AIS ประกาศความพร้อมในการเป็นผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลชั้นนำในพื้นที่ ภาคตะวันออก ด้วยการพัฒนาโครงข่ายที่ครอบคลุมทั้งพื้นที่อุตสาหกรรม เกษตรกรรม และแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ โดยเฉพาะในช่วงไฮซีซันที่มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเดินทางมาท่องเที่ยวจำนวนมาก พร้อมรองรับการใช้งานทั้งการสื่อสาร การแชร์ภาพและวิดีโอ รวมถึงการใช้งานโซเชียลมีเดียได้อย่างไม่สะดุด
ภาคตะวันออกถือเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญของประเทศ โดย นายกิตติ งามเจตนรมย์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านเทคโนโลยี AIS เผยว่า แม้ภูมิภาคนี้จะมีจำนวนจังหวัดไม่มาก แต่เป็นที่ตั้งของโครงสร้างพื้นฐานสำคัญหลายแห่ง โดยเฉพาะท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบังที่เป็นศูนย์กลางการขนส่งทางทะเล และนิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่
การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลในภูมิภาคนี้ไม่เพียงรองรับภาคอุตสาหกรรมเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมไปถึงแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก ทำให้ AIS ต้องพัฒนาระบบสื่อสารและบริการดิจิทัลให้มีความแข็งแกร่งและพร้อมรองรับการใช้งานในทุกรูปแบบ
การพัฒนาโครงข่ายเพื่อรองรับอุตสาหกรรมและการท่องเที่ยว
นายสมภพ กิตติวิรุฬห์วัฒน รักษาการหัวหน้างานปฏิบัติการภูมิภาค ภาคตะวันออก AIS กล่าวว่า บริษัทได้วางโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลทั้งโครงข่าย 5G นวัตกรรม และโซลูชันต่างๆ เพื่อเชื่อมต่อกับภาคการผลิตและอุตสาหกรรม โดยเฉพาะในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ที่เป็นศูนย์กลางการขนส่งและโลจิสติกส์ทั้งทางทะเล อากาศ และภาคพื้นดิน
นอกจากนี้ ภาคตะวันออกยังเป็นแหล่งเกษตรกรรมสำคัญ โดยเฉพาะการผลิตผลไม้และอัญมณี รวมถึงมีแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลก อาทิ เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี เกาะเสม็ด จังหวัดระยอง เกาะช้าง จังหวัดตราด และน้ำตกพลิ้ว จังหวัดจันทบุรี
แหล่งท่องเที่ยวใหม่ที่น่าสนใจ
โครงข่าย AIS ยังครอบคลุมแหล่งท่องเที่ยวที่กำลังได้รับความนิยม เช่น เกาะมันนอก จังหวัดระยอง หาดลูกลม และเกาะแสมสาร สัตหีบ จังหวัดชลบุรี น้ำตกปางสีดา จังหวัดสระแก้ว วัดเขาบรรจบ และอุทยานเขาสิบห้าชั้น จังหวัดจันทบุรี ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถใช้งานบริการสื่อสารได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการและโครงข่าย AIS ในภาคตะวันออก สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.ais.th หรือ AIS Call Center 1175 ตลอด 24 ชั่วโมง
ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ ช่องทางโซเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok