Qualcomm ได้จัดงาน Snapdragon X SEA Summit ณ ประเทศสิงคโปร์ เป็นงานที่นำเสนอนวัตกรรมความก้าวหน้าครั้งสำคัญของ AI PC ต่อวงการคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ผ่านแพลตฟอร์ม Snapdragon X ที่กำลังท้าทายผู้นำตลาดพีซีเดิมซึ่งครองอำนาจมานาน
ภายในงานทางผู้บริหารระดับสูงของ Qualcomm นำเสนอวิสัยทัศน์การปฏิวัติวงการ PC ด้วยแพลตฟอร์ม AI ที่ทรงประสิทธิภาพ โดยมุ่งเน้นไปที่การผสานความเชี่ยวชาญด้านชิปประมวลผลสำหรับอุปกรณ์มือถือที่ประหยัดพลังงาน เข้ากับความต้องการด้านประสิทธิภาพระดับสูงของคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล
ในปีที่ผ่านมา Snapdragon X ถือเป็นก้าวสำคัญของ Qualcomm ในการสร้างตำแหน่งทางการตลาดใหม่ในฐานะผู้ผลิตชิปประมวลผลสำหรับ PC โดยตรง หลังจากที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในตลาดสมาร์ทโฟน ความน่าสนใจไม่ได้อยู่เพียงแค่การเข้าสู่ตลาดใหม่ แต่ยังรวมถึงการนำเสนอทางเลือกที่แตกต่างจากผู้เล่นเดิมในตลาด ทั้ง Intel, AMD และ Apple ด้วยแนวคิด AI PC ที่ไม่เพียงแค่มีประสิทธิภาพสูง แต่ยังประหยัดพลังงานอย่างน่าทึ่ง
ในขณะที่โลกกำลังก้าวเข้าสู่ยุคของ AI PC อย่างเต็มตัว ความสามารถในการประมวลผล AI บนอุปกรณ์ (on-device AI) กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนดประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้ ซึ่ง Snapdragon X ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงศักยภาพที่เหนือกว่าในด้านนี้ พร้อมปูทางสู่อนาคตของการใช้งานคอมพิวเตอร์ที่ชาญฉลาดและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
Qualcomm: จากยักษ์ใหญ่มือถือสู่ผู้เล่นใหม่ในตลาด PC

Qualcomm ก่อตั้งขึ้นในปี 1985 และได้กลายเป็นผู้นำในวงการเทคโนโลยีโทรศัพท์มือถือด้วยชิปประมวลผล Snapdragon ที่ขับเคลื่อนสมาร์ทโฟนชั้นนำทั่วโลกมาหลายทศวรรษ ความเชี่ยวชาญของบริษัทในการพัฒนาชิปประมวลผลประสิทธิภาพสูงที่ใช้พลังงานต่ำ ทำให้ Qualcomm กลายเป็นชื่อที่คุ้นเคยในวงการอุปกรณ์พกพา
การก้าวเข้าสู่ตลาด PC ของ Qualcomm ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นผลจากวิสัยทัศน์และกลยุทธ์ระยะยาว ในงาน Snapdragon X SEA Summit ผู้บริหารเปิดเผยว่า บริษัทได้ลงทุนในเทคโนโลยี AI มานานกว่า 15 ปี โดยเริ่มผสาน NPU (Neural Processing Unit) เข้ากับชิปโทรศัพท์มือถือ Snapdragon ตั้งแต่เมื่อ 10 ปีที่แล้ว กระทั่งขยายมาสู่แพลตฟอร์ม Windows ในปี 2018-2019 การสั่งสมประสบการณ์อันยาวนานในด้าน AI และการประมวลผลที่มีประสิทธิภาพพลังงานสูง ทำให้ Qualcomm มีความพร้อมอย่างยิ่งในการปฏิวัติตลาด PC ด้วยแพลตฟอร์ม Snapdragon X

Snapdragon X จึงไม่ใช่เพียงผลิตภัณฑ์ใหม่ แต่เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของวงการ PC ที่กำลังเข้าสู่ยุค AI อย่างเต็มตัว ด้วยชิปรุ่นล่าสุดที่มีประสิทธิภาพการประมวลผล AI สูงถึง 45 TOPS (Trillion Operations Per Second) ซึ่งเหนือกว่าคู่แข่งในตลาด
Qualcomm ไม่ได้เพียงแค่ต้องการเป็นผู้เล่นรายใหม่ในตลาด แต่ตั้งเป้าที่จะเปลี่ยนแปลงวิธีที่ผู้ใช้มีปฏิสัมพันธ์กับคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล โดยนำจุดแข็งจากโลกของอุปกรณ์มือถือ ทั้งการประหยัดพลังงาน การประมวลผล AI ที่รวดเร็ว และประสิทธิภาพการทำงานที่ราบรื่น มาสู่เครื่อง PC ที่ผู้ใช้กำลังเรียกร้องหาในยุคดิจิทัลที่ต้องการความฉลาดและความคล่องตัวมากขึ้น
จุดเด่นของแพลตฟอร์ม Snapdragon X ที่เหนือกว่าคู่แข่ง
Snapdragon X มอบประสิทธิภาพการประมวลผล AI ที่เหนือชั้นด้วยความสามารถ 45 TOPS ซึ่งสามารถรับรู้ได้อย่างชัดเจนในการใช้งานจริง โดยเฉพาะกับแอปพลิเคชันที่ใช้ AI อย่างการแก้ไขรูปภาพอัตโนมัติ การแปลภาษาแบบเรียลไทม์ และการสร้างเนื้อหาด้วย AI ทั้งหมดนี้ทำงานได้เร็วและมีประสิทธิภาพแม้ไม่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต

ด้านแบตเตอรี่ อุปกรณ์ที่ใช้ Snapdragon X มีความเหนือกว่าคู่แข่งอย่างชัดเจน สามารถทำงานต่อเนื่องได้ยาวนานกว่าแม้ในการทำงานที่ใช้ทรัพยากรสูง ทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องกังวลเรื่องการชาร์จแม้อยู่ในสถานการณ์ที่เข้าถึงแหล่งจ่ายไฟได้ยาก เช่น ขณะเดินทางบนเครื่องบิน

ในส่วนของประสิทธิภาพการประมวลผลต่อหน่วยพลังงาน (CPU Performance Per Watt) นับเป็นจุดเด่นสำคัญของ Snapdragon X ที่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจน จากผลทดสอบด้วย Geekbench แสดงให้เห็นว่า Snapdragon X Platform ให้ประสิทธิภาพที่เร็วกว่าคู่แข่งอย่าง Intel Core 5 120U อย่างมีนัยสำคัญ โดยในการทดสอบแบบ Single-Core มีประสิทธิภาพเร็วกว่าถึง 163% ที่ระดับการใช้พลังงานเท่ากัน (iso-power) ในขณะที่การทดสอบแบบ Multi-Core ก็ยังคงเหนือกว่าด้วยประสิทธิภาพที่เร็วกว่าถึง 157% ที่ระดับการใช้พลังงานเท่ากัน
ในทางกลับกัน เมื่อพิจารณาจากมุมมองของการใช้พลังงาน ข้อมูลแสดงให้เห็นว่าคู่แข่งต้องใช้พลังงานมากกว่าถึง 168% ในการทดสอบแบบ Single-Core และมากถึง 240% ในการทดสอบแบบ Multi-Core เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพในระดับเดียวกัน (iso-performance) กับ Snapdragon X นี่คือข้อพิสูจน์ที่ชัดเจนว่า Qualcomm ได้นำความเชี่ยวชาญในการออกแบบชิปประหยัดพลังงานสำหรับอุปกรณ์มือถือมาประยุกต์ใช้กับตลาด PC ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยให้อุปกรณ์มีแบตเตอรี่ที่อยู่ได้นานขึ้นเท่านั้น แต่ยังส่งผลให้อุปกรณ์มีความร้อนที่ต่ำลงและเงียบกว่า ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับผู้ใช้ในยุคที่การทำงานเคลื่อนที่เป็นเรื่องปกติ
ทางด้านของการเชื่อมต่อ Snapdragon X รองรับการต่อจอแสดงผลได้ถึง 3 จอพร้อมกัน เอื้อต่อการสร้างพื้นที่ทำงานแบบมัลติสกรีนสำหรับผู้ใช้มืออาชีพ นอกจากนี้ ยังมาพร้อมความสามารถในการเชื่อมต่อที่ล้ำสมัย ทั้ง 5G, Wi-Fi 7 และ Bluetooth 5.3 เพื่อการรับส่งข้อมูลที่รวดเร็วและเสถียร ทำให้ Snapdragon X เป็นแพลตฟอร์มที่พร้อมรับมือกับความต้องการในยุค AI อย่างแท้จริง
เจาะลึก Snapdragon X ทั้ง 3 รุ่น

Snapdragon X Elite เป็นรุ่นเรือธงที่มาพร้อมกับหน่วยประมวลผล Oryon 12 คอร์ ความเร็วสูงสุดถึง 3.8 GHz เพื่อประสิทธิภาพการทำงานสูงสุด เหมาะสำหรับผู้ใช้มืออาชีพที่ต้องการประสิทธิภาพสูงในการทำงานด้านกราฟิก วิดีโอ และงานซับซ้อน โดดเด่นด้วยความสามารถในการทำงานหลายอย่างพร้อมกันโดยไม่กระทบต่อประสิทธิภาพ แม้จะเป็นงานหนัก เช่น การรันโมเดล AI ขนาดใหญ่แบบออฟไลน์
Snapdragon X Plus เป็นรุ่นกลางที่สร้างสมดุลระหว่างประสิทธิภาพและราคา มาพร้อมหน่วยประมวลผล Oryon 10 คอร์ ความเร็วสูงสุด 3.4 GHz เหมาะสำหรับผู้ใช้ทั่วไปที่ต้องการประสิทธิภาพที่ดีในการทำงานประจำวัน เช่น การเรียนออนไลน์ การทำงานเอกสาร และการใช้แอปพลิเคชัน AI พื้นฐาน ราคาที่เข้าถึงได้มากกว่ารุ่น Elite ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ใช้ทั่วไป
Snapdragon X Platform เป็นแพลตฟอร์มที่รองรับการใช้งานในหลากหลายรูปแบบอุปกรณ์ เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่ต้องการเครื่องในราคาไม่สูงหรือระดับเริ่มต้น เพราะนอกเหนือจากโน้ตบุ๊คแล้ว ยังมี Mini PC All-in-One PC และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์รูปแบบอื่นๆ มาพร้อมกับความยืดหยุ่นในการปรับแต่งตามความต้องการ จึงเป็นแพลตฟอร์มตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่ต้องการเข้าถึงเทคโนโลยี AI ใหม่ได้ในราคาที่เข้าถึงไม่ยาก

สิ่งที่น่าสนใจคือ Qualcomm ให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพการประมวลผล AI เป็นพิเศษ โดยทั้ง 3 รุ่น แม้จะมีความแตกต่างกันในด้านจำนวนคอร์ ความเร็ว และกลุ่มเป้าหมายด้านราคา แต่ทุกรุ่นได้รับการออกแบบให้มี NPU ที่มีประสิทธิภาพ 45 TOPS เท่ากันหมด ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐาน Copilot+ PC ที่ Microsoft กำหนด การให้ความสำคัญเช่นนี้สะท้อนให้เห็นว่า Qualcomm มองว่าพลังการประมวลผล AI เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้ใช้ทุกระดับในยุคดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นมืออาชีพ ผู้ใช้ทั่วไป หรืออุปกรณ์เฉพาะทาง ทุกคนควรเข้าถึงประสบการณ์ AI ที่มีประสิทธิภาพสูงได้เท่าเทียมกัน
สัมผัสศักยภาพหลากหลายของ Snapdragon X
ภายในงาน Snapdragon X SEA Summit พันธมิตรสำคัญอย่าง ASUS, Lenovo, Dell, HP และ Microsoft ได้จัดแสดงโน้ตบุ๊คหลากหลายรุ่นที่ใช้ Snapdragon X ซึ่งออกแบบมาตอบโจทย์กลุ่มผู้ใช้ที่แตกต่างกัน ตั้งแต่นักธุรกิจไปจนถึงนักสร้างสรรค์เนื้อหา แต่ละแบรนด์นำเสนอจุดเด่นที่แตกต่างกันไป ทั้งด้านการออกแบบ ความบางเบา และคุณสมบัติพิเศษที่เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ โดยทั้งหมดยังคงรักษาประสิทธิภาพด้าน AI ที่เป็นจุดเด่นของ Snapdragon X

ASUS Zenbook A14 เป็นสิ่งที่ดึงดูดความสนใจของผู้ร่วมงาน ด้วยจุดเด่นที่การออกแบบให้เป็นโน้ตบุ๊คขนาด 14 นิ้วที่มีน้ำหนักน้อยกว่า 1 กิโลกรัม ซึ่งตอบโจทย์คนที่ต้องการใช้งานพกพาที่มีความคล่องตัว น้ำหนักเบา แต่ยังได้ประสิทธิภาพสูงและใช้งานต่อเนื่องได้ตลอดทั้งวันั

ไฮไลท์สำคัญของงานคือการสาธิตประสิทธิภาพในการทำงานขั้นสูงของอุปกรณ์ที่ใช้ Snapdragon X ทั้งการใช้งานด้านโปรดักชั่น เช่น การแต่งเพลงโดยใช้ AI ช่วยสร้างสรรค์ท่วงทำนองและจังหวะ การตัดต่อวิดีโอความละเอียดสูงพร้อมต่อจอแสดงผลถึง 3 จอแบบเวิร์คสเตชัน ที่ทำงานได้อย่างราบรื่นและรวดเร็ว นอกจากนี้ ยังมีการสาธิตการใช้งานสำหรับครีเอเตอร์ในการถ่ายทอดสดพร้อมตัดลบฉากหลังแบบเรียลไทม์ด้วย AI โดยที่ไม่ต้องใช้อุปกรณ์เสริมหรือกรีนสกรีน และทั้งหมดนี้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ทำให้แบตเตอรี่หมดเร็ว

ด้านประสิทธิภาพการใช้งาน Snapdragon X ในการรองรับการทำงานที่หลากหลายพร้อมกัน โดยไม่สะดุดหรือช้าลง เช่น การรันแอปพลิเคชัน AI หลายตัวพร้อมกันในขณะที่กำลังประชุมผ่านวิดีโอคอล จะเห็นว่า NPU เข้ามาช่วยทำงานด้านภาพวิดีโอเบลอฉากหลัง ทำให้ CPU และ GPU แทบไม่ต้องทำงาน รวมถึงการทำงานด้าน AI อื่นๆ อย่างการลดเสียงรบกวนก็ทำได้อย่างดีเยี่ยมเช่นกัน
อนาคตของ Snapdragon X ในตลาด PC

ตลาด AI PC กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยคาดการณ์ว่าจะมีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง Snapdragon X จึงมีโอกาสที่จะเป็นผู้เล่นสำคัญในการขับเคลื่อนตลาดนี้ ด้วยจุดแข็งด้านประสิทธิภาพการประมวลผล AI และการประหยัดพลังงาน ในขณะที่ Microsoft ยังคงพัฒนา Windows ให้รองรับความสามารถด้าน AI มากขึ้น ระบบนิเวศของ AI PC จะยิ่งเติบโตและเข้มแข็ง ส่งผลให้แพลตฟอร์ม Snapdragon X มีโอกาสขยายตัวได้อีกมาก

อีกสิ่งที่เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงอนาคตของ Snapdragon X กับ Windows ก็คือ การทำงานร่วมกับผู้พัฒนาโปรแกรมชั้นนำทั่วโลก ที่ตอนนี้มีการอัปเดตโปรแกรมแบบ Native เพื่อการทำงานบนแพลตฟอร์มของ Snapdragon ได้อย่างเต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นโปรแกรมสำหรับการทำงานเอกสาร, ข้อมูล, งานด้านครีเอเตอร์และกราฟิกขั้นสูง ไปจนถึงด้านความบันเทิงและโซเชียลต่างๆ เรียกได้ว่าพร้อมใช้งานกับโปรแกรมเดิมได้อย่างไร้รอยต่อโดยไม่ต้องกังวล
ความเป็นไปได้ในการขยายสู่ตลาดใหม่ๆ ของ Snapdragon X มีหลายทิศทาง ไม่เพียงแค่ตลาด PC หรือโน้ตบุ๊คทั่วไป แต่ยังรวมถึงตลาดเฉพาะทางอย่าง เครื่องเกมพกพาที่ต้องการเรื่องประสิทธิภาพและประหยัดพลังงาน, อุปกรณ์สำหรับครีเอเตอร์ และอุปกรณ์สำหรับนักพัฒนา

นอกจากนี้ ด้วยประสิทธิภาพด้าน AI ที่สูง Snapdragon X ยังมีโอกาสในการขยายตัวสู่ตลาดอุปกรณ์อัจฉริยะอื่นๆ ในระบบนิเวศ IoT และ Edge Computing ที่ต้องการพลังการประมวลผล AI ในตัวอุปกรณ์ ยกตัวอย่างเช่น ระบบอัตโนมัติในโรงงานอุตสาหกรรม ระบบเฝ้าระวังอัจฉริยะ หรือระบบวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์ในอุตสาหกรรมต่างๆ
สำหรับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และประเทศไทยโดยเฉพาะ Snapdragon X มีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงวิธีที่ผู้ใช้และธุรกิจทำงานร่วมกับ AI ในกลุ่มอุตสาหกรรมที่สำคัญของไทย เช่น การเกษตร การท่องเที่ยว และการผลิต สามารถนำเทคโนโลยี AI มาใช้เพิ่มประสิทธิภาพและสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ได้

การที่ Qualcomm จัดงาน Snapdragon X SEA Summit ที่สิงคโปร์ แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของตลาดในภูมิภาคนี้ ซึ่งเป็นหนึ่งในภูมิภาคที่มีการเติบโตทางเทคโนโลยีที่รวดเร็วที่สุดในโลก ด้วยกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้นและความต้องการเทคโนโลยีใหม่ๆ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้จึงเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงสำหรับ Snapdragon X และ AI PC ยุคใหม่
Snapdragon X ถือว่าเป็นการเปิดตัวในตลาด AI PC ได้อย่างสวยงาม และมีอนาคตที่น่าสนใจ ที่ใช้เวลาไม่ถึงปีในการเปิดตัวชิปประมวลผลออกมาครบทุกเซกเมนต์ ตอบโจทย์ทั้งด้านประสิทธิภาพการประมวลผล AI ที่สูงถึง 45 TOPS ในทุกรุ่น และการประหยัดพลังงานที่คู่แข่งเทียบไม่ได้ ทำให้ผู้ใช้สามารถทำงานได้นานขึ้นโดยไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเตอรี่ แม้จะใช้งานหนักหรืออยู่ในสถานการณ์ที่ไม่มีแหล่งจ่ายไฟ และความสามารถในการทำงานหลายอย่างพร้อมกันโดยไม่กระทบต่อประสิทธิภาพ ทำให้ Snapdragon X เป็นคู่แข่งที่น่ากลัวสำหรับผู้เล่นเดิมในตลาด PC
ในประเทศไทย ผู้ที่สนใจสามารถเข้าถึง AI PC ที่ขับเคลื่อนด้วย Snapdragon X ได้แล้ววันนี้ ผ่านผู้ผลิต PC แบรนด์ชั้นนำอย่าง ASUS, Lenovo, HP, Dell และ Microsoft ที่วางจำหน่ายอุปกรณ์หลากหลายรุ่นให้เลือกซื้อได้ตามโจทย์การใช้งานทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นโน้ตบุ๊คสำหรับผู้ใช้ทั่วไป เครื่องสำหรับนักธุรกิจที่ต้องการความคล่องตัว หรืออุปกรณ์สำหรับนักสร้างสรรค์เนื้อหาที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุด ทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึง AI PC และเทคโนโลยีแห่งอนาคตได้อย่างแท้จริง
ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ ช่องทางโซเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok