ดาต้าเซ็นเตอร์ AI

ผลวิจัยชี้ ดาต้าเซ็นเตอร์ AI โต 160% ใน 2 ปี เสี่ยงวิกฤตพลังงานทั่วโลก

จากรายงานการวิเคราะห์ล่าสุดของ การ์ทเนอร์ บริษัทวิจัยและให้คำปรึกษาด้านเทคโนโลยีชั้นนำของโลก เปิดเผยว่าการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของ ไฮเปอร์สเกล ดาต้าเซ็นเตอร์ เพื่อรองรับการใช้งาน AI และ GenAI กำลังสร้างความท้าทายด้านพลังงานครั้งใหญ่ โดยคาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมดาต้าเซ็นเตอร์จะเติบโตสูงถึง 160% ภายในสองปีข้างหน้า ส่งผลให้ความต้องการใช้ไฟฟ้าพุ่งสูงเกินกว่าความสามารถในการจ่ายไฟของผู้ให้บริการไฟฟ้าในปัจจุบัน พร้อมประเมินว่า 40% ของดาต้าเซ็นเตอร์ AI จะประสบปัญหาด้านพลังงานภายในปี 2027 ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อราคาบริการคลาวด์ที่อาจเพิ่มขึ้น 10 ถึง 100 เท่าของราคาปัจจุบัน

ดาต้าเซ็นเตอร์ AI

วิกฤตพลังงานส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของดาต้าเซ็นเตอร์ทั่วโลก

การวางแผนสร้างดาต้าเซ็นเตอร์ขนาดใหญ่เพื่อรองรับข้อมูลมหาศาลสำหรับการฝึกฝนและใช้งาน Large Language Models (LLMs) ซึ่งเป็นพื้นฐานของการพัฒนาแอปพลิเคชัน GenAI กำลังเผชิญกับความท้าทายด้านพลังงาน โดยหลายประเทศในยุโรปได้ปฏิเสธการขออนุญาตก่อสร้างดาต้าเซ็นเตอร์ เนื่องจากความต้องการพลังงานเกินกำลังการผลิตไฟฟ้าในท้องถิ่น ขณะที่ ไอร์แลนด์ และ สิงคโปร์ ถึงขั้นประกาศจำกัดหรือระงับการเติบโตของดาต้าเซ็นเตอร์อย่างสิ้นเชิง

การแก้ปัญหาด้วยการสร้างระบบส่งไฟฟ้า การจัดจำหน่าย และเพิ่มกำลังการผลิตใหม่ อาจต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะเริ่มใช้งานได้ ส่งผลให้องค์กรต่างๆ ต้องเตรียมแผนรับมือกับความเสี่ยงด้านพลังงานตั้งแต่วันนี้ โดยต้องคำนึงถึงผลกระทบเชิงลบที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้พลังงานสำหรับการใช้งานและติดตั้ง AI ทั้งในองค์กรและบนคลาวด์

AWS นำร่องโมเดลธุรกิจใหม่ ตั้งดาต้าเซ็นเตอร์ใกล้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์

ปัญหาสำคัญอีกประการหนึ่งคือโครงสร้างพื้นฐานสายทองแดงของระบบไฟฟ้า ซึ่งแทบไม่มีการพัฒนานับตั้งแต่ทศวรรษ 1960 ทำให้เกิดข้อจำกัดในการจ่ายไฟฟ้า Amazon Web Services (AWS) จึงแก้ปัญหาด้วยการตั้งดาต้าเซ็นเตอร์ขนาด 750 เมกะวัตต์ ใกล้กับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาด 2.3 กิกะวัตต์ในรัฐเพนซิลเวเนีย เพื่อรับประกันการเติบโตในระยะยาวและป้องกันปัญหาการหยุดชะงักด้านพลังงาน

สำหรับประเทศไทย แม้ว่าโมเดลนี้จะยังไม่สามารถนำมาใช้ได้ในทันทีเนื่องจากยังไม่มีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ แต่การทบทวนร่าง Power Development Plan 2024 (PDP) ที่มีแผนพัฒนา Small Modular Nuclear Reactors (SMR) ขนาด 300 เมกะวัตต์ต่อหน่วย อาจเป็นทางออกในอนาคต

Tesla พัฒนานวัตกรรมซูเปอร์คอมพิวเตอร์ประหยัดพลังงาน

Tesla กำลังแก้ปัญหาการใช้พลังงานที่เพิ่มขึ้นด้วยการพัฒนาศูนย์ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ Dojo เพื่อรองรับการขับขี่อัตโนมัติระดับ 5 ที่รถยนต์สามารถขับเคลื่อนได้โดยไม่ต้องมีมนุษย์ควบคุม โดยสามารถประมวลผลสตรีมวิดีโอแบบเรียลไทม์จากยานพาหนะด้วยการใช้พลังงานน้อยกว่าซูเปอร์คอมพิวเตอร์ทั่วไปถึง 30%

ผู้ผลิตชิปรายใหญ่อื่นๆ ก็กำลังพัฒนาและติดตั้งดาต้าเซ็นเตอร์ของตนเองในลักษณะเดียวกัน การแข่งขันเพื่อลดการใช้พลังงานและปรับปรุงประสิทธิภาพของ AI จะสร้างประโยชน์อย่างมากสำหรับคนรุ่นต่อไป อย่างไรก็ตาม ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีชิปเพียงอย่างเดียวไม่สามารถทดแทนความจำเป็นในการพัฒนาวิศวกรรมซอฟต์แวร์ AI และสถาปัตยกรรมองค์กรได้

แนวทางการเตรียมพร้อมรับมือวิกฤตพลังงานสำหรับองค์กร

องค์กรที่วางแผนใช้โครงสร้างพื้นฐานคลาวด์สำหรับแอปพลิเคชัน AI และ GenAI ควรตรวจสอบภาพรวมการใช้พลังงานของผู้ให้บริการคลาวด์ และติดตามเครื่องมือที่แสดงกำลังการผลิตแบบเรียลไทม์ พร้อมกำหนดแผนสำรองในกรณีที่พลังงานไม่เพียงพอ โดยเฉพาะในประเทศที่มีการระงับการก่อสร้างดาต้าเซ็นเตอร์

นอกจากนี้ องค์กรควรพิจารณาชดเชยต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากการใช้พลังงาน ด้วยการสรรหาวิธีสร้างรายได้จากข้อมูลและบริการ AI รวมถึงตรวจสอบว่าการเปลี่ยนแปลงกำลังการผลิตต้องไม่ส่งผลกระทบต่อนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ของดาต้าเซ็นเตอร์

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวโน้มการเติบโตของ ดาต้าเซ็นเตอร์ AI และผลกระทบด้านพลังงาน สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ การ์ทเนอร์

ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ ช่องทางโซเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok

Online Content Manager with over 10 years of experience working in the news, technology, and telecom industries.