OMODA & JAECOO ภายใต้ Chery Automobile ผู้นำเทคโนโลยียานยนต์ระดับโลก ประกาศความสำเร็จหลังสร้างปรากฏการณ์เติบโตแบบก้าวกระโดดด้วยยอดขายเพิ่มขึ้น 54% ทั่วโลกในปี 2567 พร้อมเดินหน้ารุกตลาดไทยเต็มกำลังในปี 2568 ด้วยการลงทุนตั้งฐานการผลิตในจังหวัดระยอง ควบคู่กับการขยายโชว์รูมเป็น 50 แห่งทั่วประเทศ ตอกย้ำวิสัยทัศน์ “One Vision, One Drive, Inspiring the E-Future”
ความสำเร็จระดับโลกของแบรนด์น้องใหม่
Chery Group บริษัทแม่ของ OMODA & JAECOO แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งด้วยยอดขายที่เติบโตขึ้นถึง 38% หรือยอดส่งมอบ 2.6 ล้านคัน สร้างรายได้เติบโตกว่า 50% ในปี 2567 พร้อมรักษาตำแหน่งผู้ส่งออกรถยนต์อันดับ 1 ของประเทศจีนต่อเนื่องยาวนานถึง 22 ปี
ในส่วนของ OMODA & JAECOO แม้เพิ่งเปิดตัวเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา แต่สามารถขยายตลาดครอบคลุม 33 ประเทศทั่วโลก ทั้งคาซัคสถาน ชิลี เม็กซิโก สเปน เวียดนาม แอฟริกาใต้ นิวซีแลนด์ เนเธอร์แลนด์ และประเทศไทย จนได้รับการยอมรับในฐานะแบรนด์รถยนต์ที่เติบโตเร็วที่สุดในระดับโลก
แผนรุกตลาดไทยด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย
นายฉี เจี๋ย ประธาน บริษัท โอโมดา แอนด์ เจคู (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเปิดตัวรถรุ่นใหม่ที่มาพร้อมเทคโนโลยี SHS (Super Hybrid System) ซึ่งพัฒนาต่อยอดมาจากเทคโนโลยีไฮบริดเจเนอเรชั่นที่ 3 ของ Chery Automobile เพื่อตอบสนองความต้องการในตลาดยานยนต์โลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง
เทคโนโลยี SHS ประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก ได้แก่ เครื่องยนต์ 1.5TDGI เจเนอเรชั่นที่ 5 ระบบซูเปอร์อิเล็กทริกไฮบริด DHT และแบตเตอรี่ประสิทธิภาพสูง ที่ผสานการใช้พลังงานจากน้ำมันเชื้อเพลิงเข้ากับประสบการณ์การขับขี่ของรถยนต์ไฟฟ้า โดดเด่นด้วยประสิทธิภาพเชิงความร้อนที่ดีเยี่ยม ระยะทางในการขับขี่ที่ยาวไกล การปล่อยคาร์บอนต่ำ และระบบแบตเตอรี่ที่มีความปลอดภัยสูง
นอกจากนี้ OMODA & JAECOO ยังเตรียมนำเสนอยนตรกรรมพลังงานใหม่ที่ครอบคลุมทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ทั้ง BEV, PHEV และรุ่นอื่นๆ พร้อมจัดแสดงในงานมหกรรมยานยนต์ Bangkok International Motor Show ที่จะถึงนี้ โดยโรงงานผลิตในจังหวัดระยองคาดว่าจะพร้อมเริ่มเดินสายการผลิตในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้
ยกระดับบริการหลังการขายครบวงจร
OMODA & JAECOO ตั้งเป้าขยายเครือข่ายโชว์รูมจากเดิม 23 แห่ง เป็นกว่า 50 แห่งทั่วประเทศในปีนี้ พร้อมร่วมมือกับ DHL Express ในการจัดส่งอะไหล่ระหว่างประเทศภายใน 3 วัน และลดระยะเวลาการสั่งซื้ออะไหล่เร่งด่วนจากโรงงานในจีนเหลือเพียง 15 วัน จากเดิม 30 วัน
บริษัทยังมีแผนเพิ่มบริการดูแลตัวถังและสีที่ได้รับการรับรองมาตรฐานให้ครบทุกโชว์รูม พร้อมเปิดศูนย์ฝึกอบรมแบบเต็มรูปแบบในเดือนกุมภาพันธ์ เพื่อยกระดับมาตรฐานการบริการให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
แผนการตลาดและการดูแลลูกค้า
OMODA & JAECOO เตรียมอัพเกรดระบบ CRM โดยพัฒนาระบบการจองออนไลน์เพื่อเพิ่มความสะดวกรวดเร็ว พร้อมจัดบริการรถยนต์ทดแทนกรณีซ่อมเกิน 3 วัน และบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมงฟรี 5 ปี ไม่จำกัดจำนวนครั้ง
ด้านกิจกรรมการตลาด บริษัทวางแผนจัดกิจกรรมตลอดทั้งปี ทั้งการสร้างประสบการณ์การขับขี่ การเป็นสปอนเซอร์กิจกรรมที่ตรงกลุ่มเป้าหมาย และการจัดโรดโชว์ทั่วประเทศ เพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นในการเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยและอนาคตแห่งการขับขี่ที่ยั่งยืน
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการของ OMODA & JAECOO สามารถติดตามได้ทางเว็บไซต์และช่องทางโซเชียลมีเดียอย่างเป็นทางการของแบรนด์
