Microchip จัดแสดงโซลูชัน FPGA ที่ใช้ RISC-V ในการประชุมสุดยอด RISC-V แคลิฟอร์เนีย

Microchip จัดแสดงโซลูชัน FPGA และการประมวลผลอวกาศที่ใช้ RISC-V ในการประชุมสุดยอด RISC-V วันที่ 13 – 14 ธ.ค. 2565 ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้าซาน โฮเซ แมคเอเนรี รัฐแคลิฟอร์เนีย

FPGA ระดับกลางและ FPGA ระบบบนชิป (System-on-chip หรือ SoC) ได้มีบทบาทสำคัญในการย้ายภาระงานของคอมพิวเตอร์ไปยังขอบของเครือข่าย (Network Edge) บริษัท ไมโครชิพ เทคโนโลยี จำกัด (Microchip) ได้ช่วยเร่งการเปลี่ยนผ่านนี้ด้วย FPGA ที่มีรางวัลการันตี ทั้งยังส่งมอบ FPGA ที่ใช้ RISC-V ตัวแรกที่ให้ประสิทธิภาพด้านพลังงานของ FPGA ระดับกลางเพิ่มมากขึ้นสองเท่า และมีการออกแบบ ระบบปฏิบัติการ และระบบนิเวศโซลูชันที่ดีที่สุดในผลิตภัณฑ์ระดับเดียวกัน บริษัทฯ จะจัดแสดงโซลูชันในการประชุมสุดยอดเกี่ยวกับ RISC-V ในปี 2565 และเปิดให้ชมซิลิคอนแพลทฟอร์ม FPGA PolarFire 2 และแผนกลยุทธ์ซอฟต์แวร์แบบกลุ่ม (Software Suite) และระบบย่อยหน่วยประมวลผลที่ใช้ RISC-V นอกจากนี้ บริษัทยังหารือเกี่ยวกับหน่วยประมวลผลการคำนวณการเดินอวกาศสมรรถนะสูง (Performance Spaceflight Computing หรือ HPSC) ที่ใช้ RISC-V ที่บริษัทฯ กำลังพัฒนาให้กับ NASA และอุตสาหกรรมอากาศยานและการป้องกันประเทศอีกด้วย

Microchip-จัดแสดง-FPGA-RISC-V

ชาคีล พีรา รองประธานการตลาดประจำหน่วยธุรกิจ FPGA ของไมโครชิพ กล่าวว่า “ไมโครชิพเป็นบริษัทแรกที่เสนอ FPGA ให้แก่ส่วนตลาดเอดจ์คอมพิวติ้ง (Edge Computing) ที่มีประสิทธิภาพด้านพลังงาน และยังเป็นบริษัทแรกที่นำ FPGA SoC มาผลิตเป็นจำนวนมากโดยรองรับสถาปัตยกรรมชุดคำสั่งเครื่อง (Instruction Set Architecture) ในการประชุมสุดยอดประจำปีนี้ เราตื่นเต้นอย่างยิ่งที่จะได้จัดแสดงตระกูลผลิตภัณฑ์ SoC PolarFire ที่พร้อมปฏิบัติงาน ระบบนิเวศพันธมิตร และโซลูชันสำหรับระบบเอดจ์คอมพิวติ้งที่ไวต่อพลังงานในยุคปัจจุบัน ของแถมเพิ่มเติมคือ คุณจะได้เห็นแผนในอนาคตของเราในการส่งมอบความสามารถด้านการประมวลผลเพิ่มขึ้น 15 เท่าในแผนกลยุทธ์ของเรา”

ตระกูลผลิตภัณฑ์ FPGA PolarFire และ PolarFire SoC นั้นมีประสิทธิภาพด้านการระบายความร้อนและด้านพลังงานที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรมในส่วนตลาดผลิตภัณฑ์ระดับกลางอยู่แล้ว ตระกูลผลิตภัณฑ์นี้ได้รับการปรับปรุงสำหรับระบบติดตั้งปรับใช้ที่มีสมรรถนะการคำนวณสูงในฟอร์มแฟกเตอร์ขนาดเล็ก จึงทำให้สามารถลดขนาดและน้ำหนักของระบบที่มีข้อจำกัดด้านพลังงานในการใช้งานต่าง ๆ รวมถึงการสร้างภาพเชิงอุตสาหกรรม (Industrial Imaging) วิทยาการหุ่นยนต์ ระบบการแพทย์ที่ใช้ AI และระบบการป้องกันประเทศและอากาศยานอัจฉริยะ ตระกูลผลิตภัณฑ์ PolarFire 2 จะมีสมรรถนะและประสิทธิภาพด้านพลังงานสูงขึ้นและเพิ่มองค์ประกอบการประมวลผลสมรรถนะสูงที่ใช้ RISC-V ใหม่ ๆ นอกจากนี้ ตระกูลผลิตภัณฑ์ PolarFire 2 ยังประกอบด้วยชุดเครื่องมือออกแบบที่ใช้แนวทางการพัฒนาระบบในแบบใหม่ ช่วยให้สามารถปลดล็อกศักยภาพสูงสุดสำหรับ FPGA และ FPGA SoC เหล่านี้ โดยขจัดความจำเป็นในการใช้นักพัฒนาอัลกอริทึมอัจฉริยะในการทำความเข้าใจความซับซ้อนของฮาร์ดแวร์ FPGA ที่เป็นส่วนสำคัญ

นอกจากนั้นแล้ว ไมโครชิพจะจัดแสดงระบบนิเวศโซลูชัน Mi-V สำหรับการสนับสนุนการพัฒนาสแต็คโซลูชันที่ใช้ RISC-V โดยไมโครชิพจะให้แพ็คเกจระบบปฏิบัติการ (Operating System หรือ OS) แบบโอเพนซอร์สและเชิงพาณิชย์และ OS แบบเรียลไทม์ (Realtime OS หรือ RTOS) ที่ครอบคลุมมากกว่า 90% ซึ่งประกอบด้วยข้อเสนอด้านซอฟต์แวร์ มิดเดิลแวร์ และเฟิร์มแวร์อื่น ๆ และพันธมิตรระบบนิเวศ Mi-V ของไมโครชิพ

ผู้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดเกี่ยวกับ RISC-V จะได้ชมตระกูลผลิตภัณฑ์ PolarFire และระบบนิเวศ Mi-V ของไมโครชิพ ได้เห็นตระกูลผลิตภัณ์ PolarFire 2 และชุดเครื่องมือออกแบบก่อนใคร และข้อเสนอ HPSC ในวันที่ 13 – 14 ธันวาคม 2565 ในบูธ #PG5 ฮอลล์ 2 ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้าซาน โฮเซ แมคเอเนรี รัฐแคลิฟอร์เนีย ผู้เข้าร่วมประชุมสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับไมโครชิพได้ในระหว่างการนำเสนอในที่ประชุม

  • “เรื่องเด่นของ RISC-V: การเดินทางของ RISC-V ของไมโครชิพเพื่อส่งมอบนวัตกรรมตั้งแต่เอดจ์คอมพิวติ้งไปจนสุดขอบระบบสุริยะ” บรูซ เวเยอร์ รองประธานบริษัท ฝ่าย FPGA ประจำไมโครชิพ วันที่ 13 ธันวาคม ในฮอลล์ 3 ตั้งแต่เวลา 11.00 น. ถึง 11.10 น.
  • “RISC-V ช่วยให้สามารถดำเนินการคำนวณการเดินอวกาศสมรรถนะสูงได้” วันที่ 14 ธันวาคม ในฮอลล์ 3 เวลา 9.40 น. ถึง 9.55 น.

สำหรับข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับตระกูลผลิตภัณฑ์ FPGA ของไมโครชิพ กรุณาคลิกที่นี่