัญที่จะสนับสนุนนโยบาย ‘กรุงเทพฯ ต้องสว่าง’ ซึ่งจะช่วยในการระบุและแก้ไขจุดเสี่ยงด้านแสงสว่าง รวมถึงส่งเสริมการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนในการเฝ้าระวังปัญหาอาชญากรรม
แนวทางการดำเนินงานของแกร็บ
นางสาวเมธิณี อนวัชกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจการเดินทางและบริหารคนขับ แกร็บ ประเทศไทย กล่าวว่า “ความปลอดภัยของผู้ใช้บริการและคนขับถือเป็นหัวใจสำคัญในการดำเนินธุรกิจของแกร็บ เราจึงได้ลงทุนและพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆ พร้อมกำหนดมาตรฐานการให้บริการที่มุ่งเน้นด้านความปลอดภัย”
แกร็บให้ความสำคัญกับการส่งเสริมประเด็นด้านความปลอดภัยในสังคม โดยเฉพาะการขับขี่ปลอดภัยและการป้องกันการคุกคามทางเพศ ซึ่งเป็นปัญหาที่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน แคมเปญนี้จึงมุ่งสร้างการมีส่วนร่วมของคนขับแกร็บ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีโอกาสพบเจอผู้คนเป็นจำนวนมากในแต่ละวัน ให้ช่วยเป็นหูเป็นตาและเสริมสร้างความปลอดภัยให้กับสังคม
กิจกรรมหลักภายใต้แคมเปญ
1. กิจกรรม #ปักหมุดจุดมืด สร้างกรุงเทพฯ เมืองปลอดภัย
แกร็บร่วมมือกับกรุงเทพมหานคร เชิญชวนคนขับแกร็บในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลช่วยสอดส่องและรายงานพื้นที่เสี่ยงอันตรายทั่วกรุงเทพฯ เช่น บริเวณที่ไฟฟ้าดับ สัญญาณไฟคนข้ามชำรุด หรือพื้นที่เปลี่ยวใกล้ชุมชน
คนขับสามารถถ่ายภาพบริเวณที่เสี่ยงภัยและส่งต่อไปที่แอปพลิเคชัน Traffy Fondue (ทราฟฟี่ฟองดูว์) เพื่อให้เจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานครดำเนินการปรับปรุงและแก้ไข ปัจจุบันมีการรายงานจุดเสี่ยงภัยไปแล้วกว่า 100 จุดทั่วกรุงเทพฯ
2. การรณรงค์เพื่อสร้างจิตสำนึกในการป้องกันการคุกคามทางเพศ
แกร็บได้จัดทำคอร์สอบรมออนไลน์ภายใต้โครงการ GrabAcademy เพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับการคุกคามทางเพศและแนวทางช่วยเหลือผู้ที่มีความเสี่ยง โดยได้ ดร. ปนัดดา วงศ์ผู้ดี ประธานมูลนิธิองค์กรทำดี มาร่วมถ่ายทอดความรู้
คอร์สอบรมนี้ช่วยให้คนขับสามารถแยกแยะพฤติกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดการคุกคามทางเพศ และตอบสนองต่อสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย
3. การยกระดับเทคโนโลยีด้านความปลอดภัย
นอกจากเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยที่มีอยู่แล้ว เช่น ฟีเจอร์ Safety Centre ที่ให้ผู้โดยสารขอความช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็วในกรณีฉุกเฉิน ฟีเจอร์ Share My Ride ที่สามารถแชร์เส้นทางการเดินทางแบบเรียลไทม์ให้กับเพื่อนและครอบครัว และฟีเจอร์ Audio Protect ที่บันทึกเสียงระหว่างการเดินทาง
ในปีนี้ แกร็บ ได้พัฒนาเทคโนโลยี IoT เพิ่มเติม ได้แก่ ปุ่มฉุกเฉิน (SOS) และกล้อง Karta Dashcam ภายในห้องโดยสารเพื่อบันทึกภาพระหว่างการเดินทาง ซึ่งจะช่วยเสริมความมั่นใจด้านความปลอดภัยให้ทั้งกับคนขับและผู้ใช้บริการ โดยเน้นไปที่บริการ GrabCar for Ladies (บริการเรียกรถที่ให้บริการโดยคนขับผู้หญิง)
ผู้สนใจสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแคมเปญ “เมืองปลอดภัย อุ่นใจไปกับ Grab” และกิจกรรมต่างๆ ได้ทางเว็บไซต์และแอปพลิเคชันของแกร็บ รวมถึงช่องทางโซเชียลมีเดียอย่างเป็นทางการของแกร็บ ประเทศไทย
ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ ช่องทางโซเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok
