vivo (วีโว่) เปิดตัว X200 Series สมาร์ตโฟนเรือธงรุ่นล่าสุดในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ โดดเด่นด้วยกล้อง ZEISS APO Telephoto ความละเอียด 200MP พร้อมความสามารถซูมไกลถึง 50 เท่า เสริมด้วยชิปประมวลผลคู่ MediaTek Dimensity 9400 และ vivo BlueChip พร้อมวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 4 ธันวาคม 2567 ในราคาเริ่มต้น 29,999 บาท

กล้องเรือธงรุ่นใหม่ เน้นการซูมคมชัดระดับมืออาชีพ
X200 Series มาพร้อมระบบกล้องที่พัฒนาร่วมกับ ZEISS โดยทุกเลนส์มีความละเอียด 50MP ทั้งกล้องหลัก ZEISS VCS True Color, กล้อง ZEISS Telephoto และกล้อง Ultra-Wide Angle มุมกว้าง 119 องศา โดยไฮไลท์สำคัญอยู่ที่รุ่น X200 Pro ที่ติดตั้งกล้อง ZEISS APO Telephoto ความละเอียด 200MP ครั้งแรกของวงการสมาร์ตโฟน มอบความสามารถซูมได้ไกลถึง 50 เท่าโดยไม่สูญเสียรายละเอียด
นวัตกรรมการถ่ายภาพอัจฉริยะด้วย AI
ระบบกล้องมาพร้อมฟีเจอร์ High-Quality Imaging ที่ใช้ AI ช่วยจับภาพการเคลื่อนไหวได้แม่นยำ พร้อมโหมด Telephoto Super Stage ที่เปลี่ยนโหมดอัตโนมัติ และฟังก์ชัน Zero-Shutter-Lag Motion Snapshot สำหรับการถ่ายภาพเคลื่อนไหวที่รวดเร็ว นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ ZEISS Multifocal Portrait พร้อมตัวเลือกระยะโฟกัส 85 มม. และ 135 มม. สำหรับการถ่ายภาพพอร์ตเทรต
ประสิทธิภาพและแบตเตอรี่ที่แข็งแกร่ง
X200 Series ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ตคู่ MediaTek Dimensity 9400 และ vivo BlueChip ร่วมกับชิปประมวลผลภาพ V3+ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและประหยัดพลังงานได้มากขึ้นถึง 30% มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุสูงถึง 6,000mAh สำหรับรุ่น Pro และ 5,800mAh สำหรับรุ่นปกติ รองรับการชาร์จเร็ว 90W และชาร์จไร้สาย 30W
หน้าจอและดีไซน์สุดพรีเมียม
หน้าจอใช้เทคโนโลยี ZEISS Master Color รีเฟรชเรท 120Hz ความสว่างสูงสุด 4,500 nits พร้อมเทคโนโลยี Full Range Luminance 2160Hz PWM Dimming ที่ช่วยถนอมสายตา ตัวเครื่องได้รับมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP68 และ IP69 โดย X200 Pro มาพร้อมกระจก Armor Glass ที่ทนทานต่อการกระแทกมากขึ้น 11 เท่า

ราคาและโปรโมชัน
vivo X200 Series วางจำหน่ายในราคาเริ่มต้น 29,999 บาท สำหรับรุ่น X200 5G (12GB + 256GB) และ 39,999 บาท สำหรับรุ่น X200 Pro 5G (16GB + 512GB) พร้อมของสมนาคุณมูลค่ารวมสูงสุด 17,187 บาท
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดตามได้ที่เฟซบุ๊ก vivo Thailand หรือเว็บไซต์ https://vivo.com/th/
ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ ช่องทางโซเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok