พรีวิว OPPO Reno8 Z 5G ถ่ายคนสวยเป็นธรรมชาติ มาพร้อมกับสีใหม่ Dawnlight Gold และดีไซน์ฝาหลังกระจกแบบอัปเกรด

พรีวิว OPPO Reno8 Z 5G สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุด ที่มาสานต่อการออกแบบที่สวยงามประณีตเป็นเอกลักษณ์ ดีไซน์ขอบเหลี่ยม บางเบา พร้อมกับสีใหม่สุดหรูดูพรีเมียม พร้อมตอกย้ำกับความเป็น “The Portrait Expert” ถ่ายภาพคนสวยเป็นธรรมชาติ ใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพกับ ColorOS 12.1

เรามาดูกันว่าครั้งนี้ OPPO Reno8 Z 5G จะปรับโฉมสวยขึ้นขนาดไหน เรามาเริ่มกันตั้งแต่แกะกล่องดูกันก่อนเลยดีกว่า

Unbox แกะกล่อง OPPO Reno8 Z 5G

พรีวิว OPPO Reno8 Z 5G

แพ็กเกจยังเป็นดีไซน์สไตล์เดิมของ Reno Series ที่ตัวกล่องจะเป็นสีดำด้าน ที่ด้านนอกจะเป็นแจ็กเก็ตหุ้มด้านนอก เป็นสีเขียวเทอร์คอยซ์ ตัดกับตัวอักษรสีดำ ที่มีตัวเลข “8” ตัวใหญ่ๆ ให้เห็นช้ดเจนว่านี่คือ OPPO Reno8 Z 5G

ภายในกล่องจะมีเอกสารคู่มือการใช้งานเบื้องต้น, เอกสารการรับประกัน, เข็มสำหรับจิ้มถาดซิม

มีเคสกันรอยแบบ TPU แถมมาให้ในกล่องด้วย ตัววัสดุเป็นแบบใสทำให้เวลาใส่กับเครื่องแล้วยังเห็นสีของตัวเครื่องได้อยู่

ที่ด้านล่างสุดของกล่อง จะมีอุปกรณ์ชาร์จมาให้เรียบร้อย เป็นสาย USB-A to USB-C และ อะแดปเตอร์ชาร์จ รองรับมาตรฐาน 33W SUPERVOOC เพื่อการใช้งานชาร์จแบตเตอรี่ที่รวดเร็วและปลอดภัย ไม่ต้องไปหาซื้อเพิ่มให้วุ่นวาย แกะกล่องมาก็พร้อมใช้กันได้เลย

ข้อมูลเบื้องต้น สเปค OPPO Reno8 Z 5G

  • ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 695 5G (6nm)
  • ROM 128GB
  • เพิ่ม microSD ได้ รองรับสูงสุด 512GB
  • RAM 8GB + 5GB RAM Expansion
  • หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.4 นิ้ว Refresh rate 60Hz
  • ความหนาเครื่อง 7.66 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก 181 กรัม
  • กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล
  • กล้องหลัง 3 เลนส์
    • กล้องหลัก 64 ล้านพิกเซล (f/1.7)
    • กล้อง Depth 2 ล้านพิกเซล (f/2.4)
    • กล้องมาโคร 2 ล้านพิกเซล (f/2.4)
  • แบตเตอรี่ 4500mAh รองรับ 33W SUPERVOOC
  • เชื่อมต่อเครือข่าย 2G / 3G / 4G LTE / 5G
  • ระบบปฏิบัติการ ColorOS 12.1 บนพื้นฐาน Android 12
  • มีให้เลือก 2 สี Dawnlight Gold และ Starlight Black

Design

OPPO Reno8 Z 5G ครั้งนี้โดดเด่นมากขึ้นกว่าเดิม กับดีไซน์ที่เห็นปุ๊บก็รู้ปั๊บ ว่านี่ล่ะคือ “ออปโป้” การออกแบบยังคงเอกลักษณ์ที่สวยงาม OPPO เลือกใช้ดีไซน์แบบขอบเหลี่ยมแบบ Ultra Slim Retro Design ที่ได้การตอบรับจากแฟนๆ เป็นอย่างดี และต้องบอกว่า OPPO Reno8 Series 5G เลือกใช้ดีไซน์ขอบเหลี่ยมทั้ง 3 รุ่น

ตัวเครื่องมีความบางเฉียบ หนาเพียง 7.66 มิลลิเมตร และมีน้ำหนักเพียงแค่ 181 กรัม ให้ความรู้สึกที่เพรียวบาง ถือจับได้อย่างถนัดมือ สะดวกพกพา ส่วนขอบจอดีไซน์มุมแบบ 2.5D ที่สวยงามทั้งด้านหน้าและด้านหลัง และ C-Shape Frame ที่ประณีต

ภูมิใจนำเสนอกับฝาหลัง ที่เป็นครั้งแรกที่ OPPO เลือกใช้ฝาหลังแบบกระจก anti-glare 0.5 มม. โดยฝาหลังกระจกรวมกับไดอะเฟรมแล้วจะมีความหนาเพียงแค่ 0.62 มม.เท่านั้น โดยคุณสมบัติของกระจกแบบนี้คือเวลาที่แสงกระทบมาที่ฝาหลัง จะมีการกระจายแสงทำให้ได้เกิดเงาเอฟเฟกต์ที่ฟุ้งกระจาย ดูนุ่มนวลมากขึ้น

แน่นอนว่า มาพร้อมกับ OPPO Glow Design เทคนิคการสร้างเอฟเฟกต์ที่ฝาหลัง ด้วยการแกะสลักกระจกด้วยพื้นผิว 2 เลเยอร์ และกระบวนการเคลือบชั้นเดียว ทำให้เกิดสีสันที่มีมิติแตกต่างตามมุมองศาของแสงที่ตกกระทบ

เมื่อแสงที่ตกกระทบเปลี่ยนมุม ก็จะเกิดเงาระยิบระยับอย่างสวยงาม

ตัวพื้นผิวจะเป็นแบบด้าน ที่ให้สัมผัสเรียบลื่นละมุนมือและเป็นมันวาว และเวลาที่เราจับถือก็ยังไม่เกิดรอยนิ้วมืออีกด้วย

สีของ OPPO Reno8 Z 5G ที่เข้ามาวางจำหน่ายในไทย มีให้เลือก 2 สีสันใหม่ คือสีทอง Dawnlight Gold และ สีดำ Starlight Black

สีทอง Dawnlight Gold เป็นสีใหม่ไฮไลท์ ที่เป็นสีทองที่มีความสดใสโดดเด่น โดยมีเอฟเฟกต์สีรุ้งมาจากการเคลือบแบบไล่ระดับ ผสมผสานกับหมึกสีเหลืองที่อบอุ่นบริเวณด้านล่างของฝาหลังอย่างลงตัว เมื่อมีแสงกระทบ จะแสดงเฉดสีม่วง สีฟ้า สีทอง และสีชมพู ที่จะเปลี่ยนไปตามทิศทางของแสงในมุมต่างๆ ให้ความสวยงามเสมือนแสงรุ่งอรุณตกกระทบในมหาสมุทร ที่มีสีสันแตกต่างกันตามชั้นของเมฆ

เมื่อรวมกับ OPPO Glow Design ในรุ่นสี Dawnlight Gold จะมีเอฟเฟกต์ทรายที่เป็นประกายของฝาหลังไปยังกรอบเครื่อง, ปุ่ม และฐานโมดูลกล้อง ทำให้มีความสวยงามกลมกลืนมากขึ้น

สีดำ Starlight Black เป็นสีแบบโทนเรียบ เพราะไม่มีการเคลือบแบบไล่ระดับ แต่มีการพัฒนาด้วยเลเยอร์ที่มีการไฮไลท์ ทำให้ได้ฝาหลังสีดำที่ดูเนียนเรียบ สะอาดตา แต่ยังมีเอฟเฟกต์โปร่งแสงของเม็ดทรายที่ส่องแสงระยิบระยับ และเมื่อรวมกับ OPPO Glow Design เวลาที่สะท้อนกับแสง ความสวยงามของฝาหลังจะเสมือนกับเนบิวลาที่มีแสงดาวกระจายอยู่เต็มท้องฟ้าในยามค่ำคืนของฤดูร้อน

อีกความโดดเด่นของดีไซน์ใน OPPO Reno8 Z 5G ก็คือ Dual Orbit Lights ที่อยู่ตรงกรอบเลนส์คู่ด้านหลัง จากที่เปิดตัวครั้งแรกใน OPPO Reno7 Z 5G เป็นความสวยที่แตกต่าง ดูโฉบฉี่ยว ที่เป็นสัญญาณไฟสว่างหรือกระพริบตามสถานการณ์ต่างๆ เหมือนเป็นไฟแจ้งเตือน เวลาที่มีสายเรียกเข้า, ชาร์จแบตเตอรี่ ฯลฯ แต่สวยเท่กว่า และ OPPO มีการพัฒนาให้ตัวระบบไฟมีอายุการใช้งานได้ยาวนานกว่า 50,000 ชั่วโมง และใช้พลังงานน้อยลง

ปุ่มกดต่างๆ ที่ด้านข้างเครื่อง จะมีปุ่ม Power สำหรับเปิดปิดเครื่องอยู่ทางขวา และทางฝั่งซ้ายจะเป็นปุ่มปรับเพิ่มลดระดับเสียง และมีช่องของถาดซิมอยู่ เป็นแบบ 2 ซิมขนาด Nano SIM รองรับ 5G ทั้ง 2 เบอร์ และช่องซิมที่ 2 เลือกว่าจะเป็นเพิ่มหน่วยความจำ microSD ได้

พรีวิว OPPO Reno8 Z

ด้านล่างของตัวเครื่อง จะมีช่องหูฟัง 3.5 มิลลิเมตรมาให้ด้วย มีพอร์ต USB-C สำหรับชาร์จและโอนถ่ายข้อมูล และลำโพงเสียง

พรีวิว OPPO Reno8 Z

หน้าจอ OPPO Reno8 Z 5G เป็นแบบ Punch-Hole AMOLED FHD+ Display ขนาด 6.4 นิ้ว อัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่อง เต็มพื้นที่ 90.8% คุณภาพการแสดงสี 97% NTSC และ 93% DCI-P3 color gamut

พรีวิว OPPO Reno8 Z

หน้าจอจะมีเป็นเว้นช่องเจาะรูแบบ Punch-Hole ที่มุมขวาบนของจอ สำหรับกล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล

ตัวหน้าจอด้านล่างจะมี In-Display Fingerprint Unlock สำหรับสแกนลายนิ้วมือเพื่อปลดล็อคเครื่องได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว

หลังลองสัมผัส OPPO Reno8 Z 5G

พรีวิว OPPO Reno8 Z

ส่วนตัวผม ต้องบอกว่าชื่นชอบกับ Ultra Slim Retro Design มาตั้งแต่ OPPO Reno7 Z 5G เพราะมันดูเรียบๆ แต่สวยมาก รวมกับความบางและเบา ยิ่งทำให้ถือใช้ถนัดมือ

สำหรับ OPPO Reno8 Z 5G รุ่นที่ได้มาทดสอบ เป็นสีดำ Starlight Black ที่เป็นดำแล้วมีประกายระยิบระยับ ไม่ใช่ดำแบบทึบๆ แถมสัมผัสคือเนียนมือและไม่เกิดลายนิ้วมือเวลาจับเลย ดีไซน์นี้จึงสวยมากเวลาถือแบบที่ไม่อยากจะใส่เคสให้เกะกะหรือบดบังสีของเครื่อง

Dual Orbit Lights มาเป็นไฟวงคู่ ดูสวยงามเวลาที่มีแจ้งเตือนหรือเสียบชาร์จ เหมาะสำหรับคนที่ชอบวางคว่ำเครื่องก็จะรู้ได้ว่ามีสายโทรเข้าหรือแจ้งเตือนมาหรือเปล่า เป็นฟีเจอร์ที่นอกจากจะสวยงามแล้วยังมีประโยชน์อีกด้วย

พรีวิว OPPO Reno8 Z

ฟีเจอร์เด่น

ก่อนจะเจอกันใน รีวิวตัวเต็ม เราขอสปอยด์ฟีเจอร์เด่นที่น่าสนใจของ OPPO Reno8 Z 5G กันก่อน ที่นอกจากดีไซน์ที่สวยติดตา ยังเด่นทั้งเรื่องกล้องและประสิทธิภาพอีกด้วย

  • ถ่ายพอร์ตเทรตสวยอย่างเป็นธรรมชาติ ด้วย AI Portrait Retouching ที่มาช่วยปรับโทนสีผิวและแต่งหน้าให้อย่างเหมาะสม และเลือกปรับให้เหมาะสมกับสีผิวของแต่ละคนได้อีกด้วย
  • ถ่ายพอร์ตเทรตให้ได้ฉากหลังไฟโบเก้ดวงโตๆ เสมือนถ่ายด้วยกล้อง DSLR ด้วย Bokeh Flare Portrait รองรับทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง
  • ถ่ายเซลฟี่ได้สวยคมชัดด้วย Selfie HDR ไม่ว่าจะสภาพแสงจะไม่เป็นใจ ย้อนแสงหรือว่าแสงน้อย ก็ยังได้ภาพที่ใบหน้าสวยคมชัด และฉากหลังที่สีสันพร้อมรายละเอียดครบถ้วน
  • Ultra-Clear 108MP Image ถ่ายภาพในความละเอียดระดับสูงได้อย่างคมชัด
  • Flash Snapshot เก็บภาพได้คมชัดแม้ว่าในระหว่างที่วัตถุกำลังเคลื่อนไหว ไม่เบลอไม่หลุดโฟกัส
  • AI Color Portrait ถ่ายเซลฟี่พร้อมเอฟเฟ็กต์ปรับฉากหลังให้กลายเป็นสีขาวดำ
  • AI Palettes เลือกสไตล์ของโทนสีในการถ่ายภาพในแบบของตัวเอง และเลือกใช้เป็นฟิลเตอร์เพื่อคุมโทนของภาพให้ได้อารมณ์เดียวกัน
  • Dual-View Video บันทึกวิดีโอพร้อมกันทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังได้พร้อมกัน
33W SUPERVOOC
  • แบตเตอรี่ 4500mAh ใช้งานได้ต่อเนื่องเต็มวัน พร้อมชาร์จเร็ว 33W SUPERVOOC ชาร์จเต็ม 100% ได้ในเวลาเพียง 63 นาที
  • RAM 8GB + ROM 128GB พร้อมรองรับ RAM Expansion เพิ่มได้อีก 5GB
  • ระบบปฏิบัติการ ColorOS 12.1 เวอร์ชั่นใหม่ ออกแบบให้ใช้งานได้ง่าย ลื่นไหล เป็นส่วนตัว และปลอดภัยมากขึ้น

ขอจบเพียงเท่านี้ก่อน สำหรับการ พรีวิว รอพบกับ รีวิว OPPO Reno8 Z 5G แบบเจาะลึกทุกฟีเจอร์เด่นของสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ได้ เร็วๆ นี้ครับ 😀

พรีวิว OPPO Reno8 Z

OPPO Reno8 Z 5G ราคา โปรโมชั่น พรีออเดอร์

OPPO Reno8 Z 5G สวยครบเครื่องขนาดนี้ เปิดตัวด้วย ราคา 12,990 บาท มาพร้อมกับ โปรโมชั่น พรีออเดอร์ได้ตั้งแต่ วันนี้ – 18 สิงหาคม 2565 โดยจะได้เรับของสมนาคุณมูลค่า 7,499 บาท ประกอบไปด้วย E-VIP CARD มูลค่า 5,000 บาท ลูกค้าจะได้รับการรับประกันจอแตกและรับประกันตัวเครื่อง 1 ปี และ RENO BACKPACK มูลค่า 2,499 บาท

สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : https://bit.ly/3BiW1I6

#OPPOReno8Z5GTH #ThePortraitExpert #ถ่ายรูปคนสวยเป็นธรรมชาติ

รีวิว
วันที่
สินค้า
OPPO Reno8 Z 5G
คะแนน
41star1star1star1stargray
สินค้า
OPPO Reno8 Z 5G
ราคา
THB 12990