DeepSeek สตาร์ทอัพ AI จากจีน กำลังสร้างความสั่นสะเทือนต่อตลาดหุ้นเทคโนโลยีทั่วโลก หลังเปิดตัวโมเดล AI ที่ทำงานบนชิปประมวลผลระดับพื้นฐาน แต่มีประสิทธิภาพสูง พร้อมต้นทุนการฝึกฝน AI ที่ถูกกว่าหลายสิบเท่า ล่าสุดวันนี้ (27 ม.ค.) ดัชนีหุ้น Nasdaq Futures ดิ่งลงกว่า 3.2% สะท้อนความกังวลของนักลงทุนต่ออนาคตของอุตสาหกรรม AI
ความสำเร็จของ DeepSeek ในการพัฒนาโมเดล AI ที่มีต้นทุนต่ำ สร้างแรงกระเพื่อมต่อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีทั่วโลก โดยเฉพาะ Nvidia ผู้นำตลาดชิปประมวลผล AI ที่หุ้นร่วงลงกว่า 6% บนตลาด Tradegate ของเยอรมนี ขณะที่ ASML Holding NV ผู้ผลิตอุปกรณ์สำหรับผลิตชิป ราคาหุ้นทรุดตัวลงมากกว่า 8% สะท้อนความกังวลของนักลงทุนต่อความคุ้มค่าของการลงทุนในอุตสาหกรรม AI ที่มีมูลค่าสูงลิ่ว
รู้จักกับ DeepSeek
DeepSeek สร้างปรากฏการณ์ในวงการเทคโนโลยีด้วยการเปิดตัวโมเดล R1 แบบเปิด (open source) รุ่นล่าสุด ที่มีความสามารถเทียบเท่าหรือดีกว่าโมเดล o1 ของ OpenAI ในการทดสอบหลายด้าน โดยใช้งบประมาณเพียง 5.6 ล้านดอลลาร์ในการฝึกฝนโมเดล เทียบกับบริษัทชั้นนำของสหรัฐฯ ที่ต้องทุ่มเงินมหาศาลหลายร้อยล้านดอลลาร์
มาร์ค แอนดรีเซน นักลงทุนผู้มีชื่อเสียงถึงกับยกย่องว่า DeepSeek เป็น “หนึ่งในนวัตกรรมที่น่าทึ่งที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา” ด้วยความสามารถในการแสดงกระบวนการคิดและเหตุผลในการตอบคำถามที่ชัดเจนและโปร่งใส
ภายใต้การนำของ เหลียง เหวินเฟิง ผู้ก่อตั้ง DeepSeek ได้พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส ท่ามกลางมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ที่ห้ามขายชิปประสิทธิภาพสูงให้บริษัทจีน แต่พวกเขาก็สามารถพัฒนาโมเดล AI ที่มีประสิทธิภาพสูงได้สำเร็จ ด้วยการใช้ประโยชน์จากการวิจัยแบบเปิดและซอฟต์แวร์โอเพนซอร์ส อาทิ PyTorch และ Llama จาก Meta
ความสำเร็จของ DeepSeek สะท้อนให้เห็นผ่านความนิยมของผู้ใช้งาน โดยแอปพลิเคชัน AI ของบริษัทล่าสุดได้ขึ้นแท่นอันดับหนึ่งแอปฟรีบน App Store แซงหน้า ChatGPT ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นในการแสดงที่มาที่ไปของคำตอบอย่างละเอียด
ผลกระทบและอนาคตของวงการ AI
เวย์-เซิร์น หลิง กรรมการผู้จัดการที่ Union Bancaire Privee วิเคราะห์ว่าความสำเร็จของ DeepSeek อาจเปลี่ยนโฉมหน้าอุตสาหกรรม AI ทั้งระบบ โดยเฉพาะในแง่การลงทุนที่แต่เดิมต้องใช้เม็ดเงินมหาศาลจากบริษัทยักษ์ใหญ่เพียงไม่กี่ราย มาให้ความสนใจกับการพัฒนาโมเดลต้นทุนต่ำที่อาจนำไปสู่การกระจายตัวของผู้เล่นในตลาดมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม แกรี่ แทน CEO ของ Y Combinator มองว่าปรากฏการณ์นี้จะส่งผลดีต่อวงการในระยะยาว เมื่อการฝึกฝนโมเดลมีต้นทุนที่ถูกลงและง่ายขึ้น จะกระตุ้นให้เกิดการใช้งาน AI ในโลกจริงอย่างแพร่หลาย ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ผลิตทุกรายในอุตสาหกรรม
ยาน เลอคุน หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ด้าน AI ของ Meta มองว่าความสำเร็จของ DeepSeek เป็นบทพิสูจน์สำคัญที่แสดงให้เห็นว่าการพัฒนาแบบเปิดและการแบ่งปันความรู้ระหว่างกันจะเป็นกุญแจสำคัญในการผลักดันนวัตกรรม AI ให้ก้าวหน้า โดยไม่ควรมองในแง่มุมของการแข่งขันระหว่างประเทศ แต่เป็นการพัฒนาร่วมกันของประชาคมโลก
ข้อมูลจาก The Economic Times | Business Standard
