KomilO James Dyson Award 2022

KomilO ผลงานผู้ชนะรางวัล James Dyson Award 2022 คนแรกของประเทศไทย

KomilO นวัตกรรมของผู้ชนะรางวัล James Dyson Award 2022 ทีมแรกในประเทศไทย เป็นผลงานจากนักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี มุ่งเป้าไปที่การลดข้อผลพลาดในการตรวจจับอาการติดสัดในโคนมโดยใช้เทคโนโลยี IoT เพื่อเพิ่มอัตราการสำเร็จของการผสมเทียมในโคนมที่จะส่งผลให้การผลิตน้ำนมมีประสิทธิภาพมากขึ้น

KomilO (โคมิโล) 

เป็นระบบปฏิบัติการที่มีส่วนประกอบเป็นเซนเซอร์ 2 จุด ที่ติดตั้งบนตัวโคนม จุดแรกที่บริเวณหู และจุดที่สองบริเวณโคนหางเพื่อตรวจจับพฤติกรรมของโคนม ทำให้สามารถคาดการณ์รอบของการเป็นสัดในโคนมได้อย่างแม่นยำโดยอาศัยเทคนิคแมชชีนเลิร์นนิง และเพื่อให้เกษตรกรสามารถอ่านข้อมูลได้อย่างสะดวกสบายระบบนี้ยังเชื่อมโยงกับแอปพลิเคชันซึ่งจะช่วยเก็บข้อมูลเฉพาะของโคนมแต่ละตัว จัดการเซนเซอร์ รวมถึงแจ้งเตือนเกษตรกรเมื่อโคนมมีอาการติดสัดและพร้อมสำหรับการผสมเทียม

ทีมผู้ออกแบบ KomilO ประกอบด้วยสมาชิกนักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ ภาควิชาวิศวกรรมอิเล็กทรอนิกส์และโทรคมนาคม และคณะเทคโนโลยีสารสนเทศ สาขาวิชานวัตกรรมบริการดิจิทัล จำนวน 6 คน จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้า ธนบุรี จุดมุ่งหมายของของนักออกแบบรุ่นใหม่เหล่านี้คือการสร้างโซลูชันที่ใช้ง่ายและสามารถเข้าถึงได้เพื่อเพิ่มผลผลิตน้ำนมของเกษตรกรไทยให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นและจำนวนมากขึ้น

KomilO James Dyson Award 2022

โดยทีมผู้ออกแบบ KomilO กล่าวว่า “โปรเจกต์นี้เริ่มจากความสนใจของพวกเรา แต่กลายเป็นว่ากลายเป็นสิ่งที่เราคาดไม่ถึงเลยว่าจะทำให้เราเป็นทีมผู้ชนะรางวัล James Dyson Award 2022 ครั้งแรกในประเทศไทย ทำให้เรามั่นใจและมีกำลังใจในการจะพัฒนา KomilO ให้กลายเป็นโซลูชันที่จะสามารถช่วยพัฒนาด้านการเกษตรโคนมของประเทศไทยได้”

โดยรางวัลชนะเลิศระดับชาติจะทำให้โปรเจกต์ KomilO ได้รับเงินรางวัลจำนวน 222,000 บาทเพื่อเป็นทุนในการพัฒนาต่อไป “เราตื่นเต้นมากตอนที่รู้ว่า James Dyson Award จัดการแข่งขันในประเทศไทยเป็นครั้งแรก และตื่นเต้นกว่าเดิมอีกตอนที่รู้ว่าพวกเราได้รับรางวัลชนะเลิศ เรารู้สึกว่ารางวัลนี้ให้กำลังใจกับพวกเรา รวมไปถึงเงินทุนในการพัฒนาโซลูชันนี้จนไปถึงขั้นใช้จริง นอกจากนั้นระหว่างทางที่พวกเราได้แก้ไขปัญหา ระดมความคิด และค้นหาสิ่งใหม่ ๆ ทำให้เราได้พัฒนาศักยภาพในการเป็นนักออกแบบด้วยเช่นกัน”

KomilO จะเป็นตัวแทนจากประเทศไทยในการประกวดรางวัล James Dyson Award ระดับนานาชาติ ซึ่งผู้เข้ารอบในการประกวดระดับนานาชาติจะประกาศในวันที่ 12 ตุลาคมนี้ และทีมผู้ออกแบบกำลังพัฒนาโปรเจกต์ KomilO เพื่อต่อยอดให้สามารถนำไปใช้จริงได้

The Amazing Hearing Devices or AHDs

ผู้ชนะรางวัลรองชนะเลิศ The Amazing Hearing Devices or AHDs

ปัญหา: ในปี 2564 มีจำนวนผู้ป่วยสูญเสียการได้ยินจำนวนประมาณหนึ่งพันห้าร้อยล้านคนทั่วโลก และคาดว่าจะเพิ่มจำนวนขึ้นเป็นสองพันห้าร้อยล้านคนภายในปี 2573 ตามรายงานของ WHO (2021) ซึ่งอัตราส่วนของคนที่สามารถเข้าถึงเครื่องช่วยฟังที่มีจำนวนน้อยมากเมื่อเทียบกับจำนวนผู้ป่วยเกิดจากการออกแบบเครื่องช่วยฟังที่ไม่สามารถใช้ได้สำหรับทุกคน ตัวอย่างเช่น คนที่ใส่แว่นจะไม่สามารถใส่เครื่องช่วยฟังได้ รวมไปถึงการขาดแคลนเครื่องช่วยฟังที่มีน้ำหนักเบาหรือเครื่องช่วงฟังแบบไม่รุกล้ำ

โซลูชัน: AHDs คือเครื่องช่วยฟังที่มุ่งเป้าไปที่การออกแบบให้สามารถเข้าถึงง่าย นำเสนอเครื่องช่วยฟังที่ใส่สบายและนำเสนอประสบการณ์ที่เป็นมิตรกับผู้ใส่โดยไม่จำเป็นต้องผ่าตัด นอกจากนั้นยังมาพร้อมกับที่คาดหัวเพื่อใช้สำหรับการออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมที่มีการเคลื่อนไหวเยอะ

Aeolus

Aeolus

ปัญหา: จากงานวิจัยระบุว่าประชากรโลกจำนวน 17% ประสบปัญหาเรื่องการนอนหลับโดยมีสาเหตุมาจากหมอนที่ไม่เหมาะสม ซึ่งนอกจากสิ่งนี้จะทำให้การนอนแบบมีคุณภาพน้อยลงแล้ว ยังสามารถนำไปสู่ปัญหาด้านสุขภาพที่ร้ายแรงมากขึ้น เช่น โรคเกี่ยวกับหัวใจ ความดันโลหิตสูง โรคไต และภาวะหลอดเลือดอุดตันได้ ในขณะที่ร่างกายของมนุษย์เราแตกต่างกันอย่าชัดเจน แต่หมอนในท้องตลาดที่สามารถปรับให้เข้ากับร่างกายได้ยังมีอยู่น้อยมาก

โซลูชัน: Aeolus คือหมอนแบบปรับตามความต้องการโดยอาศัยแอปพลิเคชันในการปรับขนาดเพื่อทำให้การนอนแบบมีคุณภาพสามารถเข้าถึงได้ ออกแบบมาให้ใช้การตรวจจับจุดกดทับเพื่อเก็บข้อมูลเกี่ยวกับท่าของการวางศีรษะและการวิเคราะห์คุณภาพการนอนหลับโดย แอปพลิเคชันที่ใช้เทคโนโลยี AI เข้ามาเสริม ซึ่งข้อมูลที่ได้มาจะถูกวิเคราะห์และนำเสนอแก่ผู้ใช้ว่าการปรับหมอนแบบไหนจะส่งผลดีกับคุณภาพการนอนมากที่สุด หมอน Aeolus มีระบบควบคุมอากาศที่ประกอบด้วยปั๊มลมและหน่วยประมวลผลทำให้สามารถปรับความสูงของหมอนจนถึงระดับที่ทำให้หลับสบายที่สุดได้ ทำให้ส่งผลดีต่อร่างกายในระยะยาว

James Dyson Award

รางวัล James Dyson Award เป็นหนึ่งในความุ่งมั่นของเซอร์เจมส์ ไดสัน ในการแสดงให้เห็นถึงพลังของวิศวกรรมที่สามารถเปลี่ยนโลกได้ โครงการต่าง ๆ ของเซอร์เจมส์ ไดสัน ได้แก่ สถาบันวิศวกรรมและเทคโนโลยีของ Dyson, มูลนิธิ James Dyson Foundation, และการประกวด James Dyson Award ที่สนับสนุนให้วิศวกรใช้ความรู้ในการค้นหาหนทางที่จะทำให้คุณภาพชีวิตของเราดีขึ้นผ่านเทคโนโลยี ปัจจุบันเจมส์ ไดสันได้มอบเงินทุนกว่า 140 ล้านปอนด์แก่การศึกษาในคอนเซปต์ที่แปลกใหม่รวมไปถึงโครงการด้านการกุศลอื่น ๆ

James Dyson Award ที่ดำเนินงานโดยมูลนิธิ James Dyson Foundation ได้สนับสนุนเงินรางวัลแก่สิ่งประดิษฐ์กว่า 300 โครงการ โดยมูลนิธิมุ่งเน้นสนับสนุนการศึกษาด้านวิศวกรรมดำเนินงานด้วยเงินสนับสนุนจาก Dyson