Meta เพิ่ม Professional Mode สำหรับ Profile ผู้ใช้บน Facebook หารายได้และวิเคราะห์ข้อมูลได้เหมือน Page

Meta ได้ออกมาประกาศผ่านเว็บไซต์ว่า พวกเขาได้ทำการอัปเดตให้ผู้ใช้ในสหรัฐอเมริกาได้ทดสอบ Professional Mode ลงในหน้า Profiles บนแอป Facebook แล้ว โดยฟีเจอร์นี้จะสามารถหารายได้และวิเคราะห์ข้อมูลได้เหมือนกับ Page

ผู้ใช้ที่มี Page เป็นของตัวเองคงจะคุ้นเคยกับหน้าตาฟีเจอร์ที่ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลของเพจคุณเป็นอย่างดี เจ้า Professional Mode นี้ก็มีหน้าตาและการทำงานที่เหมือนกันกับฟีเจอร์ของเพจ เพียงแต่มันจะย้ายมาอยู่บนหน้าโปรไฟล์ของผู้ใช้แทน

Facebook Professional Mode

เหตุผลที่ Facebook ตัดสินใจเพิ่มโหมดนี้ก็เป็นเพราะเล็งเห็นว่า Creators ส่วนใหญ่มักจะโพสต์ข้อมูลผ่านทางไทม์ไลน์ของพวกเขาเอง ในขณะที่แหล่งสร้างรายได้ส่วนใหญ่กลับอยู่ที่เพจเท่านั้น ดังนั้นเฟสบุ๊คจึงตัดสินใจให้ครีเอเตอร์สามารถใช้โปรไฟล์ในการหารายได้เพิ่มเติมได้อีกทางหนึ่ง

Facebook Professional Mode

Professional mode จะช่วยวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกของโพสต์, ผู้ชม และโปรไฟล์ ตัวอย่างเช่น คุณสามารถดูจำนวนการแชร์ ปฏิกิริยาตอบโต้ต่อโพสต์ และความคิดเห็นทั้งหมดที่มีบนโพสต์ รวมถึงตรวจสอบการเติบโตของผู้ติดตามด้วย

เมื่อคุณเปิดโหมดดังกล่าวผู้ใช้ทุกคนจะสามารถติดตามและดูเนื้อหาสาธารณะของคุณบนฟีดของพวกเขาได้ แต่คุณจะยังสามารถควบคุมได้ว่าใครบ้างที่จะเห็นเนื้อหาที่คุณแชร์ นั่นหมายความว่าคุณสามารถแชร์การอัปเดตแบบสาธารณะ หรือแชร์เนื้อหากับเพื่อนของคุณเท่านั้นก็ได้

Facebook Professional Mode

ตอนนี้เฟสบุ๊คกำลังเปิดให้ทดสอบโหมดดังกล่าวเฉพาะผู้ใช้บางรายในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น และทางบริษัทเผยว่าจะมีการอัปเดตให้กับประเทศอื่น ๆ ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้

นอกจากโหมดดังกล่าวแล้ว Meta ยังเพิ่มคุณสมบัติใหม่ ๆ บน Page ซึ่งรวมถึง Professional Dashboard ที่ทำหน้าที่เป็นเหมือนปลายทางกลางสำหรับผู้ดูแลระบบ ในการตรวจสอบประสิทธิภาพของเพจ และเข้าถึงเครื่องมือรวมไปถึงข้อมูลเชิงลึกระดับมืออาชีพด้วย

มีการเพิ่ม Unit ใหม่ที่ด้านบนสุดของฟีด ที่จะทำให้เห็นภาพรวมของความคิดเห็นใหม่ ๆ และการแชร์เนื้อหาของคุณ ตลอดจนเคล็ดลับในการสร้างเนื้อหาที่มีประสิทธิภาพและน่าติดตามด้วย

รวมไปถึงการสร้างโพสต์แบบ Two-step ใหม่ ที่ช่วยให้ครีเอเตอร์สามารถกำหนดเวลาโพสต์ และโพสต์แบบ Cross-post ภายในกลุ่มเฟสบุ๊คได้อย่างง่ายดาย ซึ่งก่อนหน้านี้จะทำได้แค่บน Facebook Business Suite และ Meta Creator Studio เท่านั้น

ที่มา facebook