Meta สมาร์ทวอทช์

ภาพหลุด สมาร์ทวอทช์ รุ่นแรกของ Meta (Facebook) มีกล้องอยู่บนหน้าจอ

มีข่าวลือออกมาว่า Meta หรือชื่อเดิมคือ Facebook กำลังซุ่มพัฒนา สมาร์ทวอทช์ ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อแข่งขันกับ Apple Watch โดยทาง Bloomberg ได้แชร์ภาพของอุปกรณ์ตัวดังกล่าวออกมาให้เราได้ชมกันแล้ว

ตอนนี้ Facebook ได้ประกาศเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น Meta เพื่อให้เข้ากับกลยุทธ์ใหม่ของแบรนด์ ที่ต้องการปรับเป็นบริษัท Metaverse อย่างเต็มรูปแบบ แต่แอปต่าง ๆ ของบริษัทอย่าง Facebook, Instagram และ WhatsApp จะยังคงใช้ชื่อเดิมต่อไป

ภาพของ สมาร์ทวอทช์ รุ่นแรกของ Meta ที่ได้รับการเผยแพร่ออกมานั้น มีดีไซน์ที่ไม่ต่างจาก Apple Watch มาก แต่มาพร้อมหน้าจอที่กว้างและกลมกว่า ด้วยขอบที่มีความโค้งมนมากขึ้น และมีกล้องที่ด้านล่างของจอแสดงผลพร้อมกับปุ่มควบคุมที่ด้านขวาของตัวเรือน

สมาร์ทวอทช์ มาพร้อมสายรัดข้อมือที่สามารถถอดออกได้ และมีข่าวลือว่ามันจะสามารถถอดหน้าจอออกได้ด้วย พร้อมกล้องถึง 2 ตัวคือ กล้องหน้าสำหรับใช้ในวิดีโอคอล และกล้องหลังสำหรับถ่ายภาพที่สามารถแชร์ไปยัง Facebook, Instagram และ WhatsApp ได้ทันที

ตัวสมาร์ทวอทช์รองรับการเชื่อมต่อเซลลูลาร์ได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้สมาร์ทโฟน ช่วยให้คุณส่งข้อความด้วย Messenger และ WhatsApp จากบนอุปกรณ์ได้เลย และคาดว่ามันจะมีคุณสมบัติการติดตามสุขภาพในตัว อย่างเช่น เครื่องวัดอัตราการเต้นของหัวใจด้วย

คาดว่า Meta วางแผนที่จะเปิดตัวสมาร์ทวอทช์ให้เร็วที่สุดในปี 2022 แต่ยังไม่มีไทม์ไลน์ที่ชัดเจนและแผนยังคงสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา และมีความเป็นไปได้ที่บริษัทจะเปิดตัวอุปกรณ์นี้มาแข่งกับ Apple Watch Series 8 ที่กำลังจะเปิดตัว

ความเห็นจากทีมงาน ล้ำหน้าฯ

จะเห็นว่า การเปลี่ยนจาก Facebook มาเป็น Meta บริษัทมีการพัฒนาในเรื่องของอุปกรณ์ต่างๆ เพิ่มเติมนอกเหนือจากบริการ และเป็นอุปกรณ์สวมใส่ที่มีปฎิสัมพันธ์กับผู้ใช้มากขึ้น ก่อนหน้านี้มีสำนักข่าวต่างประเทศวิเคราะห์ว่า Meta มีความต้องการในการเข้าถึงข้อมูลและพฤติกรรมผู้ใช้เพิ่มขึ้นมากกว่าการใช้งานผ่าน Facebook เพื่อให้สามารถนำมาวิเคราะห์เพื่อสร้างมูลค่าและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ได้

หลังจากปีที่ผ่านมา Apple เริ่มเปิดให้ผู้ใช้งานสามารถปิดกั้นการเข้าถึงข้อมูล และให้ผู้ใช้เลือกรักษาความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ก็ส่งผลกระทบต่อระบบโฆษณาของ Facebook อย่างรุนแรง รวมถึงทาง Google เองก็มีแนวคิดแบบเดียวกับ Apple ที่จะปิดกั้นเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน นั่นแปลว่าจะเกิดผลกระทบกับธุรกิจของ Facebook แน่นอน

การที่ Facebook ลุกขึ้นมาเอาจริงเอาจังกับการทำ Metaverse รวมถึงการพัฒนาอุปกรณ์ใหม่ๆ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเข้าใช้งานในแพลตฟอร์ม ก็เป็นส่วนที่ทำให้บริษัทสามารถได้ข้อมูลพฤติกรรมของผู้บริโภคผ่าน ecosystem ของตนได้นั่นเอง

ที่มา macrumors