เปิดตัว OPPO Watch Free ใช้จอ AMOLED, รองรับ 100 กีฬา พร้อมโหมด eSports

OPPO เพิ่งประกาศเปิดตัว Wearable Device รุ่นใหม่อย่าง “OPPO Watch Free” ที่มาพร้อมโหมดกีฬามากกว่า 100 โหมด และฟีเจอร์อื่น ๆ ที่น่าสนใจอีกเพียบ

OPPO Watch Free มีหน้าจอ AMOLED ทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่ทำจากโพลีคาร์บอเนตและไฟเบอร์ขนาด 1.64 นิ้ว พร้อมความละเอียด 280 x 456 ที่มีขอบเขตสี DCI-P3 และความหนาแน่นของพิกเซล 326 PPI

ด้านล่างของตัว Fitness tracker ทำจากพลาสติกไนลอน (PA) และไฟเบอร์ พร้อมด้วยสายรัดซิลิโคนพร้อมพิมพ์ลวดลายแบบหนัง ที่ทาง OPPO บอกว่าสามารถระบายอากาศได้ดีและสวมใส่สบายแม้แต่ในตอนที่คุณนอนหลับ

OPPO Watch Free

นอกจากนี้มันยังมีโหมดกีฬามากกว่า 100 โหมด ที่รวมทั้ง คริกเก็ต, Skipping, ยิงธนู, สกี, วอลเลย์บอล, พายเรือคายัคและแบดมินตัน แต่มีกีฬาเพียง 4 ประเภทเท่านั้นที่สามารถติดตามการออกกำลังกายได้โดยอัตโนมัติ นั่นก็คือ การเดิน, การวิ่ง, พายเรือและการเดินบนลู่วิ่ง

แน่นอนว่ามันจะมาพร้อมฟีเจอร์การตรวจอัตราการเต้นของหัวใจแบบ Real-time ที่สามารถแจ้งเตือนผู้ใช้เมื่อมีการเต้นของหัวใจที่สูงหรือต่ำจนเกินไป รวมไปถึงฟีเจอร์การติดตามการนอนหลับ, การตรวจจับการกรน, การควบคุมการเล่นเพลงและรองรับการจ่ายเงินผ่าน WeChat และ Alipay โดยไม่ต้องสัมผัสหน้าจอ

น่าเสียดายที่เวอร์ชั่นพื้นฐานนั้นจะไม่มีฟีเจอร์ NFC แต่จะระบบสั่งงานด้วยเสียง “Breeno” ของทาง OPPO เองที่รองรับการทำงานในโหมด Offline ด้วย

OPPO Watch Free

และอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่น่าสนใจก็คือ eSports ที่เมื่อคุณเปิดใช้งาน ระหว่างที่กำลังเล่นเกมอยู่บนสมาร์ทโฟน การแจ้งเตือนและการเตือนทั้งหมดจะถูกส่งไปยัง Fitness tracker โดยอัตโนมัติ เพื่อไม่ให้มีการเด้งหน้าต่างขึ้นมาระหว่างที่กำลังเล่นเกม

แต่ว่าฟีเจอร์นี้จะรองรับการใช้งานร่วมกับ OPPO Find X3 series และ Reno6 series เท่านั้น แต่ทางบริษัทแอบกระซิบว่าจะอัปเดตให้ใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟนอีกหลาย ๆ รุ่นได้ในอนาคต

นอกจากนี้มันยังมี Sleep mode ที่เมื่อคุณเปิดใช้งานแล้ว มันจะทำการเปิดโหมดห้ามรบกวน (Do Not Disturb) บนสมาร์ทโฟนของคุณด้วย ตัวติดตามการออกกำลังกายรุ่นใหม่นี้มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 230mAh ที่ใช้งานได้นานถึง 14 วัน แถมยังรองรับ Fast Charging ที่สามารถชาร์จให้เต็มได้ในเวลาเพียง 5 นาที

OPPO Watch Free

โดย OPPO Watch Free จะรองรับการเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth 5.0 และสามารถเข้ากันได้กับอุปกรณ์ Android ที่ใช้ Android 6.0 ขึ้นไป รวมถึงอุปกรณ์ที่ใช้ iOS 10.0 ขึ้นไป พร้อมตัวเลือก 2 สีคือ Quicksand Gold และ Silent Night Black รุ่นพื้นฐานมีราคาอยู่ที่ 549 หยวน (2,900 บาท) ส่วนรุ่นที่รองรับ NFC จะมีราคาอยู่ที่ 599 หยวน (3,200 บาท) พร้อมให้สั่งจองล่วงหน้าแล้วบน JD.com ก่อนวางจำหน่ายในวันที่ 30 กันยายนนี้

ที่มา gizmochina