แอปเปิล กำลังจะ หยุดขาย iPhone 14, iPhone 14 Plus และ iPhone SE รุ่นที่ 3 ในประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป เนื่องจากต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบใหม่ที่กำหนดให้สมาร์ตโฟนที่วางจำหน่ายต้องมีพอร์ต USB-C สำหรับการชาร์จแบบมีสาย ตามรายงานจากบล็อกของฝรั่งเศส iGeneration
ข้อมูลจากรายงานระบุว่า แอปเปิล จะ หยุดขาย iPhone ทั้งสามรุ่นดังกล่าวผ่านทางร้านค้าออนไลน์และร้านค้าปลีกในสหภาพยุโรปตั้งแต่วันที่ 28 ธันวาคมนี้ ซึ่งเป็นวันที่กฎระเบียบมีผลบังคับใช้ โดย iPhone ทั้งสามรุ่นนี้ยังคงใช้พอร์ต Lightning สำหรับการชาร์จแบบมีสาย นอกจากนี้ บริษัทอาจเริ่มทยอยยกเลิกการจำหน่ายในประเทศสวิตเซอร์แลนด์เร็วขึ้น โดยจะเริ่มนำสินค้าออกจากร้านค้าออนไลน์ตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคม
สำหรับตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับการรับรองจาก แอปเปิล ในสหภาพยุโรปนั้น จะยังคงสามารถจำหน่าย iPhone รุ่นดังกล่าวได้จนกว่าสินค้าคงคลังจะหมด นอกจากนี้ แอปเปิล ยังมีแผนที่จะยุติการจำหน่ายผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่ใช้พอร์ต Lightning ในสหภาพยุโรปด้วย รวมถึง Magic Keyboard รุ่นที่ไม่มี Touch ID
กฎระเบียบนี้จะมีผลบังคับใช้ในประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปทั้ง 27 ประเทศ และแม้ว่าสหราชอาณาจักรจะออกจากสหภาพยุโรปไปแล้วในปี 2020 แต่ แอปเปิล จะยุติการจำหน่ายในไอร์แลนด์เหนือด้วย เนื่องจากยังคงต้องปฏิบัติตามกฎหมายการค้าของสหภาพยุโรปหลายประการ
ตามคู่มือที่เผยแพร่โดยสหภาพยุโรปในปี 2022 ระบุว่า กฎระเบียบเกี่ยวกับพอร์ต USB-C จะมีผลบังคับใช้กับ iPhone ทุกเครื่องที่วางจำหน่ายในตลาดหลังจากที่กฎระเบียบมีผลบังคับใช้ แม้จะเป็นรุ่นที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ก็ตาม ซึ่งหมายความว่า แอปเปิล จะไม่สามารถจำหน่าย iPhone ที่มีพอร์ต Lightning ที่ผลิตหลังวันที่ 28 ธันวาคมได้
มีการคาดการณ์ว่า แอปเปิล จะเปิดตัว iPhone SE รุ่นที่ 4 ที่มาพร้อมพอร์ต USB-C ในเดือนมีนาคม ซึ่งจะทำให้สามารถกลับมาจำหน่ายในสหภาพยุโรปได้อย่างรวดเร็ว ในขณะที่ iPhone 14 และ iPhone 14 Plus น่าจะยุติการจำหน่ายในเดือนกันยายนอยู่แล้ว
ข้อมูลจาก: MacRumors
ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ ช่องทางโซเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok