ดราม่า! ผู้ใช้ iPhone 7 ไม่พอใจ หลังโดนลอยแพ ไม่ได้อัปเดตเป็น iOS 16

Apple กำลังเผชิญกับกระแสต่อต้านจากฝั่งผู้ใช้หลังมีการประกาศว่าอุปกรณ์อย่าง iPhone 7 และ iPhone 7 Plus จะไม่ได้ไปต่อ (ไม่ได้รับการซัพพอร์ตให้อัปเดตระบบปฏิบัติการใหม่อย่าง iOS 16 แล้ว)

iOS 16 เปิดตัวในงาน WWDC 2022 โดยมาพร้อมการอัปเดต การเปลี่ยนแปลงแบบ major change และฟีเจอร์การปรับแต่งต่างๆ เช่น หน้าจอ Lock Screen การเปลี่ยนแปลงใน iMessage เช่น การทำเครื่องหมายว่ายังไม่ได้อ่าน การแก้ไขข้อความ และอื่นๆ อีกมากมาย

อย่างไรก็ตาม มีอุปกรณ์หลายรุ่นที่ไม่ได้ไปต่อ อย่างเช่น iPhone 6s , iPhone 7 , iPhone 7 Plus และ iPhone SE ไม่ได้รับการซัพพอร์ตให้ใช้งาน iOS 16

ปรากฎว่า มีกลุ่มผู้ใช้งาน iPhone 7 และ iPhone 7 Plus แสดงความไม่พอใจกับเรื่องนี้ โดยอุปกรณ์ทั้ง 2 เปิดตัวเมื่อเดือนกันยายน 2016 หรือเกือบ 6 ปีที่แล้ว โดยเป็น iPhone รุ่นแรกที่มาพร้อมเลนส์กล้องหลัง 2 ตัว เป็น iPhone 2 รุ่นแรกที่กำจัดปุ่ม Home แล้วแทนที่ด้วยปุ่ม Haptic และยังเป็นรุ่นที่ถูกนำช่องเสียงหูฟังออกไปด้วย

หลังจบงาน WWDC เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ผู้ใช้ iPhone 7 หลายคนได้แชร์ความไม่พอใจและความรู้สึกไม่เห็นด้วยที่อุปกรณ์ของพวกเขาไม่ได้รับการซัพพอร์ตแล้วผ่านทั้งฟอรั่มต่างๆ รวมไปถึง Twitter จำนวนมาก (เราหยิบมาให้ดูเพียงบางส่วนเท่านั้น)

iOS 16 drop support for iPhone 7
ความคิดเห็นบางส่วนของผู้ใช้จากฟอรั่มของ MacRumors

คำอธิบายที่ดูจะสมเหตุสมผลที่สุด คือ ชิป A10 Fusion ใน iPhone 7 และ iPhone 7 Plus นั้นประสิทธิภาพไม่เพียงพอที่จะใช้งาน iOS 16 และฟีเจอร์ใหม่ๆ ทั้งหมด อย่างไรก็ตาม คำอธิยายดังกล่าวกลับดูย้อนแย้งเมื่อ iPad รุ่น 6 และรุ่น 7 ที่ใช้งานชิป A10 Fusion เหมือนกันกลับรองรับการใช้งาน iPadOS 16 ได้

ยิ่งไปกว่านั้น iPad รุ่น 5 ที่ใช้งานชิป A9 ที่เก่ากว่าชิป A10 Fusion ใน iPhone 7 กลับได้รับการรองรับการใช้งาน iPadOS 16 อีกต่างหาก แม้ว่า iOS กับ iPadOS นั้นจะไม่เหมือนกันซะทีเดียว แต่ก็มีฟีเจอร์หลายอย่างที่เหมือนกันและเทคโนโลยีหลายตัวที่มีพื้นฐานเดียวกัน

ในทางทฤษฎี Apple สามารถให้ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus รองรับการใช้ iOS 16 ได้ แต่เพียงแค่ปิดการใช้งานฟีเจอร์ CPU และ ML-heavy บางตัวสำหรับ iPhone รุ่นใหม่กว่า หากทำได้จริง ผู้ใช้ iPhone 7 จะยังคงได้รับประโยชน์จากประสิทธิภาพและความปลอดภัยของ iOS 16 รวมถึงการปรับแต่งเล็กน้อย เช่น ความสามารถแก้ไขข้อความใน iMessages ซึ่งไม่ต้องใช้ CPU มาก

แต่แนวทางปฏิบัติของ Apple ก็เป็นแบบนี้มานานแล้ว ซึ่งดูจากฟีเจอร์ต่างๆ ของ iOS 16 จะใช้งานกับ iPhone ที่ใช้งานชิป A12 Bionic ขึ้นไปเท่านั้น

ที่มา : MacRumors