Instagram พัฒนา Exclusive Stories ให้ครีเอเตอร์สร้างรายได้แบบสมัครสมาชิก คล้ายกับ OnlyFans

Instagram เริ่มมีการขยับและปรับตัวจากการสร้างรายได้จากโฆษณา มาสู่การสร้างรายได้แบบใหม่โดยมีรายงานว่าแอปโพสต์รูปภาพยอดนิยมกำลังพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ชื่อ “Exclusive Stories

ฟีเจอร์ ExclusiveStories ของ Instagram เป็นช่องทางสร้างรายได้ให้กับครีเอเตอร์ที่เป็นระบบสมัครสมาชิก (Subscription Model) โดยจะเปิดให้ครีเอเตอร์สร้างคอนเทนต์/วิดีโอพิเศษให้บรรดาผู้ติดตาม (followers) ได้สมัครสมาชิก / จ่ายเงินเข้ามาเพื่อเข้าถึงคอนเทนต์ / วิดีโอพิเศษดังกล่าวได้

Instagram Exclusive Stories

โมเดลธุรกิจที่เปิดให้เฉพาะผู้ที่สมัครสมาชิกเท่านั้นเข้าถึงคอนเทนต์พิเศษนั้น คล้ายกับของแอป Onlyfans และคล้ายฟีเจอร์ Super Follows ของ Twitter

รูปแบบการสร้างรายได้ในปัจจุบันของ Instagram นั้นมีด้วยกันทั้งหมด 3 ช่องทาง

  1. Commerce เป็นการสร้างคอนเทนต์เพื่อการโฆษณา / การสร้างแบรนด์คอนเทนต์
  2. Tip หรือโมเดลที่ให้ผู้ติดตามจ่ายเงินแก่ครีเอเตอร์ผ่านระบบสมาชิก หรืออาจเป็นการจ่ายเงินเพื่อเข้าถึงคอนเทนต์ในรูปแบบอื่นๆ
  3. Revenue Shares หรือการแบ่งรายได้ โดยผ่าน IGTV ในรูปแบบวิดีโอยาว หรือวิดีโอสั้นๆ อย่าง Reels

ในช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา Adam Mosseri ผู้บริหารของ Instagram เคยประกาศเอาไว้ว่าบริษัทกำลังพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ๆ หลายตัว รวมถึงฟีเจอร์ที่เปิดให้ครีเอเตอร์สามารถสร้างรายได้บนแพลตฟอร์มได้

นอกจากนี้ Alessandro Paluzzi นักพัฒนาซอฟต์แวร์ได้แชร์ภาพของฟีเจอร์ Exclusive Stories บนทวิตเตอร์ของเขา เราจะเห็นข้อความในรูประบุว่า “Only members of ___ can see this story” นั่นหมายถึง ครีเอเตอร์เป็นผู้สร้างสตอรี่พิเศษเอาไว้ โดยผู้ที่สมัครสมาชิกเท่านั้นที่จะสามารถเข้าไปดูสตอรี่พิเศษนั้นได้

สำหรับการแสดงผลในแอปนั้น ฟีเจอร์ Exclusive Stories จะแสดงผลอยู่ในส่วนของสตอรี่ โดยมีไอคอนเป็นสีม่วง ซึ่งจะมีความคล้ายกับไอคอนที่จะปรากฏเมื่อผู้ใช้แชร์ IG Story กับผู้ที่อยู่ในรายชื่อของเพื่อนสนิทเท่านั้น แต่จะมีสีที่แตกต่างกัน และที่สำคัญ สมาชิกสามารถเข้าไปดูได้เท่านั้น ไม่สามารถแคปเจอร์หรือบันทึกได้ ทำได้แค่แชร์ไว้เป็นไฮไลท์ของตัวเองเท่านั้น

ทางฝั่ง Instagram ได้ยืนยันกับทางเว็บ TechCrunch เองว่าบริษัทกำลังพัฒนาฟีเจอร์ Exclusive Stories อยู่จริง และภาพที่เห็นในข้างต้น เป็นภาพที่บริษัทกำลังทดสอบกันเป็นการภายใน ยังไม่มีข้อมูลเพิ่มเติม ที่ระบุแน่ชัดว่าฟีเจอร์พิเศษตัวนี้จะเปิดให้ใช้งานจริงเมื่อใด

ที่มา : TechCrunch