อินเทล ประกาศความสำเร็จของโปรเซสเซอร์ Intel Xeon 6 รุ่นใหม่ที่มาพร้อม Efficient-cores (E-cores) ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่ช่วยเร่งการนำโซลูชันเข้าสู่ตลาดผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรในอุตสาหกรรม 5G Core นับตั้งแต่เปิดตัวในเดือนมิถุนายน 2567 โปรเซสเซอร์รุ่นนี้ได้รับการทดสอบและยืนยันว่าสามารถเพิ่มประสิทธิภาพได้สูงถึง 3.2 เท่า ปรับปรุงประสิทธิภาพต่อวัตต์ได้ 3.8 เท่า และเมื่อใช้ร่วมกับ Intel Infrastructure Power Manager ยังช่วยลดการใช้พลังงานขณะทำงานได้ถึง 60%
เปลี่ยนแปลงวงการด้วยเทคโนโลยี E-cores
“อุตสาหกรรมเครือข่าย 5G Core ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องผ่านขุมพลังของโปรเซสเซอร์ Intel Xeon ซึ่งปัจจุบันเป็นหัวใจสำคัญของระบบเครือข่าย 5G ทั่วโลก” อเล็กซ์ ควัช รองประธานและผู้จัดการทั่วไปฝ่าย Wireline และ Core Network ของอินเทลกล่าว “อินเทลมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เห็นพันธมิตร 5G core ของเรานำ Intel Xeon 6 พร้อม E-cores ไปใช้อย่างรวดเร็ว พร้อมส่งมอบประโยชน์ให้แก่ลูกค้าได้ทันที”
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เทคโนโลยีนี้โดดเด่นคือการลดระยะเวลานำผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาด (Time to Market) สำหรับผู้ให้บริการโทรคมนาคม (CoSPs) ที่ต้องการลดการใช้พลังงานและขนาดของโครงสร้างพื้นฐาน ขณะที่ยังคงรักษาประสิทธิภาพในระดับสูงสุด ความท้าทายเหล่านี้เป็นสิ่งที่ผู้ให้บริการต้องเผชิญเมื่อปรับปรุงเครือข่ายให้ทันสมัย
Intel Infrastructure Power Manager: นวัตกรรมจัดการพลังงานอัจฉริยะ
อินเทลได้เปิดตัว Intel Infrastructure Power Manager ในงาน MWC 2024 ซึ่งเป็นโซลูชันซอฟต์แวร์ที่ช่วยลดการใช้พลังงานของเซิร์ฟเวอร์ในสภาพแวดล้อมของผู้ให้บริการโทรคมนาคมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งบนโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่เดิมและที่กำลังพัฒนาใหม่
เทคโนโลยีนี้ช่วยติดตามการใช้งานคอร์ของซีพียูในระดับมิลลิวินาที ทำให้สามารถปรับความถี่ได้อย่างแม่นยำและลดการใช้พลังงาน โดยไม่ส่งผลกระทบต่อตัวชี้วัดประสิทธิภาพสำคัญ เช่น อัตราการส่งข้อมูล (Throughput) ความหน่วง (Latency) และการสูญเสียแพ็คเก็ต (Packet Drop)
พันธมิตรชั้นนำยอมรับและนำไปใช้งานจริง
ความร่วมมือระหว่างอินเทลกับผู้ให้บริการโทรคมนาคมและผู้ผลิตอุปกรณ์ชั้นนำทั่วโลกแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของเทคโนโลยีนี้:
- BT Group บริษัทโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ของสหราชอาณาจักรกำลังทำงานร่วมกับอินเทลเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน 5G ที่มีประสิทธิภาพสูง คุ้มค่า และประหยัดพลังงาน โดยคาดว่าจะนำ Intel Xeon 6 พร้อม E-cores มาใช้สร้างนวัตกรรมให้ลูกค้าและลดการใช้พลังงานในเครือข่าย
- Dell Technologies เซิร์ฟเวอร์ Dell PowerEdge R670 ขับเคลื่อนด้วยโปรเซสเซอร์ Intel Xeon 6 พร้อม E-cores ได้รับการออกแบบเฉพาะสำหรับปรับปรุงประสิทธิภาพเครือข่าย 5G Core ช่วยให้ผู้ให้บริการสามารถลดระยะเวลาและต้นทุนในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน
- Ericsson โซลูชัน Cloud Native Infrastructure (CNIS) ของ Ericsson ร่วมกับโปรเซสเซอร์ Intel Xeon 6 พร้อม E-cores ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพต่อวัตต์ได้ถึง 3.8 เท่า โดยความร่วมมือระหว่างทั้งสองบริษัทช่วยลดระยะเวลาในการนำเทคโนโลยีใหม่ออกสู่ตลาดจากหลายปีเหลือเพียงไม่กี่เดือน
- Nokia นำเสนอโซลูชันประหยัดพลังงานสำหรับ 5G Packet Core โดยใช้โปรเซสเซอร์ Intel Xeon 6 พร้อม E-cores ซึ่งสามารถลดการใช้พลังงานขณะทำงานได้ถึง 60% เมื่อเทียบกับระบบเดิม การบูรณาการฟังก์ชัน E-core เข้ากับ 5G Packet Core NF ช่วยให้รองรับคอร์ได้มากขึ้น ปรับปรุงประสิทธิภาพ และมอบโซลูชันที่รับรู้ภาระงานและการใช้พลังงานได้อย่างชาญฉลาด
- Samsung เตรียมเปิดตัวแพลตฟอร์ม Cloud Native Core รุ่นใหม่ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2568 โดยใช้โปรเซสเซอร์ Intel Xeon 6 พร้อม E-cores เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพขึ้น 3.2 เท่าและเพิ่มความหนาแน่นของระบบอย่างมีนัยสำคัญ
- SK Telecom วางแผนติดตั้งเซิร์ฟเวอร์ HPE DL340 ที่ใช้โปรเซสเซอร์ Intel Xeon 6 พร้อม E-cores สำหรับโครงสร้างพื้นฐาน 5G Core ในปี 2568 ซึ่งจะช่วยเพิ่มความจุต่อซีพียูได้ถึง 3.2 เท่าภายใต้ข้อจำกัดด้านพลังงานที่คงที่ พร้อมคาดการณ์ว่าจะช่วยประหยัดพลังงานซีพียูได้ประมาณ 32% ต่อวัน
มุ่งสู่อนาคตของเครือข่าย 5G ที่ยั่งยืน
การเปิดตัวโปรเซสเซอร์ Intel Xeon 6 พร้อม E-cores และ Intel Infrastructure Power Manager แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของอินเทลในการพัฒนาเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ความต้องการของอุตสาหกรรมโทรคมนาคมในยุค 5G โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านประสิทธิภาพและการประหยัดพลังงาน
อินเทลเข้าร่วมงาน MWC 2025 (ฮอลล์ 3 บูธ 3E31) พร้อมการสาธิตการทำงานของโปรเซสเซอร์ Intel Xeon 6 พร้อม E-cores และเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Intel Infrastructure Power Manager ซึ่งจะเป็นเทคโนโลยีสำคัญในการขับเคลื่อนอนาคตของเครือข่าย 5G ที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืน
ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ ช่องทางโซเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok