แกร็บ ปี 2024

แกร็บ เผยสถิติการใช้บริการ ปี 2024 พร้อมเทรนด์ที่น่าจับตามองในตลาดไทย

แกร็บ ผู้นำซูเปอร์แอปในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปิดเผยข้อมูลสถิติการใช้บริการ ปี 2024 ที่สะท้อนให้เห็นพฤติกรรมผู้บริโภคและการเติบโตของธุรกิจดิจิทัลแพลตฟอร์มในประเทศไทย โดยเฉพาะในส่วนของบริการเรียกรถและฟู้ดเดลิเวอรี ที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องจากทั้งผู้ใช้งานชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ ข้อมูลชี้ให้เห็นการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของบริการใหม่อย่าง GrabCar SAVER ที่เติบโตขึ้นกว่า 400% พร้อมทั้งเผยให้เห็นอิทธิพลของกระแสหมูเด้งที่ส่งผลให้การเดินทางไปยังสวนสัตว์เขาเขียวเพิ่มขึ้นถึง 267% นับเป็นปรากฏการณ์ที่น่าสนใจในวงการขนส่งดิจิทัล

การเติบโตของบริการเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน

ปี 2024 นับเป็นปีแห่งความสำเร็จของธุรกิจเรียกรถผ่านแอปพลิเคชันของ แกร็บ โดยได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวและการจัดงานอีเวนท์ขนาดใหญ่ในประเทศไทย โดยเฉพาะการเดินทางไปยังสถานที่จัดงานสำคัญอย่าง ราชมังคลากีฬาสถาน, ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์, อิมแพ็คอารีนา และ ไบเทค บางนา ที่มียอดการใช้บริการเพิ่มขึ้นถึง 25% สะท้อนให้เห็นถึงบทบาทสำคัญของแพลตฟอร์มดิจิทัลในการสนับสนุนการจัดงานระดับประเทศ

การเปิดตัวบริการ GrabCar SAVER ที่นำเสนอทางเลือกการเดินทางในราคาประหยัด ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมในหัวเมืองหลัก สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการบริการขนส่งที่มีความคุ้มค่าของผู้บริโภค โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว การเติบโตอย่างก้าวกระโดดนี้แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคให้ความสำคัญกับทางเลือกการเดินทางที่มีความคุ้มค่าและมีความยืดหยุ่นในการใช้งาน

แกร็บ ปี 2024

นักท่องเที่ยวต่างชาติเลือกใช้บริการเรียกรถแกร็บ

การเติบโตของภาคการท่องเที่ยวส่งผลให้ยอดการใช้บริการที่สนามบินเพิ่มขึ้นถึง 67% โดยนักท่องเที่ยวจาก สิงคโปร์, มาเลเซีย, จีน, อินโดนีเซีย และ เวียดนาม เป็นกลุ่มที่ใช้บริการมากที่สุด สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในมาตรฐานการให้บริการและความปลอดภัยของแพลตฟอร์ม

แหล่งช้อปปิ้งยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวเลือกใช้บริการเรียกรถไปมากที่สุด ได้แก่ ไอคอนสยาม, เซ็นทรัลเวิลด์, สยามพารากอน, ถนนข้าวสาร และ ตลาดนัดจตุจักร โดยมี เอ็มสเฟียร์ เป็นจุดหมายปลายทางใหม่ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว การเติบโตนี้สะท้อนให้เห็นถึงการฟื้นตัวของภาคการค้าปลีกและการท่องเที่ยวในเมืองหลัก

นอกจากนี้ จังหวัดเมืองรองก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีการเติบโตของยอดใช้บริการสูงถึง 90% โดยเฉพาะใน 5 จังหวัดยอดนิยม ได้แก่ เชียงราย ตาก อุดรธานี อุบลราชธานี และพิษณุโลก แสดงให้เห็นถึงการกระจายตัวของการท่องเที่ยวไปยังภูมิภาคต่างๆ ของประเทศ

นวัตกรรมบริการที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งาน

การพัฒนาฟีเจอร์การจองรถล่วงหน้าได้รับการปรับปรุงให้สามารถจองล่วงหน้าได้ถึง 7 วัน พร้อมความคุ้มครองสูงสุด 800,000 บาท โดยเฉพาะการเดินทางไปยัง สนามบินสุวรรณภูมิ, ดอนเมือง, ภูเก็ต, เชียงใหม่ และ กระบี่ นวัตกรรมนี้ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ใช้บริการในการวางแผนการเดินทาง

การให้บริการ Grab EV Rides สะท้อนให้เห็นถึงความใส่ใจด้านสิ่งแวดล้อมของผู้บริโภค โดยมีอัตราการใช้งานเพิ่มขึ้นกว่า 200% แสดงให้เห็นถึงการตระหนักรู้ด้านสิ่งแวดล้อมที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภคชาวไทย

แกร็บ ปี 2024

เทรนด์อาหารและเครื่องดื่มที่น่าจับตามอง

อาหารไทยยังคงครองใจผู้บริโภค โดยเมนูยอดนิยม ได้แก่ ส้มตำ ไก่ทอด ข้าวมันไก่ และหมูปิ้ง สะท้อนให้เห็นถึงความนิยมในอาหารท้องถิ่นที่ยังคงแข็งแกร่ง ขณะที่เมนูไข่พะโล้และข้าวขาหมูได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น 38% จากกระแสหมูเด้ง

ในส่วนของเครื่องดื่ม อเมริกาโน่เย็นครองแชมป์เครื่องดื่มยอดนิยมด้วยยอดสั่งซื้อกว่า 5 ล้านแก้วต่อปี สะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตของวัฒนธรรมการดื่มกาแฟและความใส่ใจสุขภาพของผู้บริโภค

บัตเตอร์แบร์ สร้างปรากฏการณ์ยอดสั่งซื้อเติบโตกว่า 1,200% ขณะที่แบรนด์ชาจากจีนอย่าง เจี้ยนชา, ชาจี และ ไนซือ มียอดขายเติบโตถึง 10 เท่า แสดงให้เห็นถึงอิทธิพลของโซเชียลมีเดียต่อพฤติกรรมการบริโภค

เมนูเพื่อสุขภาพได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ โอ้ จูซ ที่มียอดสั่งซื้อเติบโตถึง 400% ภายใน 3 เดือน ขณะที่ เดอะ โรลลิ่ง พินน์ สร้างปรากฏการณ์ด้วยเมนูดูไบช็อกโกแลตที่มียอดขายเติบโตถึง 20 เท่า

ฟีเจอร์สั่งอาหารแบบกลุ่มได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า หลังจากเพิ่มความสามารถในการสั่งอาหารร่วมกันสูงสุด 10 คน พร้อมตัวเลือกการแบ่งจ่ายที่ยืดหยุ่น ขณะที่บริการกินที่ร้านเติบโตขึ้น 11 เท่าในไตรมาสสุดท้าย โดยเฉพาะในร้านบุฟเฟต์ยอดนิยมอย่าง โม โม่พาราไดซ์, โคเอ็น และ ซูกิชิ

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการและโปรโมชันต่างๆ สามารถติดตามได้ที่แอปพลิเคชัน Grab หรือเว็บไซต์ www.grab.com/th

ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ ช่องทางโซเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok

Online Content Manager with over 10 years of experience working in the news, technology, and telecom industries.