ราคาเงินคริปโตร่วงหนัก หลังสหรัฐฯ ผ่านกฎหมาย เก็บภาษีสกุลเงินดิจิทัล ซื้อขายต้องยืนยันตัวตน

หลังจากประธานาธิบดี Joe Biden ได้ลงนามใน infrastructure bill ที่เป็นกฎหมายปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานของสหรัฐอเมริกา โดยส่วนหนึ่งของกฎหมายดังกล่าวพูดถึงแนวทางการเก็บภาษีสกุลเงินดิจิทัล ทำให้สกุลเงินคริปโตราคาร่วงกันระนาว

สำนักข่าว Bloomberg – สิงคโปร์รายงานว่าสกุลเงินดิจิทัลร่วงยกกระดานในวันอังคาร (16 พฤศจิกายน 2021) โดยที่

  • Bitcoin ร่วงลงไปอยู่ที่ระดับ 60,000 ดอลลาร์ ลดลง 4% ที่ประมาณ 61,400 ดอลลาร์หลังเที่ยงวันในสิงคโปร์ และ
  • Etherium ร่วงแตะระดับต่ำสุดในเดือนนี้ โดยปรับลดลงมากถึง 6.8%

CoinGecko เครื่องมือติดตามเงินคริปโตรายงานว่า มันส่งผลให้มูลค่าตลาดของ Cryptocurrency ทั่วโลกนั้นลดลง 7% ในเวลา 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา คิดเป็นเงิน 2.8 ล้านล้านดอลลาร์

ร่างกฎหมาย infrastructure bill แม้จะลงนามไปแล้ว แต่มีผลบังคับใช้จริงในเดือนมกราคม ปี 2024 แต่ผลกระทบที่เกิดขึ้น ถือว่าแรงเอาเรื่องมากๆ เลย

Hayden Hughes ซีอีโอของ Alpha Impact แพลตฟอร์มที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถเลียนแบบกลยุทธ์ของคริปโตเทรดเดอร์รายอื่น ได้กล่าวถึงการลงนามในกฎหมายดังกล่าวว่า เขาได้เห็นแล้วว่าร่างกฎหมายโครงสร้างพื้นฐานของสหรัฐฯ ได้รับการลงนาม ทำให้เริ่มเห็นสัญญาณการเทขายจากบรรดาเทรดเดอร์ที่มีความกังวลเกี่ยวกับเรื่องของกฏระเบียบ ข้อบังคับ และการเก็บภาษี

crypto drop infrastructure bill

ข้อกำหนดการรายงานภาษีใหม่สำหรับสกุลเงินดิจิทัลเป็นส่วนหนึ่งของ infrastructure bill มูลค่า 5.5 แสนล้านดอลลาร์ โดยกฎหมายตัวใหม่ที่เพิ่งจะลงนามไปนั้นจะบังคับให้ตัวแทนที่ทำการซื้อ-ขายสินทรัพย์ดิจิทัลทั้งหมด ต้องทำการรายงานภาษีกับทางสรรพากรสหรัฐฯ ซึ่งครอบคลุมไปถึงการให้บริการเหมืองขุดเงินคริปโตด้วย

นอกจากนี้ ยังบังคับให้ผู้ที่รับเงินคริปโตที่มีมูลค่าเกินกว่า 10,000 ดอลลาร์ต้องทำการยืนยันตัวตนผู้ที่ส่งเงิน และหมายเลขประจำตัวประชาชน พร้อมชี้แจงเหตุผลของการโอนเงินคริปโตจำนวนดังกล่าว โดยจำเป็นจะต้องรายงานธุรกรรมทั้งหมดให้กับทางรัฐบาลภายในระยะเวลา 15 วัน

ก่อนหน้านี้ ที่ทำให้เงินคริปโตร่วงมาแล้วรอบหนึ่งนั้น เป็นผลมาจากทางการจีนได้กำหนดให้มีการปราบปรามอุตสาหกรรมคริปโตอย่างกว้างขวางนช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา สาเหตุหลักๆ เป็นผลมาจากการใช้พลังงานและผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นจากการทำเหมืองขุด Bitcoin และสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ

ที่มา : THE STRAITS TIMES