YouTube เปิดตัว Primetime Channels รวมบริการสตรีมมิ่งไว้กว่า 30 ช่องครบจบในที่เดียว

YouTube เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่ใหญ่ที่สุดและได้รับความนิยมสูงมากบนโลกอินเทอร์เน็ต ด้วยผู้ใช้งานกว่า 2 พันล้านคนต่อเดือน เพื่อเป็นการรักษาฐานผู้ใช้และขยับขยายให้เติบโตขึ้นไปอีก Google ร่วมมือกับหลายแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งเพื่อสร้างบริการใหม่โดยมี YouTube เป็นศูนย์กลาง

Google เปิดตัว “Primetime Channels” เพื่อนำผู้ชมมาสู่แพลตฟอร์มมากขึ้น โดยฟีเจอร์นี้จะมี YouTube ที่ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางสำหรับบริการทีวีต่างๆ เช่น Paramount+ และ Showtime เป็นต้น นำเสนอบริการสตรีมมิ่งแบบครบจบในที่เดียว

YouTube Primetime Channels

จะว่าไป แนวคิดนี้ไม่ใช่ของใหม่แต่อย่างใด เนื่องจาก Amazon Prime และสมาร์ททีวีได้ทำสิ่งนี้มาก่อนแล้วระยะหนึ่ง ผู้ใช้สามารถสมัครสมาชิกของ 30 กว่าช่องผ่านทาง YouTube โดยสามารถรับชมผ่านเว็บไซต์หรือแอปได้

แน่นอนว่าการรวมบริการต่างๆ เข้ากับ YouTube นั้นเป็นการเพิ่มความสะดวกให้กับผู้ใช้ โดยผู้ใช้สามารถดูวิดีโอบน YouTube สลับกับรายการโปรดบน Paramount+ ได้ทันทีโดยไม่ต้องออกจากแพลตฟอร์ม YouTube อีกต่อไป

รายชื่อบริการที่เข้าร่วมใน Primetime Channels ได้แก่

  • Showtime
  • Paramount+
  • Starz
  • AMC+
  • Epix
  • Shudder
  • Acorn TV
  • Here TV
  • CuriosityStream
  • Comedy Dynamics
  • Up Faith & Family
  • Hallmark Movies Now
  • All BLK
  • Vix+
  • ConTV
  • Docurama
  • Moviesphere
  • Dove Channel
  • IFC
  • ScreenPix
  • Fandor
  • Law & Crime
  • Screambox
  • Dekkoo
  • Tastemade+
  • Outside TV+
  • Gaia
  • Atres Player
  • VSiN
  • Topic
  • Magnolia Selects
  • The Great Courses
YouTube Primetime Channels

ข้อสังเกตของ Primetime Channels คือ ผู้ใช้สามารถเข้าถึงแค็ตตาล็อกสตรีมมิ่งของรายการและภาพยนตร์ต่างๆ จากแพลตฟอร์มเหล่านั้นได้เท่านั้น โดยผู้ใช้ต้องดูตัวเลือกสำหรับรายการสดผ่านทางผู้ให้บริการ เช่น บริการอย่าง Paramount+ ที่รายการสดผ่าน CBS โดยที่ Primetime Channels จะไม่มีรองรับคอนเทนต์ที่เป็นรายการสด แต่จะรองรับเฉพาะ video on demand เท่านั้น

ที่สำคัญคือ ยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนว่าการสมัครสมาชิก Primetime Channels สามารถใช้ดูบริการต่างๆ นอก YouTube ได้หรือไม่ หรือการสมัครสมาชิกนี้เชื่อมโยงเข้ากับบัญชีของผู้ใช้ YouTube เท่านั้น

Primetime Channels มีแผนจะเปิดตัวตั้งแต่วันนี้ สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่บล็อกโพสต์ของทาง YouTube

ที่มา : TECHSPOT