รีวิว HUAWEI eKitStor Xtreme 200E M.2 NVMe SSD กับก้าวแรกของหัวเว่ยที่มาลุยตลาด SSD จัดเต็มด้วยความเร็วเขียนอ่านระดับท็อป พร้อมความทนทานและคุณภาพระดับสากล ในราคาที่ทุกคนเข้าถึงได้
ในช่วงที่ผ่านมา HUAWEI ได้พิสูจน์ตัวเองในฐานะผู้นำด้านนวัตกรรมเทคโนโลยีในหลากหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน แล็ปท็อป หรืออุปกรณ์เน็ตเวิร์ค และล่าสุด บริษัทได้ก้าวเข้าสู่ตลาดอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลอย่างจริงจัง ด้วยการเปิดตัว eKitStor Xtreme 200E M.2 NVMe SSD ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีล้ำสมัยและการรับประกันคุณภาพระดับมืออาชีพ ถือเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นในการพัฒนาโซลูชันด้านการจัดเก็บข้อมูลที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานในยุคดิจิทัล
HUAWEI eKitStor Xtreme 200E ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย ด้วยความเร็วในการอ่านข้อมูลสูงสุดถึง 7,000 MB/s ในรุ่น 1TB มาตรฐาน PCIe Gen 4.0 x4 พร้อม NVMe 2.0 และการรับประกันความทนทานในการเขียนข้อมูลสูงถึง 400 TBW ถือว่าน่าสนใจไม่น้อยเลย โดยเฉพาะเมื่อดูกันถึงความคุ้มค่าและประสิทธิภาพที่ได้รับ
การออกแบบ
HUAWEI eKitStor Xtreme 200E แบบไม่มี DRAM ในตัว มาในขนาดมาตรฐาน M.2 2280 ด้วยความยาว 80 มิลลิเมตร กว้าง 22 มิลลิเมตร และหนาเพียง 2.70 มิลลิเมตร พร้อมน้ำหนักที่เบาเพียง 8 กรัม ทำให้สามารถติดตั้งได้อย่างลงตัวทั้งในคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะและโน้ตบุ๊ก
ด้านการระบายความร้อน HUAWEI ได้ออกแบบให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในช่วงอุณหภูมิตั้งแต่ 0 ถึง 70 องศาเซลเซียส ซึ่งครอบคลุมการใช้งานในสภาพแวดล้อมทั่วไปได้อย่างสบาย นอกจากนี้ยังรองรับการทำงานในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสัมพัทธ์ตั้งแต่ 5% ถึง 95% โดยไม่มีการควบแน่น ทำให้มั่นใจได้ว่าจะทำงานได้อย่างเสถียรแม้ในสภาพอากาศร้อนชื้นแบบประเทศไทย
ความแข็งแรงทนทานก็เป็นอีกจุดเด่นที่น่าสนใจ โดย eKitStor Xtreme 200E ผ่านการทดสอบการทนต่อการสั่นสะเทือนที่ความถี่ 20-2000Hz ที่แรง 20G และทนแรงกระแทกได้สูงถึง 1,500G ที่ 0.5 มิลลิวินาที ซึ่งเกินมาตรฐานการใช้งานทั่วไปมาก ทำให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลของคุณจะปลอดภัยแม้ในสถานการณ์ที่มีการกระแทกหรือสั่นสะเทือนรุนแรง นอกจากนี้ยังได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยระดับสากลทั้ง RoHS, CE, WEEE, VCCI และ KC อีกด้วย
สเปคและประสิทธิภาพ
eKitStor Xtreme 200E มาพร้อมกับมาตรฐาน PCIe Gen 4.0 x4 และ NVMe 2.0 ที่ได้รับความนิยมและใช้กันแพร่หลายที่สุดในปัจจุบัน ทำความเร็วในการอ่านข้อมูลได้สูงสุดถึง 7,000 MB/s และเขียนข้อมูลได้ 6,500 MB/s ในรุ่น 1TB ส่วนรุ่น 512GB ก็ทำความเร็วได้ไม่น้อยหน้า ด้วยความเร็วอ่าน 6,600 MB/s และเขียน 3,400 MB/s ซึ่งถือว่าเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป
ในด้านประสิทธิภาพการทำงานแบบสุ่ม (Random Access) ที่สำคัญมากสำหรับการใช้งานจริง รุ่น 1TB สามารถทำ Random Read 4K ได้สูงถึง 900K IOPS และ Random Write 4K ที่ 1,000K IOPS ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าประทับใจมาก โดยเฉพาะในการใช้งานที่ต้องการการตอบสนองที่รวดเร็ว เช่น การเปิดโปรแกรม การโหลดเกม หรือการทำงานกับไฟล์ขนาดเล็กจำนวนมาก
ที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือการรองรับ Host Memory Buffer (HMB) และระบบ S.M.A.R.T ที่ช่วยในการจัดการหน่วยความจำและตรวจสอบสถานะของไดรฟ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในด้านการใช้พลังงาน eKitStor Xtreme 200E ใช้พลังงานสูงสุดเพียง 5.50W ในโหมดอ่านและ 4.50W ในโหมดเขียน พร้อมโหมดประหยัดพลังงาน L1.2 ที่ใช้พลังงานเพียง 3mW เท่านั้น
ความทนทานก็เป็นอีกจุดแข็งที่ไม่ควรมองข้าม ด้วยค่า MTBF (Mean Time Between Failures) ที่สูงถึง 1.5 ล้านชั่วโมง และค่า TBW (Total Bytes Written) ที่ 400TB สำหรับรุ่น 1TB และ 200TB สำหรับรุ่น 512GB ที่เหมาะสำหรับการใช้งานหนักได้อย่างไม่ต้องกังวล
ทดสอบลองใช้งาน
ในการทดสอบ ทีมงาน TechOffside เราติดดั้ง eKitStor Xtreme 200E รุ่นความจุ 1TB บนคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป ด้วยความที่เป็นมาตรฐา M.2 ทำให้ใช้งานรวมกับเมนบอร์ดส่วนใหญ่ในปัจจุบันได้อย่างไม่มีปัญหา โดยเราติดตั้งเป็น Drive D เพื่อใช้เป็นพื้นที่สำหรับเก็บไฟล์งานและติดตั้งโปรแกรม
ผลการทดสอบ Benchmark ด้วยโปรแกรม CrystalDiskMark ถือว่าทำได้ในระดับใกล้เคียงกับมาตรฐาน กับความเร็วในการอ่านที่ 6579MB/s และความเร็วในการเขียนที่ 6197 MB/s
เมื่อลองใช้งานด้านวิดีโอ การตัดต่อไฟล์วิดีโอ 4K บน Adobe Premiere Pro ทำได้อย่างลื่นไหล ไม่มีอาการสะดุดหรือกระตุก แม้จะทำงานกับไฟล์ขนาดใหญ่หลายๆ ไฟล์พร้อมกัน การ Scrubbing timeline ก็ทำได้อย่างราบรื่น ส่วนการ Export ไฟล์ก็ทำได้เร็วกว่า SATA SSD ทั่วไปอย่างเห็นได้ชัด เช่นเดียวกับการทำงานด้านกราฟิกบน Photoshop หรือ Illustrator ที่การโหลดไฟล์ขนาดใหญ่และการทำงานกับเลเยอร์จำนวนมากทำได้อย่างรวดเร็ว
ด้านการเล่นเกม นอกจากเวลาในการโหลดเกมจะลดลงอย่างมากแล้ว การสตรีมข้อมูลระหว่างเล่นเกมแบบ Open-world ที่ต้องโหลดแมพขนาดใหญ่ก็ทำได้อย่างต่อเนื่องไม่มีสะดุด ตัว SSD ก็สามารถรับมือได้อย่างดีเยี่ยม ไม่พบปัญหา Texture Popping หรือการโหลดแมพล่าช้าแต่อย่างใด แม้จะเล่นต่อเนื่องเป็นเวลานาน อุณหภูมิการทำงานก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ
พร้อมกันนี้ เรายังได้ทดสอบการใช้งาน โดยติดตั้ง eKitStor Xtreme 200E กับอุปกรณ์ Enclosure เพื่อใช้งานเป็น External Drive ก็ถือว่าทำได้ดี ด้วยตัว SSD นั้นผ่านมาตรฐานในการทนต่อการสั่นสะเทือนและการกระแทกได้เป็นอย่างดี จึงเหมาะสำหรับการนำมาใช้แบบพกพาได้เป็นอย่างดี
สำหรับความเร็วในการใช้งาน ก็ขึ้นอยู่กับมาตรฐานของอุปกรณ์ Enclosure ที่ใช้ว่ารองรับสูงสุดที่เท่าไร สำหรับ รีวิว นี้ เราใช้กับรุ่นที่รองรับมาตรฐาน USB 3.2 เมื่อทดสอบใช้งานก็พบว่าสามารถทำความเร็วทั้งการเขียนและอ่านได้สูงสุดของประสิทธิภาพ ซึ่งถ้าใครอยากได้ความเร็วที่มากขึ้น แนะนำให้ลองใช้กับตัวเคสใส่ที่รองรับอย่าง Thunderbolt ก็จะช่วยเพิ่มความสะดวกในการทำงาน ของคนที่ต้องการสลับไฟล์ไปใช้ในหลายเครื่องโดยที่ไม่ต้องพกฮาร์ดดิสก์ขนาดใหญ่ให้วุ่นวาย
ความทนทาน
HUAWEI eKitStor Xtreme 200E มาพร้อมกับความมั่นใจในคุณภาพ ดูได้จากค่า TBW (Total Bytes Written) ที่สูงถึง 400TB สำหรับรุ่น 1TB และ 200TB สำหรับรุ่น 512GB นั่นหมายความว่าคุณสามารถเขียนข้อมูลลงไปได้ถึง 400 เทราไบต์สำหรับรุ่น 1TB ก่อนที่จะถึงขีดจำกัดของอุปกรณ์ ซึ่งในการใช้งานจริงแม้แต่ผู้ใช้งานระดับมืออาชีพก็แทบจะไม่สามารถเขียนข้อมูลได้ถึงขนาดนั้นในระยะเวลาอันสั้น นอกจากนี้ยังมีค่า MTBF (Mean Time Between Failures) ที่สูงถึง 1.5 ล้านชั่วโมง ซึ่งสะท้อนถึงความน่าเชื่อถือในระยะยาว
สรุป รีวิว HUAWEI eKitStor Xtreme 200E M.2 NVMe SSD น่าสนใจและคุ้มค่าแค่ไหน?
ถือว่าเป็นการก้าวแรกสู่ตลาดด้าน SSD ของหัวเว่ยที่ทำได้น่าประทับใจไม่น้อย ด้วยความเร็วในการอ่านเขียนข้อมูลในระดับสูงสุดของ PCIe Gen 4 ที่สามารถทำได้ และด้านประสิทธิภาพก็ถือว่าทำได้ดีทั้งเรื่องการทำงานแบบสุ่มที่ยอดเยี่ยม และความทนทานที่ TBW สูงสุดถึง 400TB
ถามว่าเหมาะสำหรับใคร เราแนะนำเลยสำหรับสายทำงานตัดต่อวิดีโอและครีเอเตอร์ ที่ต้องการในเรื่องความเร็วในการเขียนอ่านไฟล์และพื้นที่จัดเก็บขนาดใหญ่ หรือจะเป็นสายเกมที่ต้องการลดเวลาในการโหลดเกมระหว่างเล่น
และด้วยมาตรฐานที่เป็น PCIe Gen 4 NVMe ที่ใช้งานกันอย่างแพร่หลาย ก็เหมาะทั้งสำหรับคนที่อยากจะประกอบคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่ หรือใครที่อยากจะอัปเกรดประสิทธิภาพของคอมเครื่องเก่าให้มีความจุและความเร็วมากขึ้น ก็ถือว่าน่าสนใจ
แต่เราก็แอบเสียดายอยู่ว่าขนาดของ SSD ที่เข้ามาจำหน่ายมีไซส์เดียว ทำให้การใช้งานกับแล็ปท็อปขนาดเล็กหรือเครื่อง PC Console พกพารุ่นใหม่ๆ ไม่สามารถใช้งานได้ และไม่มีรุ่นพร้อม Heatsink จึงไม่สามารถเอาไปใช้งานกับ PlayStation 5 ได้ ซึ่งจุดนี้อาจจะต้องหาติดตั้งเพิ่มต่างหากเอง
ดูกันที่ของราคาที่วางจำหน่ายในประเทศไทย HUAWEI eKitStor Xtreme 200E M.2 NVMe SSD มีเข้ามาจำหน่ายในไทยด้วยกัน 2 ความจุคือ
- ความจุ 1TB ราคา 2,995 บาท
- ความจุ 512GB ราคา 1,995 บาท
หากคุณกำลังมองหา M.2 NVMe SSD ที่มีประสิทธิภาพสูง ทนทาน และราคาสมเหตุสมผล HUAWEI eKitStor Xtreme 200E ที่แม้ว่าจะเป็นน้องใหม่ แต่ก็ถือว่าคุ้มค่าน่าใช้เลยทีเดียวครับ สำหรับใครที่สนใจสั่งซื้อ สามารถดูรายละเอียดได้ ที่นี่
ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ Google News
ช่องทางโซลเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok