Mercedes-AMG GLE 53 HYBRID 4MATIC+

เปิดตัว Mercedes-AMG GLE 53 HYBRID 4MATIC+ ปลั๊กอินไฮบริด ราคา 5.85 ล้านบาท

เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) ประกาศเปิดตัว Mercedes-AMG GLE 53 HYBRID 4MATIC+ รถเอสยูวีสมรรถนะสูงรุ่นล่าสุด ที่มาพร้อมระบบขับเคลื่อนแบบปลั๊กอินไฮบริดเจเนเรชั่นที่ 4 ในราคา 5,850,000 บาท พร้อมส่งมอบตั้งแต่เดือนตุลาคมนี้

ยานยนต์รุ่นใหม่นี้นับเป็นการผสมผสานระหว่างสมรรถนะอันทรงพลังของ AMG และเทคโนโลยีไฮบริดที่ล้ำสมัย โดยมาพร้อมขุมพลังเบนซิน 6 สูบ แถวเรียง 3.0 ลิตร เทอร์โบ (M256M) ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าแบบปลั๊กอินไฮบริด ให้กำลังสูงสุดถึง 544 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 750 นิวตันเมตร สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายในเวลาเพียง 4.7 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ด้านระบบไฟฟ้า Mercedes-AMG GLE 53HYBRID 4MATIC+ มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 31.2 kWh ที่สามารถขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าได้ไกลสูงสุดถึง 86 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง (ตามมาตรฐาน WLTP) รองรับการชาร์จแบบ DC สูงสุด 60 kW ใช้เวลาชาร์จจาก 10-80% เพียง 20 นาที และการชาร์จแบบ AC สูงสุด 11 kW ใช้เวลาชาร์จจาก 0-100% ภายใน 3 ชั่วโมง

ระบบขับเคลื่อนของ Mercedes-AMG GLE53 HYBRID 4MATIC+ ใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ AMG Performance 4MATIC+ ที่สามารถกระจายแรงขับได้ทั้งล้อหน้าและหลังแบบอิสระ เพื่อการยึดเกาะถนนที่ดีเยี่ยมในทุกสภาพพื้นผิว ควบคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ AMG SPEEDSHIFT TCT 9G ที่ตอบสนองรวดเร็วและนุ่มนวล

Mercedes-AMG GLE 53 HYBRID 4MATIC+

ด้านดีไซน์ภายนอก Mercedes-AMG GLE 53 HYBRID 4MATIC+ โดดเด่นด้วยชุดแต่ง AMG Night Package สีดำเงาลึก (Deep gloss black) ที่ตกแต่งไว้บนชุดกันชนหน้า “A-wing” กระจกมองข้าง คิ้วขอบกระจก แร็คหลังคา กันชนท้าย และปลายท่อไอเสียคู่ เสริมความสปอร์ตด้วยล้อแม็กฟอร์จ AMG ขนาด 22 นิ้ว ดีไซน์ Cross-spoke สีดำด้าน ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่มีการติดตั้งล้อฟอร์จขนาดใหญ่นี้ในรุ่นประกอบในประเทศ

Mercedes-AMG GLE 53 HYBRID 4MATIC+

ภายในห้องโดยสาร ตกแต่งด้วย AMG Interior Package ที่เน้นความสปอร์ตในทุกรายละเอียด ไม่ว่าจะเป็นพวงมาลัย AMG Performance พร้อมระบบพวงมาลัย AMG Steering 3 สเตจ เบาะนั่งหุ้มด้วยหนังและไมโครไฟเบอร์ หลังคากระจก Panoramic Sunroof ที่เพิ่มความโปร่งสบาย และระบบปฏิบัติการ MBUX7 แบบ zero-layer concept ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับ AMG

ระบบความบันเทิงและข้อมูลใช้จอแสดงผลแบบ widescreen cockpit ขนาด 12.3 นิ้ว เชื่อมต่อกับ AMG Head-up Display ขนาด 12.3 นิ้ว พร้อมระบบนำทางแสดงภาพเสมือนจริง MBUX augmented reality และระบบเสียง Burmester® surround sound system ลำโพง 13 ตัว กำลังขับ 590 วัตต์ พร้อม Dolby Atmos® เพื่อประสบการณ์เสียงที่สมจริง

Mercedes-AMG GLE53 HYBRID 4MATIC+ มาพร้อมโปรแกรมการขับขี่ AMG DYNAMIC SELECT ที่สามารถเลือกได้ถึง 7 รูปแบบ รวมถึงโหมด Off-Road ที่มีฟีเจอร์ Transparent bonnet แสดงภาพใต้ท้องรถแบบ real-time เพื่อการขับขี่ off-road ที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีระบบกันสะเทือน AMG RIDE CONTROL+ แบบถุงลม (Adaptive AIRMATIC) และระบบเบรก AMG high-performance brake system

ด้านความปลอดภัย Mercedes-AMG GLE53 HYBRID 4MATIC+ มาพร้อมระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูง Driving Assistance Plus Package ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติในกรณีฉุกเฉิน (Active Emergency Stop Assist) ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (ATTENTION ASSIST) ระบบรักษาระยะห่างจากรถด้านหน้าและควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Active Distance Assist DISTRONIC) และระบบความปลอดภัยอื่นๆ อีกมากมาย

Mercedes-AMG GLE 53 HYBRID 4MATIC+

Mercedes-AMG GLE 53 HYBRID 4MATIC+ มีให้เลือก 5 สีตัวถัง ได้แก่ สีขาว (Polar White) สีดำ (Obsidian Black) สีเทา (Selenite Grey) สีเทา (MANUFAKTUR Alpine Grey Solid) และสีแดง (MANUFAKTUR Hyacinth Red Metallic) วางจำหน่ายแล้วที่ตัวแทนจำหน่าย เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี อย่างเป็นทางการทั่วประเทศ

ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ ช่องทางโซเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok

Online Content Manager with over 10 years of experience working in the news, technology, and telecom industries.