AIS แสดงศักยภาพการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลใน ภาคเหนือ ด้วยโครงข่าย 5G และ 4G ที่ครอบคลุมมากที่สุดในพื้นที่ พร้อมรับมือความท้าทายทั้งด้านภูมิศาสตร์และข้อจำกัดด้านพลังงาน มุ่งสนับสนุนการฟื้นฟูเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวในช่วงฤดูหนาว
กิตติ งามเจตนรมย์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านเทคโนโลยี AIS เปิดเผยว่า ปัจจุบัน AIS มีโครงข่ายสัญญาณทั้ง 5G และ 4G ครอบคลุมกว่า 95% ของพื้นที่ประชากร โดยมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องผ่านนวัตกรรม InnoVis Network พร้อมนำ AI และ Autonomous Network มาเสริมศักยภาพเพื่อก้าวสู่การเป็นองค์กรโทรคมนาคมเทคโนโลยีอัจฉริยะ
การพัฒนาโครงข่ายในภาคเหนือถือเป็นความท้าทายสำคัญ เนื่องจากลักษณะภูมิประเทศที่เป็นพื้นที่สูง มีทิวเขาสลับซับซ้อน รวมถึงข้อจำกัดด้านแหล่งพลังงานและภัยธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม AIS ได้นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาแก้ไขปัญหาเหล่านี้

วสิษฐ์ วัฒนศัพท์ หัวหน้าหน่วยธุรกิจงานปฏิบัติการและสนับสนุนด้านเทคนิคทั่วประเทศ AIS กล่าวว่า บริษัทได้นำพลังงานทางเลือกมาใช้ ทั้งโซลาร์เซล กังหันลม และไฮโดรเจน พร้อมผสมผสานระบบการกระจายสัญญาณด้วย Super Cell LINK เพื่อเชื่อมโยงสัญญาณระหว่างพื้นที่ราบและพื้นที่สูง
โครงข่ายของ AIS ครอบคลุมกลุ่มผู้ใช้งานที่หลากหลาย ทั้งผู้บริโภคทั่วไป Digital Nomad กลุ่มชาติพันธุ์ แรงงานต่างชาติ และภาคธุรกิจบริการ โดยเฉพาะในแหล่งท่องเที่ยวใหม่ เช่น อุทยานแห่งชาติศรีลานนา อุทยานแห่งชาติแม่ปิง ห้วยกุ๊บกั๊บ ทุ่งเกี๊ยะ บ้านป่าข้าวหลาม และดอยม่อนล้าน
อาทยา หยู่เย็น หัวหน้างานปฏิบัติการภูมิภาค-ภาคเหนือ AIS เน้นย้ำว่า บริษัทมุ่งสร้างการเข้าถึงดิจิทัลให้คนไทยผ่านโครงการต่างๆ เช่น การขยายเครือข่ายสัญญาณในโรงเรียน ตชด. การใช้ AI บริหารจัดการเครือข่ายช่วงน้ำท่วม และความร่วมมือกับ GULF และ สวพส. ในโครงการ Green Energy Green Network For Thais

นอกจากนี้ AIS ยังสนับสนุนโครงข่ายดิจิทัลเพื่อระบบโทรมาตรอัตโนมัติ มุ่งหวังว่าศักยภาพของโครงข่าย 5G จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นด้านการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงเทศกาลท่องเที่ยวหน้าหนาว
ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการและโครงข่าย AIS ได้ที่ www.ais.th หรือ AIS Call Center 1175
ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ ช่องทางโซเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok