บริษัทในสหรัฐฯ มีปริมาณการ จ้างงาน เกี่ยวกับ metaverse ลดลงถึง 81%

บริษัทวิจัยเผยโพสต์และประกาศ จ้างงาน ที่เกี่ยวข้องกับ metaverse ในสหรัฐอเมริกานั้นหายไปมากถึง 81% ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีนี้

ก่อนหน้านี้ Facebook ได้เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น Meta ในช่วงปลายเดือนตุลาคม 2021 โดยมีวิสัยทัศน์ที่จะมุ่งสู่โลก metaverse ถึงแม้บริษัทจะเพิ่งรายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 2 ของปี 2022 ไปแล้วพบว่ามีผลขาดทุนจาก metaverse สูงถึง 2,806 ล้านดอลลาร์ แต่ Mark Zuckerberg ซีอีโอของ Meta ยังคงเชื่อมั่นและมองว่า metaverse นี่แหละที่จะสามารถปลดล็อคและดึงดูดเม็ดเงินได้จำนวนมหาศาลในอนาคต เขาจึงลงทุน โฟกัส และเดิมพันไปที่ metaverse สูงมาก

ณ เวลานี้ metaverse ดูยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง แต่ดูเหมือนบริษัทต่างๆ จะลดการจ้างงานในส่วนงานนี้แล้ว เมื่อล่าสุดสำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า ผลการศึกษาข้อมูลโดย Revelio Labs แสดงให้เห็นว่าการโพสต์รับสมัครงานที่เกี่ยวข้องกับ metaverse ระหว่างช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2022 นั้นลดลงอย่างน่าใจหาย

Revelio Labs เป็นบริษัทเก็บสถิติตำแหน่งงานของบริษัทต่างๆ ทั่วโลก ได้ทำการสำรวจโพสต์และประกาศที่รับสมัครงานเกี่ยวกับ metaverse ในเว็บไซต์ต่างๆ ของสหรัฐอเมริกา และพบว่า ในช่วง 3 เดือน ตั้งแต่เดือนเมษายนถึงเดือนมิถุนายน 2022 นั้น โพสต์รับสมัครงาน และ จ้างงาน ที่เกี่ยวข้องกับ metaverse ลดลงเยอะมากถึง 81%

ข้อมูลจ้างงานจากเว็บไซต์ Hiring Lab ระบุว่าประกาศรับสมัครงานในสายเทคโนโลยี ณ เดือนกรกฎาคม 2022 นั้นสูงกว่าระดับพื้นฐานก่อนช่วง COVID-19 ระบาดถึง 53.5% ถือเป็นสัญญาณที่ดีต่อตัวเลขการจ้างงานที่สูงขึ้น แต่หลังจากนั้นไม่นาน โพสต์จ้างงานกลับค่อยๆ หายไป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตำแหน่ง software development ที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งน่าจะเป็นผลกระทบที่มาจากปัจจัยภายในประเทศที่บริษัทเทคโนโลยีต่างๆนั้นเริ่มชะลอการจ้างงาน รวมไปถึงบริษัทสตาร์ทอัพต่างๆ ที่มีการปลดพนักงานบางส่วนออกไปก่อนหน้านี้

การลดความต้องการจ้างงานด้านเทคโนโลยี ส่งผลกระทบต่อเนื่องไปยังศูนย์กลางเทคโนโลยีในสหรัฐฯ เช่น ซานโฮเซ่ ซานฟรานซิสโก และซีแอตเทิล ที่ลดการจ้างงานลง 8.4% ในช่วง 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา

Jin Yan นักเศรษฐศาสตร์จาก Revelio Labs มองว่าอุปสงค์และตัวเลขของความต้องการจ้างงานที่เกี่ยวกับ metaverse นั้นพุ่งสูงขึ้นหลังจากที่ Mark Zuckerberg เปลี่ยนชื่อจาก Facebook เป็น Meta พร้อมประกาศวิสัยทัศน์ที่จะมุ่งสู่ metaverse และแน่วแน่ในแนวคิดของเขาว่า metaverse , เทคโนโลยี AR และ VR เป็นอนาคตของบริษัท

Meta รวมถึงบริษัทเทคโนโลยีใหญ่ๆ อย่างเช่น Apple และ Alphabet (บริษัทแม่ของ Google) ต่างประกาศว่ามีแผนจะชะลอการจ้างงานลงทั้งนั้น เนื่องมาจากสภาพเศรษฐกิจที่ถดถอย ปัญหาสงครามรัสเซีย-ยูเครน ปัญหาด้านพลังงาน โรคระบาด และความไม่แน่นอนต่างๆ อีกมากมาย

metaverse

เว็บไซต์ Analytics Insight มองว่า 5 ตำแหน่งงานเกี่ยวกับ metaverse ที่คงอยู่แม้สถานการณ์จะแย่ลง

1. นักวิทยาศาสตร์วิจัย Metaverse

Metaverse Research Scientist จะรับผิดชอบในการสร้างรากฐานของแอปพลิเคชัน metaverse โดยไม่มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาโมเดลดิจิทัลขั้นพื้นฐานในสถานการณ์จริง แต่จะสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่มองเห็นได้และดำเนินการได้เพื่อนำไปสู่การสร้างโซลูชัน metaverse

2. วิศวกรบล็อกเชน

Blockchain Engineer รับผิดชอบทางเทคนิคในการปรับใช้และสร้างบล็อคเชนดิจิทัลสำหรับโซลูชันระดับองค์กร การทำงานของตำแหน่งนี้มักจะเกี่ยวข้องกับการให้คำปรึกษาด้านเทคโนโลยีและบริษัทให้บริการข้อมูล

แต่ใน metaverse นั้น พวกเขาจะรับผิดชอบในการสร้างและออกแบบโซลูชันบล็อกเชน

นี่น่าจะเป็นหนึ่งในตำแหน่งงาน metaverse ที่ยังคงอยู่ในอนาคต

3. นักยุทธศาสตร์ NFT

NFT Strategist ต้องมีความรู้และความเข้าใจที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับเทคโนโลยีบล็อคเชนและโดเมน metaverse

มีหน้าที่รับผิดชอบในการวิเคราะห์แนวโน้มอุตสาหกรรมเพื่อให้ข้อมูลเชิงลึกและโอกาสที่นำไปปฏิบัติ/ใช้งานได้

ตำแหน่งนี้จะเป็นผู้สร้างแผนงานเพื่อรวบรวมแนวคิด NFT , gamification , การนำกลยุทธ์ไปใช้งานจริง และอื่นๆ

4. นักวางแผน Metaverse

Metaverse Planner รับผิดชอบในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานการเติบโตสำหรับธุรกิจ metaverse สร้างพอร์ตโฟลิโอเชิงกลยุทธ์ของโอกาสตั้งแต่การพิสูจน์แนวคิดไปจนถึงการนำร่องและต่อด้วยการพัฒนา ที่จะเกี่ยวข้องกับการระบุโอกาสทางการตลาด , การสร้างกรณีศึกษาทางธุรกิจ สร้างแผนงาน และอื่นๆ เป็นหนึ่งในงาน metaverse ที่จะยังคงมีอยู่ในอนาคต

5. ผู้พัฒนาระบบนิเวศน์

Ecosystem Developer รับผิดชอบในการประสานงานกับพาร์ทเนอร์ที่เป็นบริษัทคู่ค้ารวมถึงรัฐบาล เพื่อให้แน่ใจว่าฟังก์ชันที่มีอยู่สามารถดำเนินการได้จริงบนแพลตฟอร์มขนาดใหญ่

ตำแหน่งนี้จะรับผิดชอบเรื่องการลงทุนของรัฐบาลในโครงสร้างพื้นฐาน สร้างความเคลื่อนไหวให้กับ community ขนาดใหญ่สำหรับผู้ที่เข้าร่วม metaverse

ที่มา : Bloomberg | FASTCOMPANY | Hiring Lab
รูปจาก : freepik