Money20/20 ผู้จัดงานมหกรรมฟินเทคระดับโลก เปิดเผยผลการวิจัยล่าสุดเกี่ยวกับอนาคตของอุตสาหกรรมฟินเทคในภูมิภาคเอเชียผ่านรายงาน “The Future of Fintech in APAC” พบว่าเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมการเงินดิจิทัล โดยเฉพาะในด้านบล็อกเชน การชำระเงินข้ามพรมแดน และการสร้างความร่วมมือด้านกฎระเบียบที่ส่งเสริมการเข้าถึงบริการทางการเงิน การวิจัยนี้ได้รวบรวมข้อมูลจากการสำรวจและสัมภาษณ์บริษัทฟินเทคชั้นนำกว่า 50 แห่งทั่วภูมิภาคเอเชีย รวมถึงประเทศไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย และฮ่องกง
ภูมิทัศน์การธนาคารยุคใหม่: การผสานรูปแบบดั้งเดิมและดิจิทัล
ผลการวิจัยพบว่าเกือบหนึ่งในสามของบริษัทที่เข้าร่วมการวิจัย ซึ่งประกอบด้วยธนาคาร บริษัทฟินเทค และผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม ต่างมุ่งเน้นการขยายธุรกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดย 95% ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่าการเข้าถึงบริการทางการเงินเป็นประเด็นสำคัญอันดับต้นๆ ในภูมิภาค
ธนาคารในภูมิภาคกำลังปรับตัวครั้งใหญ่ โดยผสานการให้บริการทั้งรูปแบบดิจิทัลและแบบดั้งเดิม พร้อมนำเทคโนโลยีล้ำสมัยอย่าง AI, บล็อกเชน และ cloud computing มาใช้เพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ แม้ว่าธนาคารดิจิทัลทั่วโลกเพียง 5% เท่านั้นที่ทำกำไรได้ แต่ช่องว่างระหว่างธนาคารดิจิทัลและธนาคารรูปแบบดั้งเดิมกำลังแคบลง เนื่องจากทั้งสองรูปแบบต่างนำเทคโนโลยีและกลยุทธ์ที่คล้ายคลึงกันมาใช้เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าและรับมือกับความท้าทายด้านกฎระเบียบ

เอเชียตะวันออกเฉียงใต้นำหน้าด้านการชำระเงินดิจิทัล
ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แสดงให้เห็นถึงการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในด้านการชำระเงินดิจิทัล โดยมีอัตราการเติบโตของการชำระเงินแบบไร้เงินสดสูงถึง 20.4% ต่อปี ซึ่งสูงกว่าทั้งยุโรปและอเมริกาเหนือ ระบบการชำระเงินอย่าง PayNow, พร้อมเพย์ และ UPI ได้รับการยอมรับอย่างรวดเร็ว
จากบริษัทที่ร่วมการสำรวจ เกือบ 20% จัดอันดับให้บล็อกเชนเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีชั้นนำที่ส่งผลกระทบต่อฟินเทคในภูมิภาคเอเชีย โดยความร่วมมือระหว่าง ธนาคารไทยพาณิชย์ กับ Lightnet และโครงการ Ubin Phase 5 ของสิงคโปร์ แสดงให้เห็นถึงบทบาทของบล็อกเชนในการปฏิวัติการชำระเงินระหว่างประเทศ นอกจากนี้ โครงการริเริ่มอย่าง Project Nexus ยังช่วยผนวกระบบการชำระเงินแบบเรียลไทม์เข้าด้วยกัน
การเงินแบบฝังตัว: มุ่งสู่ประสบการณ์ผู้ใช้ที่ไร้รอยต่อ
การเงินแบบฝังตัวกำลังเปลี่ยนแปลงระบบนิเวศฟินเทคของเอเชียผ่านการบูรณาการบริการทางการเงินเข้ากับแพลตฟอร์มที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเงิน ผู้นำในตลาดอย่าง GCash, Boost และ BigPay กำลังปรับเปลี่ยนแนวทางในการชำระเงิน การกู้ยืม และการเข้าถึงบริการทางธนาคาร โดยมุ่งเน้นการปฏิบัติตามกฎระเบียบและทำงานร่วมกับหน่วยงานกำกับดูแลเพื่อสร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัยให้แก่ผู้บริโภค

ความท้าทายและโอกาสในการเข้าถึงบริการทางการเงิน
การวิจัยยังระบุถึงอุปสรรคสำคัญในการเข้าถึงบริการทางการเงินในภูมิภาค ซึ่งรวมถึงข้อจำกัดด้านความรู้ดิจิทัล โครงสร้างพื้นฐานที่ยังไม่พร้อม และความท้าทายด้านกฎระเบียบ โดยบริษัทที่ร่วมตอบแบบสอบถามเกือบ 20% วางแผนการขยายตลาด 19% มุ่งเน้นนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ 15% ให้ความสำคัญกับการสร้างพันธมิตร และ 12% เน้นการปฏิบัติตามกฎระเบียบ
คุณ Ian Fong Asia Content Director ของ Money 20/20 กล่าวว่า “ข้อค้นพบจากการวิจัยนี้เน้นย้ำถึงความสำคัญของแนวทางที่ยึดความต้องการของผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนความสำเร็จของอุตสาหกรรมฟินเทคในปัจจุบัน เรากำลังเห็นการเปลี่ยนแปลงที่หน่วยงานกำกับดูแลและธนาคารรูปแบบดั้งเดิมเริ่มพูดคุยและร่วมมือกับผู้เล่นฟินเทคหน้าใหม่ในการยกระดับประสบการณ์ผู้ใช้พร้อมขยายการเข้าถึงของบริการต่างๆ ให้แก่ลูกค้า ซึ่งเอื้อต่อระบบนิเวศที่ครอบคลุมมากขึ้น”
แนวทางการดำเนินการวิจัย
รายงาน The Future of Fintech in APAC จัดทำขึ้นระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงพฤศจิกายน 2567 ใช้วิธีการวิจัยแบบผสมผสานทั้งเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณ ผ่านการสัมภาษณ์และสำรวจบริษัทฟินเทคชั้นนำกว่า 50 รายจากทั่วภูมิภาคเอเชีย ความหลากหลายขององค์กรและผู้เข้าร่วมช่วยให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลเชิงลึกที่รวบรวมได้สะท้อนถึงความท้าทาย โอกาส และการเปลี่ยนแปลงของตลาดในภูมิภาคได้อย่างครอบคลุม
งาน Money20/20 Asia จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 22-24 เมษายนนี้ ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพฯ ผู้สนใจสามารถติดตามรายงานฉบับเต็มได้ที่ asia.money2020.com/resources/2025-fintech-trends-whitepaper และติดตามข่าวสารเพิ่มเติมผ่านทาง X และ LinkedIn
ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ ช่องทางโซเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok