รีวิว ASUS Zenbook 14X OLED โน้ตบุ๊กพรีเมียมบางเบา หน้าจอแจ่ม!

รีวิว ASUS Zenbook 14X OLED (รหัส UX3404) โน้ตบุ๊กสุดบางเบาตระกูล Zenbook ดีไซน์สุดพรีเมี่ยม แต่อัดแน่นไปด้วยขุมพลังแบบดุดัน ไม่เกรงใจใคร! ได้รับการอัปเกรดมาอย่างดี แต่คงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ของความเป็น ASUS Zenbook รายละเอียดจะเป็นอย่างไร มาเริ่มการรีวิวกันเลยครับ!

ASUS Zenbook 14X OLED

ดีไซน์

เรียกได้ว่า ASUS Zenbook 14X OLED เป็นโน้ตบุ๊กสุดพรีเมี่ยม ที่มาพร้อมกับสีใหม่ สีเบจ Sandstone Beige มีการเคลือบผิวเซรามิกแบบใหม่ ให้ดีไซน์สวยเด่นยิ่งขึ้น

เทคนิคการเคลือบผิวนี้เรียกว่าพลาสมาเซรามิก (Plasma Electrolytic Oxidation หรือ PEO) ที่จะช่วยเสริมความคงทน ซึ่งจะช่วยป้องกันรอยนิ้วมือได้เป็นอย่างดี ป้องกันสีซีดจาง เพิ่มความคงทนให้อลูมิเนียมได้อีกด้วย!

แถมกระบวนการที่ว่ามีนี้ยังรักษ์โลกอีกด้วยนะ! เพราะขั้นตอนผลิตของเค้า ปราศจากฮาโลเจนและสารพิษ เรียกได้ว่าทาง ASUS เค้าใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างดีเลย และในปี 2023 นี้เค้ายังคงลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ของตระกูล Zenbook เอาไว้อยู่ สวยงามทีเดียวครับ!

ตัวเครื่องถือว่าค่อนข้างบางและเบาเมื่อเทียบกับประสิทธิภาพที่ได้มา บางเพียง 16.9 มิลลิเมตร และน้ำหนักจับถืออยู่ที่ 1.5 กิโลกรัมเท่านั้น บางเบา …แต่ทนทานด้วยมาตรฐานกองทัพ US military-grade MIL-STD-810H

การออกแบบคีย์บอร์ดของ ASUS Zenbook 14X OLED เน้นไปที่ความสะดวกสบาย เรียกว่า ASUS ErgoSense เป็นคีย์บอร์ด Full-Sized ระยะพิทช์ของคีย์ขนาดเต็ม 19.05 มม. เท่ากับคีย์บอร์ดเดสก์ท็อป ช่วยให้ทำงานของได้อย่างคล่องแคล่ว สะดวกสบาย การพิมพ์แม่นยำ

มี Dished key caps ขนาด 0.2 มม. ได้รับการออกแบบมาให้เข้ากับรูปร่างของปลายนิ้ว เพื่อให้นิ้วของคุณค่อยๆ นำทางไปยังจุดสัมผัสที่เหมาะสมที่สุดกับปุ่ม และมี Key Travel ที่ 1.4 มม. สัมผัสการพิมพ์นุ่ม พิมพ์ได้โดยไม่ต้องออกแรงมากเกินไป พร้อมโดมยางพิเศษที่ออกแบบโดย ASUS แรงที่นิ้วสัมผัสลงไป จะตอบสนองด้วยการสัมผัสที่เหมาะสม

ASUS Zenbook 14X OLED

มาพร้อมกับ Touch-Pad แบบ ErgoSense มีการเคลือบกันน้ำ ให้การตอบสนองที่ราบลื่น และยังเป็นทัชแพดแบบ Anti-fingerprint ใช้การเคลือบเพื่อป้องกันรอยนิ้วมือ ลื่นเหมือนใหม่ตลอดเวลา!

และที่ขาดไปไม่ได้ก็คือ ASUS NumberPad ที่จะช่วยให้การใช้งาน NumPad นั้นสะดวกยิ่งขึ้น จิ้มตัวเลขที่ต้องการบน TouchPad ได้อย่างง่ายดายเลย!

ASUS Numpad

พอร์ตเชื่อมต่อครบครัน

ASUS Zenbook 14X OLED มาพร้อมกับพอร์ตเชื่อมต่อที่ครบครัน พอร์ตความเร็วสูง เพียงพอต่อการใช้งานครับ

  • 1x USB 3.2 Gen 2 Type-A
  • 2x Thunderbolt™ 4 supports display / power delivery
  • 1x HDMI 2.1 TMDS
  • 1x 3.5mm Combo Audio Jack

หน้าจอ

การที่ ASUS Zenbook 14X OLED ตัวนี้ มีชื่อ OLED ต่อท้ายชื่อมาเลยนั้น หมายความว่า หน้าจอที่เค้าใช้เป็นจอชนิด OLED แน่นอนครับ มาพร้อมกับขนาดหน้าจอ 14.5″ ความละเอียดสูง 2.8K (2880×1800 พิกเซล)

ASUS Zenbook 14X OLED

มีอัตรารีเฟรชเรทที่ 120Hz โดยที่มี Response Time อยู่ที่ 0.2ms เท่านั้น ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่ 600nits

ส่วนความเที่ยงตรงของสีนั้นไม่ต้องเป็นห่วง มาพร้อมกับขอบเขตสีแบบ DCI-P3 Color Gamut เรียกได้ว่าเป็นมาตรฐานยุคใหม่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา หรือจะเลือกปรับแต่งค่าสีได้ตามความต้องการ ไม่ว่าจะเป็น sRGB, DCI-P3, Display-P3 และ Native ก็เลือกได้ครับ!

ASUS Zenbook 14X OLED

และมาในปีนี้เค้าทำขอบจอบางมาก ต้องขอบคุณเทคโนโลยี OLED HDR NanoEdge ที่ทำให้สัดส่วน Sceen-to-Body Ratio นั้นมากถึง 89% เลยทีเดียว!

ASUS Zenbook 14X OLED

และมาในปีนี้เค้าทำขอบจอบางมาก ต้องขอบคุณเทคโนโลยี OLED HDR NanoEdge ที่ทำให้สัดส่วน Sceen-to-Body Ratio นั้นมากถึง 89% เลยทีเดียว! ตัวจอสามารถกางได้ถึง 180° เลยทีเดียว สามารถกางสุดจอราบกับพื้นผิวได้เลย ไม่ต้องห่วงว่าพับแรงไปแล้วจะหัก เค้าออกแบบมาดีมากๆ เลยล่ะ!

ASUS Zenbook 14X OLED

ส่วนลำโพงนั้นเป็นระบบเสียงสเตอริโอ Dolby Atmos® ที่ได้การรับรองโดยผู้เชี่ยวชาญด้านเสียงจาก Harman Kardon ให้เสียงที่มีมิติและชัดใส แรงขับดีเพราะมีชิปแอมพลิฟายเออร์ที่สามารถเพิ่มระดับเสียงของลำโพงได้มากถึง 350%! เรียกว่าดังสะใจกันเลยทีเดียวล่ะครับ!

ASUS Zenbook 14X OLED

และยังมีกล้องเว็บแคมความละเอียด FHD คุณภาพใช้งานได้ดีเลยทีเดียว แถมยังเป็นกล้องที่รองรับ IR สามารถใช้ร่วมกับการแสกนหน้าผ่าน Windows Hello ได้ด้วย!

สเปค

ASUS Zenbook 14X OLED มาพร้อมกับโปรเซสเซอร์เจเนอเรชั่นใหม่ของอินเทล ล่าสุดเป็นเจเนอเรชั่นที่ 13 แล้ว! โดยที่จะมีสองรุ่นให้เลือกด้วยกัน ได้แก่

  • ASUS Zenbook 14X OLED รุ่น UX3404VA-M9546WS (รุ่นที่รีวิว) จะมาพร้อมกับ Intel® Core™ i5-13500H Processor 2.6 GHz (18MB Cache, up to 4.7 GHz, 12 cores, 16 Threads)
  • และมีรุ่นสุดรุ่นท็อปกว่าอย่า ASUS Zenbook 14X OLED รุ่น UX3404VC-M9099WS จะมาพร้อมกับIntel® Core™ i9-13900H Processor 2.6 GHz (24MB Cache, up to 5.4 GHz, 14 cores, 20 Threads) โดยรุ่น Core i9 มาพร้อมการ์ดจอแยก NVIDIA® Geforce RTX™ 3050 4GB Laptop

รองรับการเชื่อมต่อไร้สาย Wi-Fi 6E(802.11ax) (Dual band) 2*2 + Bluetooth® 5 เรียกได้ว่าอัปเกรดมาให้เหมาะสมกับปี 2023 นี้เป็นอย่างดี

ส่วนเรื่องประสิทธิภาพนั้น Intel® Core™ Generation 13th นี้เค้าได้รับการตีบวก อัปเกรดมาให้การประมวลผลต่างๆ P-Core, E-Core, Hybrid-Core ทำงานได้ดีขึ้นกว่าเดิมมากๆ มาดูผลการทดสอบ Benchmark ของโปรแกรมต่างๆ กันสักเล็กน้อยเพื่อเป็นตัวเลขอ้างอิงประสิทธิภาพของโน้ตบุ๊กบางเบา แต่ทรงพลังตัวนี้ครับ

ตัวรุ่นที่ผมได้ทำการรีวิวนี้มาพร้อมกับ RAM 16GB เป็นแรมชนิด DDR5 ที่มี Bus Speed ที่ 4,800 MHz เพียงพอต่อการใช้งานทั้งหนักและเบาในปีนี้อย่างแน่นอนครับ ไม่ต้องไปอัปเกรดเพิ่มแต่อย่างใด ใส่มาให้ 16GB เลย!

และในส่วนของ Storage ให้มา 512GB M.2 NVMe™ PCIe® 4.0 SSD ความเร็วในการอ่านและเขียนนั้นอยู่ในระดับที่ใช้งานได้ รวดเร็วในระดับนึงเลยครับ แม้ว่าจะไม่ได้เร็วแรงระดับท็อป 5-6000MB/s แต่ก็ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานอย่างแน่นอนครับ

แถมเค้ายังมีการจัดการความร้อนที่ดีด้วยเทคโนโลยี ASUS IceCool ช่วยให้ควบคุมความสมดุลระหว่างประสิทธิภาพและเสียงพัดลมได้อย่างเต็มที่ สามารถเลือกได้ 3 โหมด ผ่านการกดคีย์ลัด fn+F

  • Performance Mode เพิ่มประสิทธิภาพและพารามิเตอร์ทางความร้อนให้สูงสุดสำหรับงานหนัก
  • Standard Mode ปรับสมดุลการทำงานของพัดลมให้เหมาะสมสำหรับงานประจำวัน
  • Whisper Mode เน้นการประหยัดพลังงาน ด้วยการทำงานที่เย็นและเงียบ

แบตเตอรี่

แบตเตอรี่ของ ASUS Zenbook 14X OLED ให้มาขนาด 70Wh ซึ่งคือว่าค่อนข้างเยอะสำหรับโน้ตบุ๊กบางเบาระดับนี้ ผนวกรวมกับเทคโนโลยีในการจัดการพลังงานของ ASUS นั้นก็จะทำให้อายุการใช้งานแบตเตอรี่นั้น อยู่ได้อย่างยาวนาน เพียงพอต่อการใช้งานทั่วไประดับ 10 ชั่วโมงบวกๆ อย่างแน่นอนครับ (ซึ่งตอนที่ผมทำรีวิวตัวนี้ ก็ใช้โน้ตบุ๊กเครื่องนี้ในการทำงานนี่แหละครับ ซึ่งบอกได้เลยว่าเค้าจัดการพลังงานได้ดีมาก)

แถมเค้ายังรองรับการชาร์จไว อะแดปเตอร์ที่ให้มาในกล่องเป็น AC Adapter ขนาดเล็ก แต่สามารถจ่ายไฟได้ถึง 90W (USB-C) เรียกว่าไม่ต้องห่วงเรื่องแบตเตอรี่หมดเลยล่ะครับ

ASUS Zenbook 14X OLED

ชาร์จแป๊ปเดียว …แบตก็กลับมาเต็มแล้ว! (ชาร์จ 49 นาที ได้แบตเตอรี่ 60%) อีกทั้งตัวอะแดปเตอร์ชาร์จที่เค้าให้มา ก็ขนาดกระทัดรัด พกพาไปได้ทุกที่ ทุกสถานการณ์ ไม่เทอะทะอย่างแน่นอนครับ

ASUS Zenbook 14X OLED

สรุปการใช้งาน

รีวิว ASUS Zenbook 14X OLED จัดว่าเป็นโน้ตบุ๊กบางเบา ดีไซน์พรีเมี่ยม จอ(โคตร)สวย ที่มีประสิทธิภาพสูง ใช้งานเบาๆ ก็ได้ ใช้งานหนักๆก็เอาอยู่ ในราคาเริ่มต้นไม่ถึง 4 หมื่นบาท!?

ASUS Zenbook 14X OLED

ให้ฟีเจอร์การใช้งานครบครันขนาดนี้ เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยสำหรับกลุ่มนักเรียนนักศึกษา หรือวัยทำงานที่กำลังหาโน้ตบุ๊กบางเบา แต่ความสามารถครอบจักรวาลขนาดนี้ มันแจ๋วจริงๆ นะเออ!

ASUS Zenbook 14X OLED

ราคาและสถานที่จัดจำหน่าย

ASUS Zenbook 14X OLED วางขายในประเทศใน 2 รุ่นย่อยด้วยกัน ได้แก่

  • UX3404VA-M9546WS ราคา 39,990 บาท (รุ่นที่รีวิว)
  • UX3404VC-M9099WS ราคา 50,990 บาท

พร้อมการรับประกันตัวเครื่อง 3 ปี on-site service, 3 ปี รับประกันระหว่างประเทศ และการรับประกันอุบัติเหตุ (Perfect Warranty) 1 ปีแรก พร้อมรับสมาชิก Adobe Creative Cloud® ฟรี สามเดือน เรียกได้ว่าการรับประกันหลังการขาย ASUS เค้าจัดหนักจัดเต็มมากครับ! สบายใจหายห่วงได้เลย

สำหรับใครที่สนใจ สามารถเข้าไปดู รายละเอียดเพิ่มเติม กันได้ครับ แต่ส่วนตัวจากที่ได้ทำการทดลองใช้งานมาร่วมสัปดาห์ บอกเลยว่าเหมาะมากๆ สำหรับคนที่กำลังตามหาโน้ตบุ๊กบางเบาแต่ประสิทธิภาพสูง เอาอยู่ทุกสายงาน รุ่นที่รีวิวนี้ก็ถือว่าตอบโจทย์แล้ว แต่ถ้าใครอยากไปให้สุดก็ขยับไปตัวท็อปได้ครับ ขึ้นชื่อว่า ASUS รับรองว่าไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน!

ASUS Zenbook 14X OLED