Schneider Electric

Schneider Electric ปรับโฉมผลิตภัณฑ์ อัดฟีเจอร์ไฮเทค รับโรงงาน อาคารแห่งอนาคต

Schneider Electric ด้านการจัดการพลังงานและระบบออโตเมชั่น ปรับโฉมผลิตภัณฑ์ใหม่ พร้อมฟีเจอร์ IoT ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านการปฏิรูปสู่ดิจัล ในกลุ่มเบรกเกอร์ สตาร์ทมอเตอร์ ลีเรย์ พร้อมแนะนำ Thermal Sensor แบบ IoT ใหม่ “เล็กเหลือเชื่อ” ทั้งหมดพกความล้ำหน้าในแบบ 4.0 ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง แต่ให้ความเรียบง่ายในการใช้งาน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ความปลอดภัย ลดความซับซ้อนในการดูแลรักษา

Schneider Electric ปรับโฉมผลิตภัณฑ์ TeSys สู่ Tesys Deca Series  3 รุ่น ด้วยกัน หรือเรียกว่า TeSys D ได้แก่ 1.TeSys Deca Motor Circuit Breakers 2. TeSys Deca Contactors  3. TeSys Deca Overload Relays ให้ความโดดเด่นเรื่องความแข็งแรงทนทาน โทนสีเทาดำทำจากวัสดุรักษ์โลกคุณภาพเยี่ยม ใช้ในอุณหภูมิสูงถึง 60 องศา รองรับการทำงานหนักได้ถึง 3,600 ครั้ง/ชม. โดยไม่มีการลดทอนสมรรถนะ ทุกรุ่นมาพร้อม QR code แสดงวิธีการใช้งาน มาพร้อมมาตรฐานระดับโลกอาทิ  มาตรฐาน NEMA ซึ่งเป็นที่ยอมรับในตลาดอเมริกา และ IEC 60335-1 เป็นมาตรฐานสำหรับผลิตภัณฑ์สำหรับครัวเรือนของยุโรป อาทิ เตาอบขนมปัง เครื่องซักผ้า เครื่องล้างรถ ฯลฯ

ช่วยส่งเสริมการส่งออกไทยในระดับที่สากลยอมรับ นอกจากนี้ยังมีเพิ่มหัวน็อตอัจฉริยะสามารถใช้ได้กับทุกไขควง รวมไปถึงการเข้าสายแบบ Everlink เอกลักษณ์เฉพาะของชไนเดอร์ อิเล็คทริค ที่ให้ความแข็งแรงทนทาน นอกจากนี้ยังรองรับการขยายความสามารถให้เข้ากับระบบออโตเมชั่น หรือ PLC ได้ด้วยชุด Auxiliary contact สำหรับ 1 mA ช่วยเสริมความสามารถในงานอื่นๆ เช่น การสร้างลิฟต์ เครื่องยกบนระบบเครน อุตสาหกรรมทอผ้า เส้นใย อุตสาหกรรมโลหะ หรืองานในสภาพแวดล้อมที่ต้องการความสมบุกสมบัน นับว่ากลุ่มผลิตภัณฑ์ TeSys ซีรีย์ ใหม่ ของชไนเดอร์ อิเล็คทริค ช่วยต่อยอดความต้องการทางอุตสาหกรรมไปสู่การผลิตสินค้าในครัวเรือน และยังเพิ่มคุณค่าในแบบดิจิทัลได้อีกด้วย ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ นอกเหนือจากความสามารถด้านการเชื่อมต่อทั่วไป

TeSys ยังมีการปรับโฉม TeSys F เป็น TeSys Giga หรือ TeSys G แบบ เฟรม ประกอบด้วย TeSys Giga Contactors ขนาด 115-800 A ใช้งานร่วมกับ TeSys Giga Overload Relays ขนาด 28-630 A ได้ใน 1 เดียว เล็กกว่าเดิมถึง 35 เปอร์เซ็นต์ประหยัดพื้นที่ในการติดตั้ง แต่สามารถรองรับงานมอเตอร์ขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับงานอุตสาหกรรมหนักที่ต้องใช้มอเตอร์ขนาดใหญ่ เช่น งานบำบัดน้ำเสีย โรงปูน ทางเดินรถไฟฟ้า กังหันผลิตพลังงานจากลม ออยล์แอนด์แก๊ส ลิฟต์ เรือบรรทุกสินค้า โรงงานกระดาษ รวมไปถึงระบบระบายอากาศในอาคารขนาดใหญ่ ฯลฯ มาพร้อมอิเล็คทรอนิกส์ยูนิเวอร์ซอลคอยล์ เป็น AC และDC อยู่ในคอยล์เดียวกัน ขณะที่ TeSys Giga Overload Relays ขนาด 28-630 A มีฟังก์ชั่นแอลอีดีแจ้งเตือนสถานะ ช่วยให้คาดการณ์แนวโน้มการซ่อมบำรุงได้ง่าย สามารถประกอบร่างต่อกันได้เลย โดยเด่นด้วยการผสานฟังก์ชั่นในการป้องกัน อาทิ ป้องกันการลัดวงจรลงดิน (ground fault) ป้องกันการไม่สมดุลของกระแสไฟ  สามารถเลือกเปิด/ปิด รีเซ็ตด้วยตัวเอง หรืออัตโนมัติก็ได้ พร้อมทั้งรองรับการเชื่อมต่อกับ PLC เพื่อใช้ระบบออโตเมชั่นได้ใน 1 เดียว

ComPacT NSX กับ ComPacT NSXm ใหม่ ได้แก่ ComPacT NSXm สำหรับกระแส 16-160 A และComPacT NSX สำหรับค่ากระแส เริ่มที่ 100-630 A ซึ่งเป็นเบรกเกอร์สำหรับอาคาร โรงงาน มาพร้อมความล้ำหน้าด้วยการเชื่อมต่อแบบไร้สาย เหมาะสำหรับ ธุรกิจ โรงตู้ อาคารสำนักงานขนาดใหญ่ ยุค 4.0 ที่ต้องการปฏิรูปสู่ดิจิทัล เสริมแกร่งให้ผู้ประกอบการในการเพิ่มความเป็นดิจิทัลให้กับลูกค้า ด้วยนวัตกรรมแบบ IoT ในการมอนิเตอร์ เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้น สามารถตรวจสอบสถานะได้ผ่านอุปกรณ์ต่างๆ เช่น สมาร์ทโฟน แทปเล็ต คอมพิวเตอร์  และสามารถแจ้งจุดที่เสียหายให้ผู้ดูแลที่อยู่ใกล้เคียงสามารถแก้ปัญหาได้ในทันที

ComPacT ซีรีย์ ยังได้รับการปรับโฉมใหม่ พร้อมคว้ารางวัล iF Design Award ซึ่งเป็นรางวัลระดับโลกอีกด้วย นับเป็นจุดแข็งในการออกแบบและคิดค้นนวัตกรรม เบรกเกอร์เพื่อความปลอดภัยที่มีความโดดเด่นและได้รับการยอมรับจากผู้เชี่ยวชาญในระดับโลก ที่สำคัญ ComPacT ใหม่นี้ ช่วยลดความซับซ้อนและขั้นตอนในการบำรุงรักษา และการติดตั้ง มาพร้อมอุปกรณ์เสริมแบบโมดูลาร์แบบ “plug and play” ทำให้ ComPacT สามารถขยายขีดความสามารถด้าน IoT และติดตั้งได้ง่าย โดยไม่ต้องวางระบบใหม่ เรียกได้ว่า เป็นผลิตภัณฑ์ด้านความปลอดภัยที่พร้อมสำหรับการปฏิรูปสู่ดิจิทัลอย่างแท้จริง

นอกจากนี้ทั้ง TeSys D และ TeSys G และ ComPacT โฉมใหม่ ผลิตจากวัสดุรักษ์โลกด้วยนวัตกรรมเฉพาะของชไนเดอร์ อิเล็คทริค ให้ความแข็งแรงทนทานสูง พร้อมได้รับมาตรฐานกรีนพรีเมี่ยมระดับโลกอีกด้วย

Thermal Sensor นวัตกรรมการตรวจจับอุณหภูมิของตู้ไฟฟ้าแบบฉบับ 4.0 ให้ความสามารถในการแจ้งเตือนอุณหภูมิในตู้มีความร้อนขึ้นผิดปกติ ซึ่งอาจนำพามาซึ่งปัญหาใหญ่ในอนาคตได้ ด้วยรูปลักษณ์ที่เล็กกะทัดรัด ประมาณเหรียญ 10 บาท พร้อมแม่เหล็กในตัว ทำให้สามารถเลือกติดตั้งได้ง่ายดายตามจุดเสี่ยงต่างๆ เพื่อป้องกันการเกิดความร้อนที่มากเกินไป Thermal Sensor เป็นอีกนวัตกรรมด้านดิจิทัลที่เล็ก แต่ป้องกันอันตรายที่ยิ่งใหญ่ได้อย่างลงตัว

WATSN – อุปกรณ์สวิตซ์ที่ใช้เลือกสลับแหล่งจ่ายไฟฟ้าแบบอัตโนมัติ ใช้งานร่วมกับแหล่งจ่ายไฟสำรอง ที่มีขนาดกระแสตั้งแต่ 63A ไปจนถึง 630A และสามารถใช้งานในความถี่ทั้ง 50 และ 60Hz เหมาะสำหรับ อาคาร สำนักงาน โรงงาน ห้างสรรพสินค้า ทั้ง ขนาดเล็กและขนาดกลาง ที่ต้องการความต่อเนื่องของระบบไฟฟ้าแม้แหล่งจ่ายไฟหลักจะดับ ไฟเกิน หรือไฟตก

WATSN ถูกออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘Compact but Complete’ โดยได้รับรางวัลการการันตีโดย Red Dot Design Award ซึ่งเป็นองค์กรรับดับโลกด้านการออกแบบของอุปกรณ์สำหรับโรงงานโดยเฉพาะ จึงมั่นใจได้ว่าอุปกรณ์สวิตซ์ที่ใช้เลือกสลับ แหล่งจ่ายไฟฟ้าแบบอัตโนมัติ WATSN สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง ด้วยความปลอดภัยสูงสุด ผสมผสานด้วยประสิทธิภาพที่โดดเด่นและคุณภาพระดับสูง ทำให้สามารถใช้งานได้ในสภาพแวดล้อมที่หลากหลายและยังมีอุปกรณ์เสริมให้ลูกค้าได้เลือกใช้ตามความต้องการและความจำเป็น

นวัตกรรมของชไนเดอร์ อิเล็คทริค ไม่ว่าจะเป็น Tesys Deca Series  และ Tesys Giga Series รวมถึง ComPacT ใหม่ รวมไปถึง Thermal Sensor และ WATSN ทำงานร่วมกันได้ภายใต้ EcoStruxure ของชไนเดอร์ อิเล็คทริค เพื่อเพิ่มความสามารถด้านดิจิทัลในแบบ 360 สำหรับอาคาร โรงงาน และอุตสาหกรรมแห่งยุค 4.0