สรุปเหตุการณ์ Facebook, Instagram Messenger, Whatsapp ล่ม นานกว่า 7 ชั่วโมง สาเหตุน่าจะเกิดจาก DNS

เกิดเหตุการณ์ระบบของ Facebook , Instagram , Messenger , WhatsApp รวมถึง Oculus ล่ม ในเวลาประมาณ 22:40 นาฬิกาของวันที่ 4 ตุลาคม 2021 จนติดเทรนด์ทวิตเตอร์ทั่วโลกและในประเทศไทยด้วย กับ #เฟสล่ม , #ไอจีล่ม , #facebookdown และ #instagramdown

Facebook ล่ม

ทางด้าน Facebook เองยังไม่ได้ยืนยันสาเหตุที่แท้จริงของระบบล่ม แต่มีเงื่อนงำมากมายบนอินเทอร์เน็ตให้น่าสงสัย ข้อมูลจาก Domain Name System (DNS) บันทึกเอาไว้ว่าชื่อโดเมนของ Facebook และแอปในเครือของบริษัทไม่สามารถเข้าถึงได้เวลา 11:40 AM ET ของวันจันทร์ที่ 4 ตุลาคม (ตรงกับเวลาไทยที่ 22:40 น.)

มีความเป็นไปได้ว่าความผิดพลาดของ DNS นั้นอาจเป็นสาเหตุทำให้ระบบของ Facebook และแอปในเครือล่มในครั้งนี้ โดยปกติแล้ว ปัญหาของ DNS จะมาจากเหตุผลทางเทคนิค , ปัญหาการกำหนด/ตั้งค่า และสามารถแก้ไขได้อย่างตรงไปตรงมา แต่ในกรณีนี้ ดูเหมือนความผิดปกติที่เกิดขึ้นจะร้ายแรงและซีเรียสกว่าที่เคยเจอ

ระบบของ Facebook ล่ม ดูเหมือนจะเกิดจาก DNS และนั่นน่าจะเพียงพอที่จะเป็นสาเหตุของปัญหาในครั้งนี้

Troy Mursch หัวหน้าเจ้าหน้าที่วิจัยของ Bad Packets บริษัทข่าวกรองภัยคุกคามทางอินเทอร์เน็ต

Troy Mursch มองว่าปัญหาที่เกิดขึ้นจาก DNS นั้นเป็นปัญหาพื้นฐาน นอกจากนี้ผู้เชี่ยวชาญคนอื่นๆ ยังเห็นพ้องต้องกันว่า Facebook ได้ทำการถอนเส้นทางโปรโตคอล Border Gateway Protocol (BGP) ที่มี IP address ของเนมเซิร์ฟเวอร์ DNS

หากเปรียบ DNS เป็นเหมือนสมุดโทรศัพท์ของอินเทอร์เน็ต GBP ก็คือระบบนำทาง มันจะตัดสินใจว่าจะใช้ข้อมูลเส้นทางใดขณะเดินทางบน information superhighway

เรื่องนี้เต็มไปด้วยศัพท์แสงเทคนิคเต็มไปหมด แต่ถ้าให้อธิบายง่ายๆ คือ Facebook หลุดออกจากแผนที่อินเทอร์เน็ต หากคุณพยายามจะ ping ไปยัง IP address นั้น มันก็จะเจอแต่หลุมดำ

Troy Mursch กล่าวเสริมเรื่องนี้
Facebook ล่ม
แผนที่แสดงตำแหน่งที่ไม่สามารถเข้าถึง Facebook ได้ เนื่องจากการแก้ไข DNS ที่ล้มเหลว

มีคำถามเกิดขึ้นชัดเจน และดูเหมือนมันยังไม่ได้รับการแก้ไข นั่นคือ สาเหตุที่เส้นทาง BGP เหล่านั้นหายไปตั้งแต่แรก แน่นอนว่าประเด็นนี้ไม่ใช่ความผิดปกติทั่วๆ ไป โดยเฉพาะกับบริษัทระดับนี้ รวมถึงช่วงเวลาที่เกิดขึ้นด้วย

ณ เวลานั้น Facebook ทำได้เพียงแจ้งผ่านทวิตเตอร์ว่า “บริษัทกำลังพยายามทำให้สิ่งต่างๆ กลับมาเป็นปกติโดยเร็วที่สุด” เมื่อบริการกลับมาใช้งานได้เป็นปกติแล้ว คำแถลงที่ Facebook แถลงกลับยังขาดรายละเอียดต่างๆ ทางเทคนิค โดยบริษัทโพสต์ขอโทษเอาไว้เพียง

ถึงทุกท่านที่ได้รับผลกระทบจากการที่แพลตฟอร์มของเราหยุดทำงาน เราต้องขออภัยเป็นอย่างมาก

เราทราบดีว่ามีธุรกิจและผู้ใช้หลายพันล้านคนทั่วโลกพึ่งพาผลิตภัณฑ์และบริการของเราเพื่อเชื่อมต่อถึงกัน

ขอบคุณที่อดทนรอขณะที่เรากลับมาออนไลน์ได้อีกครั้ง

Facebook กล่าวเอาไว้ในแถลงการณ์

มีผู้เชี่ยวชาญด้านโครงสร้างพื้นฐานทางอินเทอร์เน็ตที่ได้พูดคุยกับเว็บไซต์ WIRED ต่างให้คำแนะนำว่า คำตอบที่เป็นไปได้มากที่สุดของเรื่องนี้คือ การกำหนด/ตั้งค่าที่ผิดในส่วนของ Facebook โดย John Graham-Cumming ตำแหน่ง CTO ของ Cloudflare กล่าวว่า ดูเหมือน Facebook จะทำอะไรบางอย่างกับเราเตอร์ของเรา ซึ่งก็คือเครือข่าย Facebook กับส่วนอื่นๆ ของอินเทอร์เน็ต Graham-Cumming ย้ำว่าเขายังไม่ทราบถึงรายละเอียดว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ นั่นหมายความว่า ไม่เพียงแต่บริการภายนอกของ Facebook เท่านั้นที่ได้รับผลกระทบ แต่ผู้ใช้ยังไม่สามารถทำการ Login เข้า Facebook ได้จากเว็บไซต์ของ third-party ด้วยซ้ำ เนื่องจากเครือข่ายภายในของบริษัทไม่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตภายนอกได้

นอกจากนี้ ยังสามารถช่วยอธิบายได้ว่าทำไมจึงใช้เวลานานมากในการกู้ระบบกลับคืนมา อย่างน้อยที่สุด เป็นไปได้ว่า Facebook จะติดอยู่ใน catch-22 แบบเดียวกับที่ Google Cloud เคยประสบปัญหาในปี 2019 ที่ทำให้ไม่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเพื่อแก้ไขปัญหาการกำหนดเส้นทาง BGP ที่จะอนุญาตให้เข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้

ในขณะเดียวกัน ตัวแก้ไข DNS อย่าง Cloudflare บริการแปลงชื่อโดเมนให้อยู่ในรูปแบบ IP address ก็รู้สึกได้ว่า Facebook นั้นหายไป ด้วยปริมาณการเข้าเพิ่มเป็น 2 เท่า เนื่องจากผู้ใช้จำนวนมากพยายามโหลด Facebook , Instagram และ WhatsApp แต่ก็ไม่เป็นผล

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ Facebook และแอปในเครือของ Facebook ต่างๆ กลับมาใช้งานได้ปกติแล้ว ทาง Mark Zuckerberg และบริษัท Facebook ได้โพสต์ขออภัยกับเหตุขัดข้องที่เกิดขึ้นทั่วโลกแล้ว

ที่มา : WIRED