ข้อมูล สเปค ดีไซน์ Samsung Galaxy S25 Plus สมาร์ตโฟนเรือธงรุ่นกลาง เราจะมาสรุปข้อมูลทั้งหมด จากข่าวลือ ข้อมูลหลุด ที่น่ามีความเป็นไปได้ ก่อนจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ในงาน Samsung Unpacked วันที่ 23 มกราคมนี้
จากข้อมูลที่รั่วไหลออกมาก่อนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ Galaxy S25 Plus แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาที่มุ่งเน้นการยกระดับประสบการณ์ผู้ใช้ในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นระบบกล้องที่เสริมพลังด้วย AI เพื่อภาพถ่ายที่สมบูรณ์แบบ หน้าจอ 6.7 นิ้วระบบซอฟต์แวร์ One UI 7 ที่ได้รับการปรับแต่งให้ตอบโจทย์การใช้งานยิ่งขึ้น รวมถึงการดีไซน์ที่ปรับโฉมให้บางลง ส่วนชิปเซ็ตจะใช้เป็น Snapdragon 8 Elite ที่ผลิตด้วยกระบวนการ 3 นาโนเมตร ซึ่งจะมาพร้อมกับประสิทธิภาพที่เหนือชั้นในทุกการใช้งาน
การออกแบบ และ ดีไซน์
Samsung ได้ปรับโฉมยกเครื่องหน้าตาของ Galaxy S25 Plus ที่มาพร้อมดีไซน์บางเฉียบเพียง 7.3 มิลลิเมตร ลดลงจากรุ่นก่อนที่มีความหนา 7.7 มิลลิเมตร นับเป็นการพัฒนาที่น่าทึ่งเมื่อพิจารณาว่าตัวเครื่องยังคงความแข็งแกร่งด้วยวัสดุระดับพรีเมียมอย่าง Armor Aluminum ที่ผ่านการพัฒนาให้ทนทานยิ่งขึ้น พร้อมปกป้องทั้งด้านหน้าและหลังด้วยกระจก Gorilla Glass Victus ที่ต้านทานรอยขีดข่วนได้อย่างดีเยี่ยม
จุดเด่นที่สะดุดตาของ Galaxy S25 Plus คือการออกแบบชุดกล้องด้านหลังในรูปแบบวงแหวน ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจาก Galaxy Z Fold 6 สร้างเอกลักษณ์ที่โดดเด่นและแตกต่างจากรุ่นก่อน การจัดวางเลนส์แบบใหม่นี้ไม่เพียงแต่สวยงาม แต่ยังช่วยลดความนูนของกล้อง ทำให้วางเครื่องได้มั่นคงยิ่งขึ้นเมื่อใช้งานบนโต๊ะ
ด้านขอบตัวเครื่องยังคงแนวทางการออกแบบแบบเรียบตรง (flat-edged) ที่ดูทันสมัยและจับถนัดมือ พร้อมกรอบจอบางเฉียบที่ให้พื้นที่แสดงผลได้กว้างขวางยิ่งขึ้น กล้องหน้าแบบ punch-hole ถูกจัดวางอย่างลงตัวโดยไม่รบกวนการมองเห็น ที่สำคัญ Samsung ยังรักษามาตรฐานการกันน้ำและฝุ่นระดับ IP68 ซึ่งสามารถแช่น้ำที่ความลึก 1.5 เมตรได้นานถึง 30 นาที
จากที่มีภาพหลุดออกมา Galaxy S25 Plus จะมีให้เลือก 4 สีหลักที่สะท้อนความเป็นพรีเมียม ได้แก่ Navy สีน้ำเงินเข้มดูหรูหรา Ice Blue สีฟ้าอ่อนสไตล์มินิมอล Silver Shadow สีเงินเมทัลลิกที่ดูทันสมัย และ Mint สีเขียวมิ้นต์ที่สดใสเป็นเอกลักษณ์ นอกจากนี้ยังคาดว่าจะมีสีพิเศษเพิ่มเติมจำหน่ายผ่านเว็บไซต์ Samsung.com โดยเฉพาะ




หน้าจอแสดงผล
สเปค จอแสดงผลของ Galaxy S25 Plus จะมีขนาด 6.7 นิ้ว พร้อมความละเอียดระดับ 1440p เท่ากับรุ่นก่อน แต่ Samsung ได้ปรับปรุงเทคโนโลยีการแสดงผลให้ก้าวล้ำยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการรองรับ HDR ที่แสดงรายละเอียดภาพได้สมจริงทั้งในพื้นที่มืดและสว่าง ทำให้การรับชมคอนเทนต์มีมิติกว่าที่เคย
และยังมีเทคโนโลยีอัตรารีเฟรชเรทแบบปรับอัตโนมัติ 1-120Hz ปรับความถี่ในการรีเฟรชหน้าจอให้เหมาะสมกับการใช้งานในแต่ละสถานการณ์ และยังมีการเคลือบผิวหน้าจอด้วยสารกันสะท้อนรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเดียวกับที่ใช้ใน Galaxy S24 Ultra ช่วยลดแสงสะท้อนจากสภาพแวดล้อมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้มองเห็นเนื้อหาบนหน้าจอได้ชัดเจนแม้อยู่กลางแจ้ง
แม้ Samsung จะไม่ได้เปลี่ยนแปลงสเปคพื้นฐานของหน้าจอมากนัก แต่การปรับปรุงในรายละเอียดเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในการพัฒนาคุณภาพการแสดงผล โดยเฉพาะการเพิ่มความสว่างสูงสุดที่คาดว่าจะสูงกว่ารุ่นก่อน
ประสิทธิภาพ
น่าจะแน่ชัดแน่นอนแล้วว่า Galaxy S25 Plus จะใช้ชิปเซ็ตเป็น Snapdragon 8 Elite for Galaxy ที่ปรับประสิทธิภาพมาพิเศษ ไม่มีการใช้ Exynos ในบางภูมิภาคเหมือนกับรุ่นที่แล้ว ถือว่าน่าจะทำให้แฟนๆ จำนวนไม่น้อยพอใจมากขึ้น
ด้วยสถาปัตยกรรมใหม่ล่าสุด Snapdragon 8 Elite แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาที่โดดเด่นในทุกด้าน โดยเฉพาะประสิทธิภาพด้านกราฟิกที่ทรงพลัง รองรับการเล่นเกมที่ต้องการทรัพยากรสูง พร้อมเทคโนโลยีประมวลผล AI ขั้นสูงที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในทุกมิติ
หน่วยความจำมีการปรับให้มีขนาด RAM เริ่มต้นมาตรฐานที่ 12GB เพื่อรองรับการทำงานหลายแอพพลิเคชั่นพร้อมกัน และการทำงานด้าน AI และจะมีตัวเลือกความจุ 2 ขนาดคือ 256GB และ 512GB โดยไม่มีรองรับการเพิ่ม microSD
ระบบระบายความร้อนภายใน คาดว่าจะมีการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น กับ vapor chamber ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ช่วยควบคุมอุณหภูมิของอุปกรณ์ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมแม้ในสภาวะการใช้งานหนัก
ระบบกล้อง
จาก สเปค ที่มีเผยแพร่ออกมา ค่อนข้างจะแน่นอนแล้วว่า ในส่วนของฮาร์ดแวร์นั้นจะเหมือนเดิมกับ Galaxy S24 Plus ทั้งหมด แต่คาดว่าใน Galaxy S25 Plus จะมีการผสานเทคโนโลยี AI และระบบประมวลผลภาพแบบใหม่ ที่ช่วยให้ได้ภาพและวิดีโอที่ดีขึ้น
สเปคกล้องจะประกอบด้วยกล้องหลักความละเอียด 50MP ทำงานร่วมกับเลนส์มุมกว้าง 12MP และกล้องซูม 10MP ที่ซูมออปติคอล 3 เท่า
เทคโนโลยีที่น่าสนใจในการถ่ายวิดีโอคือ การรองรับ LOG ซึ่งเป็นฟอร์แมตที่นิยมในการทำงานแบบมืออาชีพ เพื่อนำไปทำการเกรดสีและเก็บรายละเอียดได้ดีขึ้น รวมถึงจะมีฟีเจอร์ด้าน AI อย่าง Audio Eraser ที่จะช่วยแยกและลบเสียงรบกวนออกจากวิดีโอได้ดีขึ้น
นอกจากนี้ การถ่ายภาพมาโครและวิดีโอกลางคืนได้รับการพัฒนาให้ดีขึ้น แม้จะยังไม่ชัดเจนว่าฟีเจอร์นี้จะมีเฉพาะใน S25 Ultra หรือจะมีใน S25 Plus ด้วย แต่จากข้อมูลที่มี เราจะเห็นการปรับปรุงอัลกอริธึมการประมวลผลภาพที่ช่วยให้ภาพถ่ายระยะใกล้มีความคมชัดสูง และวิดีโอกลางคืนมีนอยส์น้อยลง
สำหรับกล้องหน้าเซลฟี่ ก็ยังคงสเปคเดิมเช่นกัน ด้วยความละเอียด 12MP ก็ได้รับการปรับปรุงด้วยระบบ AI ที่ช่วยแยกแยะใบหน้ากับการเบลอฉากหลังที่แม่นยำ พร้อมโหมดการถ่ายกลางคืนที่สวยงามเป็นธรรมชาติ
แบตเตอรี่และการชาร์จ
ความจุของแบตเตอรี่ใน Galaxy S25 Plus จะยังคงมีขนาด 4,900mAh เท่ากับรุ่นก่อน แต่การทำงานร่วมกับชิปเซ็ต Snapdragon 8 Elite ที่ผลิตด้วยกระบวนการ 3 นาโนเมตรนั้น จะช่วยลดการสิ้นเปลืองพลังงานได้อย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้ยาวนานขึ้นในการชาร์จแต่ละครั้ง
ระบบชาร์จยังคงเป็นการชาร์จแบบมีสาย 45W ที่สามารถเติมพลังงานจาก 0% ถึง 65% ได้ในเวลาเพียง 30 นาที ขณะที่การชาร์จไร้สาย 15W และรู้สึกว่าจะยังไม่รองรับการชาร์จไร้สายมาตรฐาน Qi2 ขนาด 25W
ซอฟต์แวร์
Galaxy S25 Plus มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 15 และ One UI 7 ที่ได้รับการปรับโฉมครั้งใหญ่ นำเสนอการออกแบบที่สดใหม่และฟีเจอร์อัจฉริยะที่ผสานเทคโนโลยี AI เข้ากับทุกการใช้งาน สิ่งที่น่าสนใจคือการพัฒนา UI ที่เน้นความลื่นไหลและความเรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยฟังก์ชันขั้นสูงที่ช่วยให้การใช้งานสมาร์ทโฟนเป็นเรื่องง่ายและชาญฉลาดยิ่งขึ้น
การอัพเดท One UI 7 นำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่สัมผัสได้ในทุกมิติ เริ่มจากการปรับปรุงการแสดงผลที่มีความคมชัดและสบายตามากขึ้น แอนิเมชันที่ลื่นไหลราวกับน้ำ และการจัดวางองค์ประกอบที่เน้นการเข้าถึงได้ง่ายด้วยการใช้งานมือเดียว นอกจากนี้ยังมีธีมสีใหม่ที่ปรับตัวตามเวลาและสภาพแวดล้อม ช่วยลดความเมื่อยล้าของดวงตาในการใช้งานระยะยาว
ความน่าประทับใจของ One UI 7 อยู่ที่การผสานรวม AI เข้ากับฟีเจอร์พื้นฐาน ระบบสามารถเรียนรู้พฤติกรรมการใช้งานและปรับแต่งประสบการณ์ให้เหมาะสมกับผู้ใช้แต่ละคน ตั้งแต่การจัดลำดับความสำคัญของการแจ้งเตือน การปรับแต่งการใช้พลังงาน ไปจนถึงการแนะนำแอพพลิเคชันที่เหมาะสมกับช่วงเวลาและสถานที่ต่างๆ ทำให้สมาร์ทโฟนกลายเป็นผู้ช่วยส่วนตัวที่เข้าใจความต้องการของผู้ใช้อย่างแท้จริง
คาดว่าเราจะได้เห็นฟีเจอร์ด้าน AI ใหม่ๆ เพิ่มเติมอีกหลายอย่าง ซึ่งจะต้องรอในการเปิดตัวอย่างเป็นทางการอีกครั้ง
สรุป ข้อมูล สเปค และ ราคา Samsung Galaxy S25 Plus ก่อนการเปิดตัว
จากข้อมูลที่มีหลุดออกมาก่อนหน้านี้ Galaxy S25 Plus ยังคงเป็นสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียมที่น่าสนใจ แม้การเปลี่ยนแปลงด้านฮาร์ดแวร์จะไม่ได้อัปเกรดแบบก้าวกระโดด แต่ Samsung ได้นำเสนอนวัตกรรมที่น่าประทับใจผ่านการออกแบบที่บางเฉียบ พร้อมดีไซน์กล้องแบบวงแหวนที่สร้างเอกลักษณ์ใหม่ให้กับซีรีส์ Galaxy S
จุดเปลี่ยนสำคัญของ S25 Plus อยู่ที่การผสานเทคโนโลยี AI เข้ากับทุกมิติของการใช้งาน ตั้งแต่การถ่ายภาพที่ฉลาดขึ้น การจัดการพลังงานที่มีประสิทธิภาพ ไปจนถึงระบบปฏิบัติการ One UI 7 ที่เรียนรู้และปรับตัวตามพฤติกรรมของผู้ใช้ ทำให้สมาร์ทโฟนไม่เพียงแต่ทำงานได้เร็วขึ้น แต่ยังเข้าใจและตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้ดียิ่งขึ้น
สำหรับข้อมูล สเปค และฟีเจอร์ต่างๆ ของ Samsung Galaxy S25 Plus ต้องรอการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน Samsung Unpacked วันที่ 23 มกราคมนี้ ซึ่งคาดว่าเรื่องของราคาเปิดตัวในไทย จะอยู่ในระดับเดียวกันกับ Galaxy S24 Plus และจะเริ่มวางจำหน่ายในไทยตั้งแต่ช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์นี้
สเปค Samsung Galaxy S25 Plus (ข้อมูลจากข่าวลือ)
ขนาดและน้ำหนัก
- ขนาดตัวเครื่อง: 158.4 x 75.8 x 7.3 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก: 190 กรัม
- วัสดุ: กรอบ Armor Aluminum และกระจก Gorilla Glass Victus ทั้งด้านหน้าและหลัง
- มาตรฐานกันน้ำ: IP68 (กันน้ำลึก 1.5 เมตร นาน 30 นาที)
จอแสดงผล
- ขนาดหน้าจอ: 6.7 นิ้ว
- ความละเอียด: 1440p (QHD+)
- เทคโนโลยี: Dynamic AMOLED 2X
- อัตรารีเฟรชเรท: 1-120Hz แบบปรับอัตโนมัติ
- รองรับ HDR10+
- เคลือบสารกันสะท้อนแสงรุ่นใหม่
- ระบบสแกนลายนิ้วมือใต้จอแบบอัลตร้าโซนิก
ประสิทธิภาพ
- ชิปเซ็ต: Snapdragon 8 Elite for Galaxy (3 นาโนเมตร)
- หน่วยความจำ RAM: 12GB LPDDR5X
- ความจุภายใน: 256GB/512GB (UFS 4.0)
- ระบบระบายความร้อน: Vapor Chamber รุ่นใหม่
กล้อง
กล้องหลัก:
- เซ็นเซอร์หลัก: 50MP, f/1.8
- มุมกว้าง: 12MP, f/2.2
- เทเลโฟโต้: 10MP, f/2.4 (ซูมออปติคอล 3x)
- รองรับการบันทึกวิดีโอแบบ LOG
- ระบบ AI ประมวลผลภาพอัจฉริยะ
- Audio Eraser สำหรับลบเสียงรบกวน
กล้องหน้า:
- ความละเอียด: 12MP
- รองรับการถ่ายภาพกลางคืนด้วย AI
- ระบบแยกแยะใบหน้าอัจฉริยะ
แบตเตอรี่และการชาร์จ
- ความจุ: 4,900mAh
- ชาร์จเร็วแบบมีสาย: 45W
- ชาร์จไร้สาย: 15W
- ชาร์จย้อนกลับ: 4.5W
- ระบบชาร์จอัจฉริยะ Adaptive Charging
- ระบบจัดการพลังงานด้วย AI
ซอฟต์แวร์
- ระบบปฏิบัติการ: Android 15
- ส่วนต่อประสานผู้ใช้: One UI 7
- รองรับการอัพเดทซอฟต์แวร์: 7 ปี
สีที่มีให้เลือก
- Navy (น้ำเงินเข้ม)
- Ice Blue (ฟ้าอ่อน)
- Silver Shadow (เงินเมทัลลิก)
- Mint (เขียวมิ้นต์)
ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ ช่องทางโซเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok