Qualcomm Nokia Bell Labs

AI ช่วยยกระดับเครือข่ายไร้สายในการทำงานร่วมกันระหว่างผู้ให้บริการที่หลากหลาย

Qualcomm Technologies และ Nokia Bell Labs แสดงศักยภาพของเทคโนโลยี AI ในการยกระดับประสิทธิภาพเครือข่ายไร้สายระหว่างผู้ให้บริการที่หลากหลาย โดยการทดสอบพบว่าสามารถเพิ่มอัตราการรับส่งข้อมูลได้ตั้งแต่ 15% ถึง 95% เมื่อเทียบกับวิธีการแบบดั้งเดิม

ทั้งสองบริษัทได้สาธิตการทำงานร่วมกันผ่านทางอากาศ (over-the-air interoperability) ของโมเดลเข้ารหัสและถอดรหัสสำหรับการป้อนข้อมูลสถานะช่องสัญญาณ (CSI feedback) ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ในงาน MWC 2024 โดยใช้เทคนิคใหม่ที่เรียกว่าการเรียนรู้แบบลำดับ (Sequential Learning)

การทดสอบประสิทธิภาพในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย

การนำเทคโนโลยี AI ไปใช้ในเครือข่ายจริงต้องมั่นใจว่าโมเดลสามารถทำงานได้อย่างมีเสถียรภาพในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน ในการศึกษาครั้งนี้ Qualcomm Technologies และ Nokia Bell Labs ได้ทดสอบจุดรับส่งสัญญาณสามรูปแบบที่แตกต่างกัน ได้แก่ พื้นที่กลางแจ้งในเขตชานเมือง และพื้นที่ในร่มสองแห่งที่มีสภาพแวดล้อมแตกต่างกัน

ผลการทดสอบแสดงให้เห็นว่าโมเดล AI แบบทั่วไป (Common AI Model) ที่ผ่านการฝึกฝนด้วยชุดข้อมูลที่หลากหลาย สามารถทำงานได้ใกล้เคียงกับโมเดลที่ได้รับการฝึกเฉพาะพื้นที่ (Hyper-local Models) ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสามารถในการปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การเพิ่มประสิทธิภาพการรับส่งข้อมูล

การป้อนข้อมูลสถานะช่องสัญญาณที่ขับเคลื่อนด้วย AI ช่วยให้เครือข่ายสามารถส่งสัญญาณในรูปแบบลำแสงที่แม่นยำยิ่งขึ้น ส่งผลให้ความแรงของสัญญาณที่ได้รับดีขึ้น ลดสัญญาณรบกวน และเพิ่มอัตราการรับส่งข้อมูลโดยรวม

จากการทดสอบในตำแหน่งต่างๆ พบว่าการใช้ AI-based feedback ช่วยให้อัตราการรับส่งข้อมูลเพิ่มขึ้นในช่วง 15% ถึง 95% เมื่อเทียบกับการป้อนข้อมูลแบบ Grid-of-Beams (3GPP Type I) แบบดั้งเดิม แม้ว่าประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นจริงในระบบเชิงพาณิชย์จะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย แต่ผลการทดลองนี้แสดงให้เห็นศักยภาพที่ชัดเจนของเทคโนโลยี AI

เทคนิคการเรียนรู้แบบลำดับ

การเรียนรู้แบบลำดับ (Sequential Learning) เป็นเทคนิคที่ช่วยให้บริษัทต่างๆ สามารถร่วมกันออกแบบโมเดล AI ที่ทำงานร่วมกันได้ โดยไม่จำเป็นต้องเปิดเผยรายละเอียดที่เป็นกรรมสิทธิ์ของแต่ละบริษัท แต่ใช้การแบ่งปันชุดข้อมูลการฝึกที่ประกอบด้วยคู่ของอินพุตและเอาต์พุตแทน

การเรียนรู้แบบลำดับสามารถดำเนินการได้สองแนวทาง ได้แก่ การเข้ารหัสฝั่งอุปกรณ์ก่อน (Device encoder-first) หรือการถอดรหัสฝั่งเครือข่ายก่อน (Network decoder-first) โดย Qualcomm Technologies และ Nokia Bell Labs ได้ทดสอบทั้งสองแนวทางและพบว่าให้ประสิทธิภาพใกล้เคียงกัน แตกต่างกันเพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์

นอกจากนี้ เนื่องจาก 3GPP (The 3rd Generation Partnership Project) มีความสนใจเพิ่มขึ้นต่อแนวทางแบบ decoder-first ทั้งสองบริษัทจึงได้เปลี่ยนจากการสาธิตแนวทาง encoder-first แบบดั้งเดิมมาสู่การสาธิตการฝึกโมเดลแบบ decoder-first ด้วย

ผลการทดสอบนี้แสดงให้เห็นว่า AI สามารถยกระดับประสบการณ์ของผู้ใช้ได้อย่างมีนัยสำคัญ ผ่านแนวทางการเรียนรู้ที่หลากหลาย ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการเปลี่ยนการสื่อสารที่ขับเคลื่อนด้วย AI จากแนวคิดสู่ความเป็นจริง

ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ ช่องทางโซเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok

Online Content Manager with over 10 years of experience working in the news, technology, and telecom industries.