TRUE เข้า ซื้อขายหุ้น วันแรกจาก การควบรวมกิจการ ราคาเปิดตลาด 8.35 บาท

TRUE เข้า ซื้อขายหุ้น วันแรกจาก การควบรวมกิจการ ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มีราคาเปิดตลาดที่หุ้นละ 8.35 บาท

บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ใช้ชื่อย่อในตลาดหลักทรัพย์ว่า TRUE เข้า ซื้อขายหุ้น (เทรด) วันแรกจาก การควบรวมกิจการ ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) วันนี้ (3 มี.ค. 2566) หุ้นทรูในกลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยี หมวดธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร มีราคาเปิดตลาดซื้อขายในวันแรกหุ้นละ 8.35 บาท ทั้งนี้ บริษัทฯ มีทุนจดทะเบียนและทุนชำระแล้ว จำนวน 138,208,403,204 บาท และจัดสรรหุ้นสามัญจำนวนทั้งสิ้น 34,552,100,801 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 4 บาท

TRUE ซื้อขายหุ้น หลัง การควบรวมกิจการ

โดยในพิธีเปิดการซื้อขายหลักทรัพย์ มีนายศุภชัย เจียรวนนท์ (ที่ 5 จากขวา) ประธานกรรมการ นายเยอเก้น คริสเตียน อาเร้นท์ โรสทริป (ที่ 3 จากขวา) รองประธานกรรมการ นายอติรุฒน์ โตทวีแสนสุข (ที่ 2 จากขวา) กรรมการ นายลาส์ เอริค เทลแมนน์ (ขวาสุด) กรรมการ นายมนัสส์ มานะวุฒิเวช (ที่ 4 จากขวา) ประธานคณะผู้บริหาร นายชารัด เมห์โรทรา (ที่ 3 จากซ้าย) รองประธานคณะผู้บริหาร นายนกุล เซห์กัล (ที่ 2 จากซ้าย) และนางสาวยุภา ลีวงศ์เจริญ (ซ้ายสุด) หัวหน้าคณะผู้บริหาร ด้านการเงิน (ร่วม) พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น ร่วมงาน โดยมี ดร.ภากร ปิติธวัชชัย (ที่ 5 จากซ้าย) กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และนายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ (ที่ 4 จากซ้าย) รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ร่วมแสดงความยินดี

บริษัทโทรคมนาคม-เทคโนโลยี ภายใต้ชื่อบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) มุ่งพัฒนาบริการต่าง ๆ เพื่อเชื่อมโยงผู้บริโภคและธุรกิจ ให้เกิดเป็นพลังในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทย ซึ่งเป้าหมายเหล่านี้ สะท้อนให้เห็นถึงวิวัฒนาการที่การเชื่อมต่อไม่ได้ให้เพียงแค่ความสะดวกสบาย แต่กลายเป็นปัจจัยที่จำเป็นและขาดไม่ได้ อีกทั้งด้วยศักยภาพโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่และอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ ตลอดจนบริการดิจิทัลครบวงจร ทำให้บริษัทใหม่สามารถส่งมอบประสบการณ์ที่เหนือชั้นให้แก่คนไทยทั่วประเทศ และพร้อมนำเสนอสินค้าบริการและโซลูชันที่หลากหลายยิ่งขึ้น สามารถตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของชีวิตในยุคปัจจุบันและอนาคต นอกจากนี้ ด้วยขนาดธุรกิจและความเชี่ยวชาญ ทำให้มั่นใจได้ว่าจะสามารถรองรับบริการการเชื่อมต่อแบบไร้รอยต่อผ่านเครือข่ายที่ดีมากยิ่งขึ้น สร้างสรรค์นวัตกรรมล้ำสมัย พร้อมขยายโอกาสการลงทุนได้อีกมหาศาล เพื่อเร่งขับเคลื่อนประเทศไทยให้ทรานสฟอร์มสู่รูปแบบดิจิทัลอย่างเต็มตัว