Facebook โวย ความเป็นส่วนตัวของ iOS 14.5 ทำขาดทุนถึง 1 หมื่นล้านดอลลาร์

Meta บริษัทแม่ของ Facebook อาจมีผลขาดทุนกว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์ในปีนี้ เนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงด้านความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้เพียงเล็กน้อยใน iOS 14.5 จาก Apple ในปีที่แล้ว แต่ผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงนั้นไม่น้อยเลย

การเปลี่ยนแปลงเรื่องความเป็นส่วนตัวของ iOS 14.5 เกิดขึ้นในเดือนเมษายน 2021 โดย Apple เปิดให้ผู้ใช้ iPhone เลือกได้ว่าแอปใดๆ ได้รับอนุญาตให้ติดตามพฤติกรรมการใช้งานไปยังแอปอื่นๆ หรือไม่ ด้วยเหตุนี้เอง ผู้ใช้ส่วนใหญ่จึงเลือกไม่เปิดสิทธิ์ ไม่ให้แอปนั้นๆ ติดตามพฤติกรรมการใช้งานของเขา ซึ่งส่งผลกระทบรุนแรงต่อรายได้จากโฆษณาของ Facebook (Facebook ต้องการข้อมูลและพฤติกรรมของผู้ใช้งานเพื่อที่แบรนด์หรือร้านค้าจะได้นำข้อมูลนั้นๆ มาปรับใช้ทำ Ads โฆษณาเพื่อยิงโฆษณาไปยังกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย)

การเปลี่ยนแปลงความเป็นส่วนตัวของ iOS เป็นอุปสรรคต่อธุรกิจของเราในปี 2022 ซึ่งอาจส่งผลกระทบร้ายแรงต่อรายได้ของเรามากถึง 1 หมื่นล้านดอลลาร์

David Wehner ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการเงินของ Meta กล่าวระหว่าง Conference Call ผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ของบริษัท

แหล่งรายได้หลักของ Meta คือธุรกิจโฆษณา ซึ่งสร้างจากฐานข้อมูลขนาดใหญ่ของข้อมูลผู้ใช้ที่ได้รับจากการดำเนินงาน/การใช้งานบนแพลตฟอร์มโซเชียลที่ใหญ่ที่สุดของโลกอย่าง Facebook , Instagram และ WhatsApp

Allow Facebook To Track

เมื่อ Apple ให้ตัวเลือกและเปิดทางให้ผู้ใช้ได้มีสิทธิ์เลือกการกระทำดังกล่าว ผู้ใช้ส่วนใหญ่จึงเลือกไม่ให้แอปติดตามพฤติกรรมการใช้งาน ส่งผลให้ Facebook ไม่สามารถรวบรวมข้อมูลผู้ใช้เพื่อทำโฆษณาได้ การเปลี่ยนแปลงที่ว่าเกิดขึ้นเมื่อมีการอัปเดตระบบปฏิบัติการ iOS 14.5 ที่เปิดตัวเมื่อเดือนเมษายน 2021 รวมถึงการบังคับให้ผู้เผยแพร่แอปทำข้อความป๊อปอัปเพื่อขออนุญาตทำการติดตามพฤติกรรมเพื่อใช้ในการขายโฆษณา หากผู้ใช้เลือกไม่อนุญาตให้ติดตาม Apple จะตัดแอปนั้นๆ ออกจากการรับข้อมูลต่างๆ ที่ใช้โดยผู้ทำโฆษณา

ข้อมูลจากรายงานก่อนหน้านี้ระบุว่า ผู้ใช้ iPhone มากกว่า 95% ที่ดาวน์โหลดระบบปฏิบัติการตัวอัปเดตเลือกไม่ให้แอปติดตามพฤติกรรมการใช้งาน ดังนั้น David Wehner จึงคาดการณ์ว่ารายได้จากโฆษณาของ Facebook จะได้รับผลกระทบจากสิ่งนี้แน่ๆ ในปี 2022

อย่างไรก็ตาม Wehner กล่าวทิ้งท้ายว่า Facebook กำลังทำงานอย่างหนักเพื่อลดผลกระทบเหล่านั้น และทำให้โฆษณามีความเกี่ยวข้อง แม่นยำ และมีประสิทธิภาพต่อผู้ใช้ต่อไปให้ได้

ที่มา : BusinessInsider