Kahoot! แพลตฟอร์มการเรียนรู้และมีส่วนร่วมระดับโลก ประกาศเปิดตัวเวอร์ชัน ภาษาไทย อย่างเป็นทางการแล้วทั้งบนเว็บไซต์และแอปพลิเคชันมือถือสำหรับ Android และ iOS เพื่อให้ผู้ใช้งานชาวไทยสามารถเข้าถึงการเรียนรู้แบบอินเทอร์แอคทีฟได้ง่ายขึ้นด้วยภาษาของตนเอง โดยครอบคลุมทั้งการใช้งานในห้องเรียน การฝึกอบรมในองค์กร และการเรียนรู้ในครอบครัว พร้อมฟีเจอร์การสร้างเนื้อหาด้วย AI และคอนเทนต์พรีเมียมจากพันธมิตรชั้นนำระดับโลก
Eilert Hanoa ซีอีโอของ Kahoot! เผยว่า ภาษาเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้การเรียนรู้เข้าถึงได้ง่ายและสอดคล้องกับบริบทของผู้เรียน การเปิดให้บริการภาษาไทยจึงเป็นก้าวสำคัญในการมอบประสบการณ์การเรียนรู้ที่เป็นธรรมชาติและมีประสิทธิภาพสำหรับผู้ใช้งานชาวไทย
แพลตฟอร์มภาษาไทยนี้เปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานสามารถสร้างสรรค์เนื้อหาการเรียนรู้ได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งการสร้างด้วยตนเอง การใช้ AI ช่วยสร้างเนื้อหา หรือเลือกใช้คอนเทนต์พรีเมียมจากพันธมิตรชั้นนำอย่าง Sanrio, Disney และ Peanuts
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ทัศนวรรณ สังข์กลาง อาจารย์ด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร เล่าประสบการณ์การใช้ Kahoot! ในการเรียนการสอนว่า เธอใช้แพลตฟอร์มนี้ในการตรวจสอบความรู้ของนักเรียนก่อนเข้าเรียนและทดสอบความเข้าใจในบทเรียนก่อนหน้า ซึ่งช่วยสร้างความตื่นเต้นและทำให้การประเมินความรู้เป็นเรื่องสนุก
สำหรับครอบครัวที่มีเด็กเล็ก Kahoot! Kids แอปพลิเคชันที่ออกแบบเฉพาะสำหรับเด็กอายุ 2-7 ปี ก็ได้รับการแปลเป็นภาษาไทยเช่นกัน ช่วยให้ผู้ปกครองสามารถสนับสนุนการพัฒนาทักษะพื้นฐานและทักษะปฐมวัยผ่านการเรียนรู้แบบเล่นสนุก
ในประเทศไทย มีครูมากกว่า 130,000 คนใช้ Kahoot! ในการจัดการเรียนการสอน และมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมบนแพลตฟอร์มมากกว่า 20 ล้านครั้งในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา นอกจากนี้ การใช้งานในภาคธุรกิจยังเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยมีการจัดเซสชันในที่ทำงานเพิ่มขึ้นกว่า 50%
Ahteram Uddin รองประธานฝ่ายการพาณิชย์ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า การเปิดตัวเวอร์ชันภาษาไทยเป็นส่วนหนึ่งของแผนขยายธุรกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งรวมถึงการเปิดสำนักงานใหม่ในสิงคโปร์ การเพิ่มจำนวนบุคลากร และการสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรในภูมิภาค
ผู้สนใจสามารถเริ่มต้นใช้งาน Kahoot! เวอร์ชันภาษาไทยได้แล้ววันนี้ทั้งบนเว็บไซต์และแอปพลิเคชันมือถือ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่: www.kahoot.com
ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ ช่องทางโซเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok
