สำนักงาน กสทช. ร่วมกับ เอไอเอส (AIS) แสดงความพร้อมของระบบเตือนภัยผ่านโทรศัพท์มือถือด้วยเทคโนโลยี Cell Broadcast ณ จังหวัด ภูเก็ต โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุน กทปส. การทดสอบครั้งนี้เป็นการจำลองสถานการณ์จริงบนเครือข่าย LIVE Network เพื่อเตรียมเชื่อมต่อกับศูนย์บัญชาการกลางของภาครัฐ ระบบดังกล่าวสามารถส่งข้อความแจ้งเตือนแบบ Pop-up ไปยังมือถือที่รองรับ 4G ขึ้นไปในพื้นที่เฉพาะได้พร้อมกัน คาดว่าจะเริ่มใช้งานจริงในบางพื้นที่ได้ในไตรมาสที่ 2 ปี 2568
นายวรุณเทพ วัชราภรณ์ หัวหน้าฝ่ายงานธุรกิจสัมพันธ์ เอไอเอส เปิดเผยรายละเอียดของโครงการว่า บริษัทได้ร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐหลายแห่ง ทั้ง กสทช. กระทรวงดิจิทัลฯ และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในการคัดเลือกเทคโนโลยีที่เหมาะสมสำหรับระบบเตือนภัยของประเทศตามมาตรฐานสากล โดยเทคโนโลยี Cell Broadcast Service ถูกเลือกเนื่องจากมีความสามารถในการส่งข้อความแจ้งเตือนไปยังโทรศัพท์มือถือในพื้นที่เฉพาะได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ
ระบบนี้มีจุดเด่นที่สำคัญคือสามารถส่งข้อความเตือนภัยไปยังโทรศัพท์มือถือทุกเครื่องที่รองรับเทคโนโลยี 4G ขึ้นไปในพื้นที่ที่กำหนดได้พร้อมกัน โดยข้อความจะปรากฏในรูปแบบ Pop-up Notification บนหน้าจอแบบ Near Real Time ทำให้ผู้ใช้งานสามารถรับรู้สถานการณ์ฉุกเฉินได้ทันที
นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการ รักษาการแทน เลขาธิการ กสทช. อธิบายถึงการแบ่งบทบาทหน้าที่ระหว่างหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจะเป็นหน่วยงานหลักในการกำหนดเนื้อหาและพื้นที่ในการส่งข้อความ รวมถึงการจัดการข้อความที่จะสื่อสาร หรือที่เรียกว่า Cell Broadcast Entity (CBE)
ในส่วนของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จะรับผิดชอบการดำเนินการด้านระบบ Cloud Server และการเชื่อมต่อระหว่าง CBE กับ Cell Broadcast Center (CBC) ซึ่งเป็นส่วนที่ดูแลโดยผู้ให้บริการโครงข่าย ทำหน้าที่นำข้อความแจ้งเตือนเข้าสู่โทรศัพท์มือถือในพื้นที่ที่เกิดเหตุ
สำนักงาน กสทช. ได้ให้การสนับสนุนด้านงบประมาณแก่ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือทั้งสามราย ได้แก่ AWN TUC และ NT โดยใช้งบประมาณจากกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ (กทปส.) เพื่อพัฒนาระบบ Cell Broadcast ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
การทดสอบระบบที่จังหวัดภูเก็ตครั้งนี้ถือเป็นการทดลองในสภาพแวดล้อมจริง (Proof of Concept) เพื่อประเมินความพร้อมของระบบในการรับมือกับเหตุฉุกเฉิน ภัยพิบัติทางธรรมชาติ และเหตุการณ์ร้ายแรงต่างๆ ผลการทดสอบแสดงให้เห็นถึงความพร้อมในการเชื่อมต่อกับศูนย์บัญชาการกลางของภาครัฐได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นายวรุณเทพ ได้ย้ำถึงความมุ่งมั่นของ AIS ในการพัฒนาเครือข่ายและขยายความครอบคลุมให้ทั่วถึงทุกพื้นที่ของประเทศ โดยปัจจุบันมีความครอบคลุมมากกว่า 95% ของพื้นที่ประชากร โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกล เพื่อให้ระบบเตือนภัย Cell Broadcast สามารถช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม
การพัฒนาระบบเตือนภัยนี้จะช่วยยกระดับความปลอดภัยของประชาชนและนักท่องเที่ยว โดยคาดว่าจะสามารถเริ่มใช้งานได้จริงในบางพื้นที่ภายในไตรมาสที่ 2 ของปี 2568 ซึ่งจะเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาระบบเตือนภัยของประเทศไทยให้ทัดเทียมกับมาตรฐานสากล
ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ ช่องทางโซเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok