รีวิว TCL 20 R 5G เปิดประสบการณ์ 5G ในราคาไม่ถึงพัน! จอ 90Hz

รีวิว TCL 20 R 5G เป็นสมาร์ทโฟนแบรนด์ระดับโลกที่กลับมาบุกตลาดไทยอีกครั้ง โดยการจัดจำหน่ายโดย VST ECT (Thailand) เน้นจุดเด่นคือ สมาร์ทโฟนที่ให้ทุกคนสามารถสามารถได้ประสบการณ์ 5G อย่างเต็มประสิทธิภาพในราคาที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น

สำหรับ TCL แล้ว หลายคนอาจจะคุ้นชื่อที่เป็นแบรนด์ยักษ์ใหญ่จากจีน ที่เป็นผู้นำด้านเครื่องใช้ไฟฟ้า ทีวี ฯลฯ รวมถึง สมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต โดยครั้งนี้ทาง วีเอสที อีซีเอส (ประเทศไทย) และ TCL Communication ก็ได้ร่วมมือกันเปิดตลาดสมาร์ทโฟน 5G รุ่นใหม่ในประเทศไทย

แกะกล่อง ดูดีไซน์

ตัวแพ็กเกจมาเป็นกล่องกระดาษสีขาว ที่ด้านหน้าจะมีรูปของตัวเครื่อง ส่วนด้านหลังจะมีรายละเอียดฟีเจอร์หลักของรุ่นนี้ คือหน้าจอ 6.52 นิ้ว 90Hz รองรับ 5G, แบตเตอรี่ 4500mAh และซีพียูแบบ 8 Core 7nm

ภายในกล่องจะมีเอกสารเป็นตัวคู่มือการใช้งานเบื้องต้น, คู่มือการรับประกันสินค้า และเข็มจิ้มถาดซิม

ในเซ็ตจะมีเคสกันรอยแบบ TPU วัสดุใส ใส่แล้วมองเห็นสีของตัวเครื่อง และแผ่นฟิล์มกันรอยมาให้ครบเรียบร้อย

ส่วนที่ด้านล่างสุดของกล่อง จะมีอะแดปเตอร์ชาร์จไฟแบบ 5V 2A พร้อมสายชาร์จแบบ USB-A to USB-C

มาดูกันที่ดีไซน์ของตัวเครื่อง สำหรับTCL 20 R 5G ที่ทางทีมงานล้ำหน้าฯ ได้รับมา รีวิว จะเป็นเครื่องสีดำ Black โดยจะมีอีกสีที่เข้ามาจำหน่ายในไทยคือสีน้ำเงิน Blue ตัวสีดำของเครื่องนั้น ฝาหลังจะเป็นแบบ matte ด้าน ที่เป็นสีดำออกไปทางเทาเข้ม ไม่ได้ดำสนิท เป็นแบบที่น่าจะถูกใจคนที่ไม่ชอบสมาร์ทโฟนฝาหลังเงาๆ เพราะจับแล้วเกิดรอยนิ้วมือเยอะมาก ซึ่งการทำสีฝาหลังแบบด้านนี้ ช่วยให้มีรอยนิ้วมือเกิดขึ้นน้อยลง

ที่ด้านหลังของเครื่องจะมีชุดโมดูลกล้องหลัง เป็นแบบ Triple-Camera ประกอบด้วยกล้องหลัก 13 ล้านพิกเซล, กล้องมาโคร 2 ล้านพิกเซล และกล้องวัดระยะ Depth 2 ล้านพิกเซล โดยจะมีเซ็นเซอร์สำหรับสแกนลายนิ้วมืออยู่ที่ด้านหลังเครื่องด้วย

ตัวเครื่องดีไซน์ให้มีการลบมุมสันให้มีความโค้งมน จับได้ถนัดกระชับมือ เฟรมเครื่องมีความหนา 8.99 มิลลิเมตร เป็นแบบเรียบที่มีทำ texture ให้สามารถจับได้ไม่ลื่นมือ และดูสวยงาม

ด้านข้างของเครื่องฝั่งขวา จะเป็นปุ่มปรับระดับเพิ่มลดเสียง พร้อมปุ่ม Power ในการเปิดปิดเครื่องและหน้าจอ

มาดูทางฝั่งซ้าย จะมีช่องของถาดซิมอยู่ เป็นแบบ Hybrid ที่จะใส่เป็น ซิมขนาด Nano SIM ได้ 2 ซิม โดยช่องซิม 2 จะเลือกได้ระหว่างใส่ซิมหรือใส่ microSD ที่รองรับความจุได้สูงสุดถึง 1TB

ด้านบนของตัวเครื่อง มีไมโครโฟนตัวที่ 2 สำหรับตัดเสียงรบกวน และช่องสำหรับเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร​ ที่รองรับ Hi-Res Audio

ด้านล่างตัวเครื่องจะมีช่องของลำโพงและไมโครโฟนสนทนา ออกแบบมาเป็นแบบเหมือนลำโพงคู่ และมีพอร์ต USB-C 2.0 สำหรับชาร์จแบตเตอรี่และโอนถ่ายข้อมูล

หน้าจอคือดีเกินคาด!

TCL ไม่ทำให้เราผิดหวังกับเรื่องของหน้าจอ สมศักดิ์ศรีการเป็นผู้นำด้านจอทีวีของจีน จากสเปคของจอ มีขนาด 6.52 นิ้ว เป็นดีไซน์แบบ V-Notch เว้นเว้าตรงกลางด้านบนของจอ สำหรับกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พื้นที่หน้าจอต่อขนาดตัวเครื่องอยู่ที่ 90%

ความละเอียดของหน้าจอเป็น HD+ 720 x 1600 พิกเซล สัดส่วน 20:9 ค่าความสว่างสูงสุด 500 nits ค่าความต่างจอ 1200:1 และมีค่ารีเฟรชเรตจอ 90Hz ค่า Touch Sampling Rate 180Hz

ด้วยความที่เป็นจอความละเอียดที่ไม่สูงมาก ครั้งแรกเราไม่ได้คาดหวังว่าจะสวยมากนัก แต่เมื่อทดสอบใช้จริงกลับรู้สึกว่าทำได้เกิดความคาดหวังของเรามากๆ ด้วยตัวเทคโนโลยี NXYVISION ของทาง TCL มาช่วยเรื่องการจัดปรับแสงสีสันของหน้าจอให้ดูสดใสคมชัด เก็บรายละเอียดในส่วนเงามืดได้มากขึ้น จัดการลดเรื่องแสงสีฟ้า และได้ภาพที่เป็นแบบ Dynamic ที่ให้อารมณ์การดูวิดีโอหรือเล่นเกมที่สวยงามดีมาก

พร้อมทั้งยังให้ค่ารีเฟรชเรตจอเป็น 90Hz ยิ่งทำให้การใช้งานต่างๆ บนหน้าจอดูไหลลื่นไม่มีสะดุด ภาพเคลื่อนไหววิดีโอและการเล่นเกมที่ดูละมุนตา จนทำให้ลืมไปเลยว่าจอนั้นความละเอียดแค่ HD+ เท่านั้น

อีกทั้งด้วยค่าTouch Sampling Rate 180Hz ก็ช่วยให้การกดสัมผัสบนจอตอบสนองแม่นยำ และการเล่นเกมก็กดได้แม่นดีไม่มีสะดุด

ชิปเซ็ต Mediatek Dimensity 700 5G

TCL เลือกใช้ชิปDimensity 700 5G ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีสุดสำหรับ สมาร์ตโฟน 5G งบราคาไม่ถึงหมื่นบาท ด้วยเทคโนโลยีการผลิตบนสถาปัตยกรรมขนาด 7 นาโนเมตร ที่ช่วยให้การใช้งานประหยัดพลังงานมากขึ้น 40% (เทียบกับรุ่นก่อน) ทำให้การใช้งานบนแบตเตอรี่ 4500 mAh อยู่ได้ต่อเนื่องตลอดวันได้สบายๆ อีกทั้งประสิทธิภาพในการทำงานด้านต่างๆ ก็ทำได้ค่อนข้างดีมาก

ชิปเซ็ตประกอบด้วย CPU 8 คอร์ เป็น A76 2.2GHz 2 8 คอร์ และ A55 2.0GHz 6 คอร์ ตัวประมวลผลกราฟฟิค จะเป็น ARM G57 MC2 ถือว่าเร็วแรงสำหรับการใช้งานระดับเริ่มต้นถึงระดับกลางได้อย่างสบายหายห่วง หรือถ้าจะใช้เล่นเกมก็ยังเล่นได้อยู่ ด้วยความที่หน้าจอไม่ได้มีความละเอียดสูงมาก ทำให้สเปคของชิปเซ็ตระดับนี้ ก็เอาอยู่ได้สบาย

RAM ให้มา 4GB และพื้นที่เก็บข้อมูลขนาด 128GB เรียกว่ากำลังดีสำหรับการใช้งานได้อย่างลื่นไหลในแอปปกติทั่วไป และยังเล่นเกมได้ดี ด้วย Game Mode ที่ช่วยปรับแต่งทรัพยากรในเครื่องให้เล่นเกมได้ดียิ่งขึ้น

ทดสอบลองเล่นเกม Pokemon Unite เลือกปรับกราฟฟิคระดับ performance สูงสุด และโหมดเฟรมเรตสูง การเล่นคือลื่นมากๆ เฟรมเรตจะวิ่งอยุ่ 58-60 fps ส่วนการทัชหน้าจอเพื่อบังคับก็แม่นติดมือดี ไม่เจออาการทัชเพี้ยน

Asphalt 9 เกมขับรถที่กราฟฟิครวดเร็ว หน้าจอ 90Hz ทำให้ได้ภาพที่ไหลลื่น

รองรับ 5G แบบ SA/NSA

อีกจุดเด่นของ TCL 20 R 5G คือการรองรับใช้งานบนเครือข่าย 5G ได้แบบ Dual Mode คือใช้งานได้ทั้งแบบ SA และ NSA ทำให้การเชื่อมต่อมีความไหลลื่น และเสถียร บนความเร็วในการดาวน์โหลด และค่าความหน่วงสัญญาณที่ต่ำกว่า 4G ส่งผลดีทั้งการสตรีมมิ่งดูคอนเทนต์ต่างๆ ชนิดที่ว่าแทบจะไม่ต้องรอโหลด และการเล่นเกมที่ตอบสนองแบบไม่มีแลค

อธิบายสักนิดเกี่ยวกับโหมดของ 5G ในแบบ SA (Standalone) หมายถึงการเชื่อมต่อทำงานบนเทคโนโลยี 5G อย่างสมบูรณ์ ที่จะได้ในเรื่องความเร็วการเชื่อมต่อสูงสุด 2.69Gb/s ส่วนแบบ NSA (Non Standalone) จะเป็นการใช้งาน 5G บนพื้นฐานเทคโนโลยีของ 4G จึงจะได้ประโยชน์ในส่วนของความลื่นไหลคล่องตัว และการใช้งานที่มีความเสถียรตลอดเวลา

นอกจากนี้ TCL 20 R 5G ยังรองรับการใช้งาน 5G ได้ทั้ง 2 ซิมด้วยนะ

ทดสอบกล้องของTCL 20 R 5G

กล้องหน้า ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f2.0 ใช้งานถ่ายเซลฟี่มีให้เลือก Beauty ปรับความเนียนและสว่างของใบหน้า และใน Portrait ก็ถ่ายแบบหน้าชัดหลังเบลอได้ ส่วนวิดีโอถ่ายได้สูงสุดที่ 1080p 30fps โดยรวมคุณภาพของกล้องหน้าถือว่าขั้นกลางๆ ไม่ได้โดดเด่นมาก

กล้องหลังจัดเป็นเซ็ตของ Triple-camera กล้องหลักความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ออโต้โฟกัส รูรับแสง F2.2 ทำงานร่วมกับกล้องมาโคร 2 ล้านพิกเซล F2.4 และกล้องวัดระยะ 2 ล้านพิกเซล F2.4 ถือว่าเป็นสเปคที่ค่อนข้างโอเค สำหรับสมาร์ตโฟนระดับ Entry Level ที่ความคมชัดอาจจะไม่ได้สูงมาก แต่ก็สามารถถ่ายสิ่งต่างๆ ทั่วไปในระหว่างวันได้หมด

โหมดถ่ายภาพมีโหมด Auto, Portrait ถ่ายหน้าชัดหลังเบลอที่เลือกปรับความเบลอได้, ถ่ายวิดีโอได้ความละเอียดสูงสุด1080p 30fps มีโหมดพาโนราม่า, Macro, ถ่าย Slomo. Stopmotion, โหมดโปร และถ่าย Light Trace

สิ่งที่ค่อนข้างประทับใจมากกับกล้องของ TCL 20 R 5G จากที่ได้ทดลองใช้ คือการถ่าย HDR ที่ตัวกล้องทำการประมวลผลเรื่องแสงได้ดีมาก คือการถ่ายภาพโหมด Auto สามารถเก็บสีสันและจัดสภาพแสงได้ค่อนข้างดี ไม่ว่าจะเป็นภาพย้อนแสง หรือว่าถ่ายในสภาพแสงในร่มที่ไม่ได้สว่างมาก ก็สามารถถ่ายให้ภาพสว่างชัดทั้งภาพ

หรือแม้แต่การถ่ายภาพแสงไฟเวลากลางคืน ด้วยที่ตัวกล้องความละเอียดและรูรับแสงไม่มาก ก็จะยังมี Noise เกิดขึ้นอยู่บ้าง แต่ HDR ก็เก็บสีสันได้ดี ทำให้ภาพมีความคมชัด สีสวย ไม่พร่ามัว และเมื่อเปิดดูบนหน้าจอของเครื่อง ที่มี NXTVISION ก็ช่วยปรับสีแบบไดนามิคให้ดูสวยขึ้นไปอีก ถือว่าเรื่องกล้องทำได้ดีมากๆ ในจุดนี้

สรุป รีวิว หลังลองใช้TCL 20 R 5G

การกลับมาทำตลาดสมาร์ตโฟนของ TCL ในไทยครั้งนี้ ด้วยตัวTCL 20 R 5G เรียกว่าเป็นการจุดพลุบุกตลาดได้น่าสนใจมากๆ ด้วยความชัดเจน ที่ต้องการเข้ามาเจาะกลุ่มตลาดผู้ใช้งานระดับ Entry Level ที่เน้นเลือกสมาร์ตโฟนที่มีฟีเจอร์พร้อมประสิทธิภาพ ในราคาที่เข้าถึงได้ง่าย

TCL 20 R 5G เปิดราคาขายในประเทศไทยที่ 6,990 บาท ก็ถือว่าคุ้มค่าแล้ว ทาง VST ECS ยังจับมือกับทาง True 5G ทำโปรโมชั่น ให้ซื้อเครื่องได้ในราคาเพียงแค่ 990 บาทเท่านั้น ถือว่ายิ่งเร้าใจมากๆ

การใช้งานนั้นให้ประสบการณ์ใช้งานที่น่าพึงพอใจเมื่อเทียบกับราคาค่าตัว ประสิทธิภาพของเครื่องที่ทำงานต่างๆ ลื่นไหล ตั้งแต่ตัวชิปเซ็ต, RAM และหน้าจอ 90Hz เวลาใช้จึงได้ความรู้สึกว่ามันไหลลื่นมือมากๆ ไม่ว่าจะใช้งานแอปอะไร ตัวระบบปฏิบัติการ TCL UI 3.0 บนพื้นฐาน Android 11 ทำมาค่อนข้างโล่ง ไม่มีแอปโหลดยัดใส่มาให้รกเครื่อง

หน้าจอคือที่สุดของความเซอร์ไพรส์ แม้ว่าจอจะความละเอียดแค่ HD+ แต่พอทำงานกับเทคโนโลยี NXTVISION ผลที่ได้ออกมาคือ ภาพสีสันมีความสวย จนบางทีแอบรู้สึกว่า ให้ความรู้สึกที่ดีสูสีๆ กับจอ AMOLED ได้เลย และเป็นจอ 90Hz ก็ช่วยให้เวลาคุณดูซีรีย์ ดูวิดีโอ หรือเล่นเกม ภาพก็ดูดี บนจอที่ใหญ่เต็มตา 6.52 นิ้ว

รวมกับการเชื่อมต่อที่รองรับ 5G ได้ทั้ง SA / NSA ไม่ว่าจะทำอะไรก็รวดเร็ว กดดู Netflix ก็โหลดเร็วแบบแทบไม่ต้องรอ เล่นเกมก็ไม่มีหน่วงสะดุดให้หัวร้อน

แบตเตอรี่ให้มา 4500mAh ถือว่าค่อนข้างใหญ่เลยทีเดียว ใช้งานแบบเต็มวันแบบไม่ต้องเป็นห่วง แต่ระบบชาร์จไวที่ให้มานั้น Watt ไม่สูงมาก ถ้าจะชาร์จจาก 0% ให้เต็ม 100% นั้นก็ใช้เวลาประมาณเกือบๆ 2 ชั่วโมงเลยทีเดียว

สำหรับเรื่องกล้อง ถือว่าอยู่ระดับทั่วไป ทำได้ดีมากคือในตัวกล้องหลักที่ HDR จัดเก็บแสงและความคมชัดได้ดี เรื่องของลำโพงเสียงก็ไม่โดดเด่นมากนัก หากใครอยากได้เสียงดีๆ แนะนำเสียบสายหูฟัง 3.5 นิ้วจะได้คุณภาพที่ดีขึ้น

สรุปโดยรวมแล้ว ถือว่าด้วยค่าตัวระดับนี้ เทียบกับสิ่งที่ได้มา ถือว่า TCL ออกแบบสมาร์ตโฟนรุ่นนี้ที่ให้ประสบการณ์ใช้งานที่ดีมากๆ ใครที่อยากลองเข้าสู่โลกของ 5G ในงบประมาณเบาๆTCL 20 R 5G คือตัวเลือกที่น่าสนใจดีเลยทีเดียว

โปรโมชั่น ราคา สำหรับลูกค้าทรูมูฟ เอช

เป็นเจ้าของสมาร์ทโฟน 5G ได้ง่ายๆ ด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 990 บาท (ปกติ 6,990 บาท) เมื่อซื้อเครื่องTCL 20 R 5G พร้อมแพ็กเกจ 5G Ultra Max Speed Plus 1,199 บาท นาน 12 เดือน พร้อมรับข้อเสนอพิเศษ

• ชมฟรี! ทรูพรีเมียร์ลีกผ่านแอปทรูไอดี 4 คู่/สัปดาห์ ตลอดฤดูกาล 2021/22
• ดูหนัง ฟังเพลง ผ่านแอปทรูไอดี ไม่เสียค่าเน็ต นาน 12 เดือน
• บริการหลังการขายจาก วีเอสที อีซีเอส (ประเทศไทย) เอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะลูกค้าทรูเท่านั้น

เป็นเจ้าของสมาร์ทโฟน TCL 20 R 5G ที่รองรับเฉพาะเครือข่ายทรู 5G ได้ตั้งแต่วันที่ 5 พฤศจิกายน 2564 ที่ทรูช็อป ทุกสาขาทั่วประเทศ และช่องทางออนไลน์ เว็บไซต์ True Store และ LINE@TrueStore