แคนนอน เปิดตัว เครื่องพิมพ์หน้ากว้าง รุ่นใหม่ เร่งสปีดงานพิมพ์คุณภาพสูง พร้อมรับทุกงานใหญ่

แคนนอน (Canon) ผู้นำด้านเทคโนโลยีอิมเมจจิ้งระดับโลก ประกาศความพร้อมรับมือกับความต้องการด้านงานพิมพ์ที่เพิ่มสูงขึ้นด้วยการเปิดตัว เครื่องพิมพ์หน้ากว้าง รุ่นใหม่ถึง 7 รุ่น ในตระกูล imagePROGRAF TZ-5320 series และ TX Series ครอบคลุมทั้งรุ่นฟังก์ชันเดียวและมัลติฟังก์ชัน โดดเด่นด้วยความเร็วในการพิมพ์สูงสุดถึง 4 หน้าต่อนาที พร้อมนวัตกรรมการประมวลผลภาพแบบใหม่และหมึกมาเจนตาคุณภาพสูง มอบงานพิมพ์ที่มีสีสันสดใส คมชัด ตอบโจทย์การใช้งานทั้งในอุตสาหกรรมก่อสร้าง การออกแบบกราฟิก และธุรกิจรับพิมพ์งานตามสั่ง

นวัตกรรมใหม่เพื่อคุณภาพงานพิมพ์ที่เหนือชั้น

เครื่องพิมพ์รุ่นใหม่ทั้งหมดได้รับการพัฒนาด้วยเทคโนโลยีการประมวลผลภาพล่าสุด ผสานการทำงานร่วมกับหมึกมาเจนตาคุณภาพสูง ส่งผลให้งานพิมพ์มีความคมชัดและสีสันที่สดใสมากขึ้นแม้จะพิมพ์บนกระดาษธรรมดา โดยเฉพาะการพิมพ์แบบก่อสร้าง โปสเตอร์ และภาพมุมมองเพอร์สเปกทีฟที่ต้องการความละเอียดสูง สามารถแสดงรายละเอียดของเส้นบางและตัวอักษรได้อย่างคมชัด

ประสิทธิภาพที่เหนือกว่าเพื่อการทำงานที่รวดเร็ว

รุ่น imagePROGRAF TZ-5320 สร้างมาตรฐานใหม่ด้วยความเร็วในการพิมพ์สูงสุด 4 หน้าต่อนาที พร้อมความสามารถในการปล่อยงานพิมพ์ได้ทั้งด้านบนและด้านหน้าของเครื่อง ในขณะที่ TX series มอบความเร็วในการพิมพ์ถึง 3.3 หน้าต่อนาที ซึ่งเร็วกว่ารุ่นก่อนหน้าอย่างเห็นได้ชัด

ฟีเจอร์อัจฉริยะเพื่อการทำงานที่มีประสิทธิภาพ

เครื่องพิมพ์ทุกรุ่นมาพร้อมฟังก์ชัน Smart Roll Paper Set ที่ช่วยตรวจจับการป้อนกระดาษและประเภทกระดาษโดยอัตโนมัติ พร้อมระบบประเมินปริมาณกระดาษคงเหลือ นอกจากนี้ยังมีระบบตรวจจับน้ำหมึกอัจฉริยะที่ปรับตำแหน่งการพิมพ์อัตโนมัติ และฟังก์ชันการปรับค่าสีอัตโนมัติ ช่วยรักษามาตรฐานคุณภาพงานพิมพ์ให้สม่ำเสมอ ลดเวลาดาวน์ไทม์ในการผลิต

ใส่ใจสิ่งแวดล้อมด้วยนวัตกรรมสีเขียว

ด้วยความใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม แคนนอนได้ยกเลิกการใช้โฟมโพลีสไตรีนในบรรจุภัณฑ์และลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวให้เหลือน้อยที่สุด พร้อมทั้งพัฒนาประสิทธิภาพการใช้พลังงาน โดยรุ่น imagePROGRAF TZ-5320 และ TX-5420/5320 สามารถประหยัดพลังงานได้มากถึง 29% และ 25% ตามลำดับเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า

สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ได้ที่ www.canon.co.th

ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ ช่องทางโซเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok