ลอรีอัลประกาศจัดการแข่งขัน Big Bang Beauty Tech Innovation Program 2025 ครอบคลุมภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกใต้ ตะวันออกกลาง และแอฟริกาเหนือ (SAPMENA) รวมถึงประเทศไทย เฟ้นหาสตาร์ทอัพด้านนวัตกรรมความงามเพื่อร่วมพัฒนาโครงการนำร่องเชิงพาณิชย์กับแบรนด์ระดับโลกในเครือ พร้อมโอกาสเข้าถึงตลาด 35 ประเทศทั่วภูมิภาค และรับคำแนะนำจากผู้บริหารระดับสูงตลอดหนึ่งปี ผู้ชนะจะได้โอกาสร่วมงานกับหนึ่งใน 37 แบรนด์ระดับโลกในเครือลอรีอัล
Big Bang 2025 การแข่งขันครั้งประวัติศาสตร์ขยายสู่ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์
การแข่งขันในปีนี้ได้ขยายขอบเขตครอบคลุมไปยังออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ โดยเพิ่มหัวข้อใหม่ “วิทยาศาสตร์เพื่อความงาม” (Science for Beauty) นอกเหนือจากหัวข้อเดิมอย่างประสบการณ์ของผู้บริโภค เนื้อหาและสื่อ พาณิชยกรรมรูปแบบใหม่ และเทคโนโลยีเพื่อสังคม เปิดโอกาสให้สตาร์ทอัพนำเสนอนวัตกรรมเพื่อตอบโจทย์ความท้าทายในอุตสาหกรรมความงาม
ล่าสุด Fast Company ได้ยกย่องให้ลอรีอัลติดอันดับ 50 สุดยอดสถานที่ทำงานที่ดีที่สุดสำหรับผู้สร้างสรรค์นวัตกรรมประจำปี 2567 และเป็นผู้ชนะในหมวดความงามและแฟชั่น สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการส่งเสริมและพัฒนานวัตกรรมในทุกระดับขององค์กร
ผู้บริหารระดับสูงเผยวิสัยทัศน์การขับเคลื่อนนวัตกรรม
วิสเมย์ ชาร์มา ประธานของลอรีอัล กรุ๊ป ภูมิภาค SAPMENA กล่าวว่าภูมิภาคนี้มีศักยภาพมหาศาลในการเป็นกำลังขับเคลื่อนนวัตกรรมความงาม ด้วยระบบนิเวศสตาร์ทอัพที่มีพลวัตสูงและผู้บริโภคที่เชี่ยวชาญการใช้เทคโนโลยี โครงการนี้จะช่วยค้นหาและสนับสนุนผู้สร้างสรรค์นวัตกรรมรุ่นใหม่ในอุตสาหกรรมความงาม การร่วมมือกับสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพจะช่วยเร่งการพัฒนาโซลูชันทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีความงาม ยกระดับประสบการณ์ของผู้บริโภคในภูมิภาค
ด้าน นายแพทริค จีโร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลอรีอัล ประเทศไทย เมียนมา ลาว และกัมพูชา เน้นย้ำถึงบทบาทสำคัญของลอรีอัลในการบุกเบิกนวัตกรรมความงามในประเทศไทย พร้อมชี้ให้เห็นโอกาสสำหรับสตาร์ทอัพไทยในการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่มีความรู้ด้านเทคโนโลยีสูง โดยระบุว่าผู้บริโภคไทยมีความรอบรู้เรื่องเทคโนโลยีสูงสุดประเทศหนึ่งในภูมิภาค และมีความต้องการโซลูชันใหม่ๆ ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง
โอกาสทองในตลาดที่มีการเติบโตสูง
ภูมิภาค SAPMENA มีประชากรคิดเป็น 40% ของประชากรโลก โดยมีผู้บริโภคหนุ่มสาวยุคดิจิทัลกว่า 60% ที่ซื้อสินค้าออนไลน์เป็นประจำทุกสัปดาห์ นอกจากนี้ยังมีสตาร์ทอัพมากกว่า 625,200 ราย และมีสตาร์ทอัพระดับยูนิคอร์นมากกว่า 245 บริษัท ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของระบบนิเวศด้านนวัตกรรมในภูมิภาค

รายละเอียดการแข่งขันและรางวัล
การแข่งขันเปิดรับสตาร์ทอัพจากหลากหลายประเทศ ได้แก่ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซาอุดีอาระเบีย อินเดีย สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ไทย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ โดยทีมที่ผ่านการคัดเลือกจะได้เข้าร่วมการแข่งขันรอบรองชนะเลิศระดับภูมิภาคแบบออนไลน์ในช่วงสิงหาคม/กันยายน 2568
ผู้เข้ารอบสุดท้าย 10 ทีมจะได้เข้าร่วมการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ SAPMENA Grand Finale ที่สิงคโปร์ในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2568 โดยผู้ชนะสามอันดับแรกจะได้รับโอกาสพัฒนาโครงการนำร่องเชิงพาณิชย์พร้อมทุนสนับสนุนจากลอรีอัล และเข้าร่วมโปรแกรมพี่เลี้ยงเป็นเวลาหนึ่งปี โดยมีพันธมิตรสำคัญอย่าง เอคเซนเชอร์ กูเกิล และเมตา ร่วมสนับสนุนโครงการ
สตาร์ทอัพที่ประสบความสำเร็จในโครงการนำร่องอาจได้โอกาสขยายความร่วมมือไปสู่ระดับโลกผ่านเครือข่ายของลอรีอัล โดยใช้โซน SAPMENA เป็นจุดเริ่มต้นในการเข้าถึงเครือข่ายพันธมิตรที่กว้างขวางและข้อมูลเชิงลึกของตลาด
สำหรับผู้ที่สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแข่งขันและการสมัคร สามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ เว็บไซต์ของการแข่งขัน ก่อนหมดเขตรับสมัครในวันที่ 30 พฤษภาคม 2568
ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ ช่องทางโซเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok