รีวิว HUAWEI Watch 3 นาฬิกาสมาร์ทวอทช์ รุ่นของปี 2021 จากหัวเว่ย จัดเทคโนโลยีใหม่ใส่มาให้เต็มที่ ทั้ง eSIM ใช้งานได้ไม่ต้องต่อมือถือ ดีไซน์และวัสดุพรีเมี่ยม มาพร้อมกับ HarmonyOS ระบบปฏิบัติการที่ให้คุณติดตั้งแอปใช้งานได้บนนาฬิกา พร้อมฟังก์ชั่นด้านสุขภาพและออกกำลังกายที่ครบถ้วนดีเยี่ยม เปิดตัว ราคา เริ่มต้น ที่ 12,990 บาท
ก่อนหน้านี้สำหรับในประเทศไทย ทางหัวเว่ยมีสมาร์ทวอทช์เข้ามาทำตลาดเป็นซีรีย์ Watch GT ซึ่งถือว่าได้รับการตอบรับจากผู้ใช้ในไทยเป็นอย่างนี้ ครั้งนี้จึงเป็นครั้งแรกที่หัวเว่ย นำเอานาฬิการุ่นท็อปตัวล่าสุดมาลงตลาดในไทย โดยที่รุ่นนี้อัปเดตนวัตกรรมใหม่ๆ ใส่มาให้แบบแน่นเอี้ยด ตอบสนองกับไลฟสไตล์ในยุคปัจจุบันทั้งเรื่องการใช้งาน การออกกำลังกาย และดูแลสุขภาพแบบครบวงจร
มาปีนี้ หัวเว่ยส่งHUAWEI Watch 3 Series มาบุกตลาดเมืองไทยด้วยกัน 3 รุ่นด้วยกัน คือ Watch 3 Active Edition, Watch 3 Classic Edition และ Watch 3 Pro โดยรุ่นที่ทางทีมงานล้ำหน้าฯ ได้มาทดสอบ รีวิว จะเป็นHUAWEI Watch 3 Active Edition ที่ถือว่าเป็นตัวเริ่มต้น ก่อนอื่นเรามาดูสเปคกันก่อน
สเปค HUAWEI Watch 3
- ขนาด : 46.2 มม × 46.2 มม × 12.15 มม. (ไม่รวมเซ็นเซอร์)
- วัสดุ : ตัวเรือน สแตนเลสสตีล ฝาหลัง เซรามิค
- น้ำหนัก : 54 กรัม
- สายนาฬิกา : Active edition – สาย Fluoroelastomer / Classic edition – สายหนัง
- หน้าจอ : แบบสัมผัส AMOLED 1.43 นิ้ว 466×466 พิกเซล PPI 326
- หน่วยความจำ : RAM 2GB ROM 16GB
- ระบบปฏิบัติการ : HarmonyOS
- ปุ่มกด : 1 ปุ่ม + 1 ปุ่มแบบหมุนได้
- การเชื่อมต่อ : Bluetooth 5.2, WiFi 2.4GHz, NFC
- เซ็นเซอร์ : Acceleration sensor, Gyro sensor, Geomagnetic sensor, Optical heart rate sensor, Ambient light sensor, Barometric pressure sensor
- แบตเตอรี่ : 450 mAh ใช้ได้นานสุด 3 วัน
- ระบบชาร์จ : รองรับชาร์จไร้สาย มาตรฐาน Qi
- มาตรฐานกันน้ำ : 5ATM
- ระบบปฏิบัติการที่รองรับ : Android 6.0 หรือสูงกว่า, iOS 9.0 หรือสูงกว่า
รีวิว แกะกล่อง HUAWEI Watch 3
ตัวแพ็กเกจของ HUAWEI Watch 3 จะยังเป็นรูปแบบเดิมเหมือนกับในซีรี่ย์ Watch GT โดยตัวกล่องวัสดุจะเป็นกระดาษทั้งหมด สะดวกต่อการนำไปย่อยสลายเพื่อรีไซเคิล โดยภายในจะมีเอกสารพร้อมอุปกรณ์ต่างๆ ดังนี้
- ตัวเรือนนาฬิกา พร้อมสายนาฬิกา
- แท่นชาร์จพร้อมสายเคเบิล
- เอกสารคู่มือการใช้งานเบื้องต้น, ข้อมูลความปลอดภัย, ใบรับประกัน
ตัวอุปกรณ์ชาร์จจะเป็นแบบเดียวกับรุ่น Watch GT2 Pro คือเป็นแบบชาร์จไร้สาย ที่จะมีแม่เหล็กดูดติดกับด้านหลังของนาฬิกา และตัวแท่นชาร์จจะติดกับตัวสายเลย ถอดแยกจากกันไม่ได้
Hand-on สัมผัส ดีไซน์
หน้าตาของHUAWEI Watch 3 นั้นถือว่าเรียบสวยดูดีมากๆ ตัวเรือนใช้วัสดุเป็นสแตนเลสสตีลที่มีน้ำหนักเบาแต่แข็งแรงทนทาน ในรุ่น Active ตัวเรือนจะเป็นสีดำเงากึ่งด้าน ส่วนในรุ่น Classic Edition จะเป็นสีเงินแบบโลหะ
หน้าปัดของนาฬิกาเป็นทรงกลม กระจกด้านหน้าเป็นแบบขอบโค้ง 3D เข้ากับตัวเฟรมอย่างสวยงาม หน้าจอเป็นแบบ AMOLED ขนาด 1.43 นิ้ว ความละเอียด 466 x 466 พิกเซล (326ppi) ควบคุมได้ด้วยการสัมผัสหน้าจอ และยังให้ความว่างสูงสุดได้ถึง 1000 nits ช่วยให้เวลาใช้งานกลางแดดแรงๆ ก็ยังมองเห็นได้ชัดเจน
ด้านข้างของตัวเรือน จะมีปุ่มควบคุมด้วยกัน 2 ปุ่ม ปุ่มแรกเป็นดีไซน์ใหม่ในรูปแบบเม็ดมะยมเหมือนแบบในนาฬิกาอนาล็อก แต่ช่วยให้คุณสามารถควบคุมการสั่งงานเมนูต่างๆ ได้ด้วยการหมุนเมื่อเลื่อนเมนูหรือขยายหน้าเมนู โดยที่เมื่อกดที่เม็ดมะยม จะเป็นการแสดงแอปต่างๆ ที่ติดตั้งในตัวนาฬิกา
ส่วนอีกปุ่มด้านล่าง จะเป็นปุ่มลัดเพื่อเรียกใช้งานแอปที่ต้องการใช้งานด่วน โดยพื้นฐานระบบจะตั้งไว้เป็นการเรียกเมนูออกกำลังกาย (ไปเลือกปรับแต่งเองได้ที่ Setting)
ด้านหลังตัวเรือน วัสดุใช้เป็นเซรามิคสีดำเงา ที่มีความแข็งแรงทนทาน และสวมใส่แล้วไม่รู้สึกระคายเคืองผิวหนัง สำหรับบางคนที่มีอาการแพ้โลหะ โดยตรงกลางจะเป็นระบบ trueSeen 4.5+ ประกอบด้วยเซ็นเซอร์สำหรับตรวจวัดข้อมูลต่างๆ ทั้งอัตราการเต้นของหัวใจ, ไฟ LED ซึ่งระบบได้รับการปรับปรุงให้มีความแม่นยำในการวัดค่าต่างๆ ได้ดียิ่งกว่าเดิม รวมถึงที่ขอบด้านข้างจะมีช่องของไมโครโฟนและลำโพงอยู่ด้วย
สายของนาฬิกา ในรุ่น Active Edition นี้ วัสดุจะเป็นยาง Fluoroelastomer ส่วนในรุ่น Classic Edition จะเป็นสายหนังสีน้ำตาล โดยตัวสายจะเป็นขนาดมาตรฐาน 22 มิลลิเมตร ที่คุณสามารถหาสายนาฬิกาทั่วไปมาเปลี่ยนใส่ได้เอง
การใช้งานหลักๆ จะใช้เป็นการสัมผัสในการเลือกเปลี่ยนหน้าเมนูต่างๆ เริ่มต้นที่หน้าหลัก ถ้าหากกดแตะค้างไว้ประมาณ 3-5 วินาที เราจะสามารถเลือกเปลี่ยน Watchface ของนาฬิกาได้ตามที่ได้ติดตั้งเอาไว้ในเครื่อง
แสดงผลแบบปกติ ตอนปิดหน้าจอ แสดงผลแบบ AoD
การปัดหน้าจอไปทางขวาจะเป็นเปิดหน้าดูข้อมูลอากาศ ส่วนปัดไปทางซ้าย จะเป็นการดูข้อมูล Widget ด้านสุขภาพของเรา ทั้งการเคลื่อนไหวในแต่ละวัน, อัตราการเต้นหัวใจ, ค่า SpO2, ตรวจวัดอุณหภูมิ
และถ้าปัดหน้าจอในแนวตั้ง ปัดลงจะเรียกเมนูด่วนทั้งการตั้งค่า, ปรับโหมด, การเชื่อมต่อ ฯลฯ ส่วนปัดจากด้านล่างจอขึ้นมา จะเป็นการดูการแจ้งเตือน Notification ต่างๆ
โดยรวมแล้ว หน้าตาดีไซน์ของHUAWEI Watch 3 นั้น มีความเป็นนาฬิกาอย่างสวยงามลงตัว วัสดุที่พรีเมียมและงานประกอบที่พิถีพิถัน ขนาดหน้าจอที่ใหญ่คมชัดแสดงสีสันได้สวยสดเต็มตา
ฟีเจอร์เด่น
คราวนี้เราจะมาดูในส่วนของฟีเจอร์การทำงานต่างๆ ของHUAWEI Watch 3 ที่ก่อนอื่นเลยให้ทำการดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น HUAWEI Health เพื่อทำการเชื่อมต่อใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟน สำหรับใครที่ใช้สมาร์ทโฟนของหัวเว่ย สามารถเข้าไปโหลดได้ที่ AppGallery ส่วนคนที่ใช้ Android และ iOS ก็มีให้ใช้งานด้วยเช่นกัน โดยเข้าไปโหลดได้ที่ Google Play Store และ Apple App Store
ทำการติดตั้งและลงทะเบียนใช้งานด้วย HUAWEI ID จากนั้นก็ทำการเชื่อมต่อตัวHUAWEI Watch 3 กับแอพพลิเคชั่นเพื่อทำงานได้เลย โดยในแอปนี้จะเป็นตัวแสดงข้อมูลการออกกำลังกายในแต่ละวัน รวมไปถึงยังใช้ในการตั้งค่าจัดการตัวของนาฬิกาด้วย
และนี่คือฟีเจอร์เด่นๆ ที่น่าสนใจในHUAWEI Watch 3 ที่มีความครบครันและพัฒนาความสามารถจากรุ่นก่อนอย่างมาก มีอะไรกันบ้าง ไปดูกันเลย
รองรับ eSIM
เป็นครั้งแรกของนาฬิกาจากหัวเว่ย ที่รองรับ eSIM เราสามารถใช้เบอร์โทรเบอร์เดียวกันกับในสมาร์ทโฟน โดยสามารถติดต่อกับเครือข่ายที่เราใช้งาน (AIS, Truemov H) เพื่อเปิดบริการ โดยสามารถทำได้ในแอป HUAWEI Health
ข้อดีของ eSIM คือคุณสามารถใช้งานHUAWEI Watch 3 ในการรับสายโทรเข้า, สั่งโทรออก, รับส่งข้อความ SMS โดยพิมพ์ข้อความจากคีย์บอร์ดบนนาฬิกา โดยไม่ต้องเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนตลอดเวลา อย่างบางช่วงเวลาที่สมาร์ทโฟนไม่ได้อยู่กับตัว อย่างเช่น วางไว้ที่โต๊ะทำงานแล้วเดินไปที่อื่น, ออกไปวิ่งจ๊อกกิ้งแล้วไม่พกมือถือไปด้วย หรือว่ามือถือแบตหมด คุณก็ยังติดต่อสื่อสารได้ผ่านHUAWEI Watch 3
รวมถึงการใช้งานอื่นๆ อย่างแอปพลิเคชั่นที่ติดตั้งเอาไว้ในตัวHUAWEI Watch 3 ก็สามารถใช้งานออนไลน์แบบไม่ต้องเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนด้วยเช่นกัน
เป็นฟิตเนสแทร็กเกอร์ ติดตามข้อมูลที่มีผลต่อสุขภาพ ตลอด 24 ชั่วโมง
เพียงแค่คุณสวมHUAWEI Watch 3 เอาไว้ ระบบเซ็นเซอร์ต่างๆ จะเก็บข้อมูลสำคัญในการนำไปประเมินเป็นข้อมูลด้านสุขภาพด้านต่างๆ ให้คุณอัตโนมัติ ไม่ว่าจะเป็น จำนวนก้าวเดิน, แคลอรี่ที่เผาผลาญ, ชั่วโมงการออกกำลังกายในแต่ละวัน, การยืน, อัตราการเต้นของหัวใจ ฯลฯ
ข้อมูลทั้งหมดจะถูกนำไปสรุปไว้ในแอป HUAWEI Health ใช้ดูย้อนหลังได้ว่าในแต่ละวันคุณทำกิจกรรมใดๆ มากน้อยแค่ไหน เพื่อคุณจะได้นำไปใช้ปรับปรุงพฤติกรรมต่างๆ ในแต่ละวัน เพื่อให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง โดยระบบของนาฬิกาจะคอยแนะนำให้คุณ อย่างเช่น แจ้งเตือนให้ลุกขึ้นเมื่อนั่งต่อเนื่องเป็นเวลานานๆ เพื่อลดการเป็นอาการออฟฟิศซินโครม
WatchFace มีให้เลือกได้หลายแบบ
หน้าปัดนาฬิกาที่HUAWEI Watch 3 มีให้มาพื้นบานมีรวมๆ แล้วมากกว่า 30 แบบ ที่มีสไตล์ที่แตกต่าง สวยงาม และยังมีลูกเล่นอย่างภาพเคลื่อนไหว และเลือกตั้งค่าปรับการแสดงผลข้อมูลอย่างที่ต้องการได้ด้วย
การดาวน์โหลดและจัดการ Watchface นั้นทำได้ผ่านในแอป HUAWEI Health เช่นกัน มีหน้าปัดแบบเลือกรูปหรือคลิปวิดีโอมาทำเป็นหน้าปัดแบบที่เราต้องการเองได้ด้วย รวมถึงยังมี Watchface Store ที่ให้ดาวน์โหลดเพิ่มทั้งแบบฟรีและเสียเงินซื้อเพิ่ม ให้เลือกได้มากกว่า 1,000 บาท
บันทึกกิจกรรมการออกกำลังกายได้มากกว่า 100 ประเภท
จุดเด่นที่ดีมากๆ ของHUAWEI Watch 3 สำหรับคนรักการออกกำลังกาย ก็คือสามารถบันทึกกิจกรรมกาาเล่นกีฬา การออกกำลังกาย ฟิตเนส เทรนนิ่ง ฯลฯ ได้มากมายมากกว่า 100 ประเภท เพื่อที่ให้คุณเก็บข้อมูลกิจกรรมต่างๆ ไว้ในระบบ เพื่อดูว่าคุณออกกำลังกายมากน้อยเพียงใด โดยจะมีการเก็บข้อมูลในกิจกรรมระดับ Advanced ได้หลายอย่างที่ทำได้ดีมาก
- กีฬากลางแจ้ง อย่าง วิ่ง, ปั่นจักรยาน, ปีนเขา, เดินป่า ฯลฯ จะมีการเก็บเส้นทาง, ระยะทาง, ความเร็ว ด้วยพิกัดของ GPS ที่ทำงานได้ค่อนข้างแม่นยำ
- รองรับการวิ่งในระดับมาราธอนระยะไกล
- รองรับการเล่นไตรกีฬา (Triathlon) โดยสามารถบันทึกพร้อมเปลี่ยนประเภท (Transition) ได้
- กิจกรรมอย่าง กระโดดเชือก มีการนับจำนวนการกระโดดให้อัตโนมัติ
สำหรับคนที่ชอบการวิ่ง ถือว่าตอบโจทย์เช่นกัน เพราะมีโปรแกรมการวิ่งที่จะช่วยจัดตารางการฝึกซ้อมเพื่อให้คุณพัฒนาฝีมือในการวิ่งได้อย่างเป็นขั้นตอนเหมาะสม
และในการออกำลังกาย ยังมีการประเมินค่าความฟิตของคุณด้วย VO2max และยังประเมินช่วงเวลาที่ต้องพักฟื้น (Recovery) หลังจากการออกกำลังกาย ว่าควรจะต้องพักนานแค่ไหน ก่อนจะเริ่มออกกำลังกายในครั้งต่อไป เพื่อไม่ให้ร่างกายหักโหมจนเกินไป
วัดคุณภาพการนอนหลับ
การเก็บข้อมูลการนอน ก็เป็นอีกฟีเจอร์เด่นที่HUAWEI Watch 3 ทำได้ดีมาก ตัว TruSleep เวอร์ชั่นใหม่นี่ เก็บข้อมูลระหว่างหลับได้ละเอียดทั้งช่วงเวลาที่หลับลึก, หลับตื้น, ช่วงหลับฝัน REM และการตื่น โดยเราไม่ต้องทำการกดบันทึก ระบบทำการบันทึกให้อัตโนมัติ
และผลจากการนอน จะถูกเอามาประเมินเป็นค่าคะแนนถึงคุณภาพการนอนของเราว่ามีส่วนไหนมีปัญหา พร้อมคำแนะนำเพื่อช่วยให้ปรับพฤติกรรมการนอนให้เราพักผ่อนได้เต็มที่ยิ่งกว่าเดิม
วัดค่าความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด SpO2
ในช่วงที่ยังมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ฟีเจอร์การวัดค่า SpO2 กลายเป็นที่ต้องการของคนเป็นจำนวนมาก เพราะหนึ่งในสัญญาณว่าเรามีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อโควิด-19 คือ ปริมาณความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือดจะลดลง ที่ปกติแล้วร่างกายคนเราจะมีค่าอยู่ที่ 95-100% ซึ่งถ้าหากต่ำกว่า 90% ก็มีความเป็นไปได้ว่าภายในร่างกายเรามีปัญหาในส่วนของระบบทางเดินหายใจ
ตัวระบบของHUAWEI Watch 3 นั้นสามารถวัดค่า SpO2 ได้แบบเรียลไทม์ตลอดเวลา ซึ่งตรงนี้ต้องบอกว่ามันช่วยบอกเราได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น เพราะว่าไม่ได้เป็นความสามารถในระดับเครื่องมือทางการแพทย์
วัดอุณหภูมิร่างกาย (บริเวณผิวหนัง)
ระบบเซ็นเซอร์ใหม่ที่เพิ่มขึ้นมาในHUAWEI Watch 3 ที่ช่วยวัดอุณหภูมิของร่างกายแบบ Skin Temperature Detector ได้อัตโนมัติตลอดทั้งวัน โดยจะเก็บสถิติให้ได้ว่าช่วงใดที่ร่างกายเรามีอุณหภูมิเท่าไร ซึ่งใช้อ้างอิงหรือประเมินว่าเราจะมีอาการไข้หรือไม่ รวมถึงในช่วงที่ต้องออกกลางแดดเป็นเวลานานๆ อาจจะมีอาการ Stroke ที่เป็นความร้อนสะสมในร่างกาย อาจจะทำให้เกิดการช็อกได้ เป็นอีกเทคโนโลยีที่ช่วยเตือนเราได้
ตรวจจับการล้ม
ฟีเจอร์สำหรับความปลอดภัยของผู้สวมใส่ในเวลาฉุกเฉิน โดยในสถานการณ์ที่ผู้ใช้งานเกิดล้มอย่างรุนแรง แล้วไม่มีการตอบสนองเป็นเวลามากกว่า 1 นาที หน้าจอจะแสดงปุ่ม Emergency SOS ขึ้นมาให้ใช้ติดต่อขอความช่วยเหลือทันที โดยจะเลือกโทรด่วนไปยังหมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉินที่เราตั้งไว้ได้เลย หรือจะใช้วิธีกดปุ่มเม็ดมะยม 5 ครั้งติดต่อกัน ก็จะใช้เป็นการโทรเบอร์ฉุกเฉินได้ด้วย
มี AppGallery ในตัว ลงแอปเพิ่มได้
HUAWEI Watch 3 เป็นสมาร์ทวอทช์รุ่นแรกของหัวเว่ย ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ HarmonyOS ทำให้มันสามารถติดตั้งแอพเพื่อใช้งานได้เอง ผ่านทาง HUAWEI AppGallery เราสามารถกดเข้าไปเลือกโหลดแอพที่ออกแบบมาสำหรับใช้งานบนสมาร์ทวอทช์ได้เลย
ตอนนี้มีแอพที่พร้อมใช้งานบนHUAWEI Watch 3 แล้วหลายตัว อาทิ
- HUAWEI Music แอพฟังเพลงบน HUAWEI Watch 3 ที่มีให้เลือกเพลงจาก GMM Grammy กว่า 20,000 เพลง และจะมีเพิ่มของค่ายอื่นให้ฟังได้อีกในอนาคต
- Coolism ฟังเพลงสตรีมสดๆ จากวิทยุออนไลน์คลื่น FM93
- Note บันทึกโน๊ตเสียงด้วยการพูดบันทึกในไมค์ของ HUAWEI Watch 3
- iTranslate translator ผู้ช่วยในการแปลภาษา มีรองรับภาษาไทย
ในอนาคตก็จะมีแอปพลิเคชันสำหรับHUAWEI Watch 3 ที่ตอนนี้ยังอยู่ในระหว่างการพัฒนา เตรียมออกมาให้ดาวน์โหลดใช้งานได้ในเร็วๆ นี้ ซึ่งจะมีแอปอีกหลากหลาย เพื่อใ้หใช้งานผ่านนาฬิกาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
แบตเตอรี่และการชาร์จ
ตามสเปคแล้ว ความจุแบตเตอรี่ของHUAWEI Watch 3 จะอยู่ที่ 450mAh สามารถใช้งานในโหมด Life ได้นานสุด 14 วัน และเมื่อใช้ในโหมด Smart ที่เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนและติดตามข้อมูลสุขภาพ จะใช้ได้นานสูงสุด 3 วัน
จากที่เราได้ทดสอบลองใช้งานแล้ว ต้องบอกว่าอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ดูแล้วน้อยกว่ารุ่นก่อนอย่าง Watch GT2 พอสมควร ด้วยความที่ตอนนี้มีการใช้งานด้วยระบบปฏิบัติการภายในตัวเอง รวมถึงมีเซ็นเซอร์การเก็บข้อมูลเพิ่มขึ้น และยังมีการเชื่อมต่อผ่าน eSIM และ WiFi ด้วย จึงทำให้มันใช้พลังงานมากขึ้นกว่าเดิม
จากการที่เราทดสอบลองใช้งาน แบบทั่วไป ไม่มีการออกกำลังกาย แต่เปิดฟีเจอร์ติดตามสุขภาพทุกอย่าง มีแจ้งเตือนจากสมาร์ทโฟนด้วย แบตเตอรี่ชาร์จเต็ม 100% สามารถใช้ได้ประมาณ 3-4 วัน ซึ่งถ้าหากเปิดใช้เพิ่มเติมอย่างหน้าปัดที่มี Widget แสดงผลหลายอย่าง หรือเปิดใช้การแสดงผลนาฬิกาแบบ Alway On ก็จะกินแบตเตอรี่เร็วกว่าเดิม ใช้ได้ประมาณ 2 วันเท่านั้น
ถึงอย่างไร ทางหัวเว่ยก็มีใส่ระบบการชาร์จไวมาให้ด้วย โดยสามารถชาร์จเพียง 10 นาที ก็สามารถใช้งานต่อเนื่องเพิ่มได้อีกถึง 15 ชั่วโมง รวมถึงยังรองรับการชาร์จไร้สาย ที่เอาไปวางชาร์จบนแท่นชาร์จไร้สายระบบ Qi หรือสมาร์ทโฟนที่มีระบบ Reverse Wireless Charging ก็ได้
ล้ำหน้า Choice
สรุป รีวิวHUAWEI Watch 3 ทีมงานล้ำหน้าฯ เราขอมอบ Award ให้ในส่วนของการออกแบบ และประสิทธิภาพในการใช้งาน
Best Design 9/10
ดีไซน์ที่สวยเรียบหรู งานประกอบปราณีต วัสดุพรีเมียม ทำให้HUAWEI Watch 3 เป็นสมาร์ทวอทช์ที่สวยลงตัว เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์ของผู้สวมใส่ และสายนาฬิกาที่ถอดเปลี่ยนได้ง่าย และใช้กับสายขนาดมาตรฐาน 22 มิลลิเมตรได้
หน้าจอมีความคมชัดและสว่าง สู้แสงแดดได้สบาย และยังมี Watchface สวยๆ ให้เลือกเปลี่ยนหรือจะซื้อเพิ่มก็ได้ ทำให้นาฬิกาของคุณดูไม่เหมือนกันและเปลี่ยนไปได้ทุกโอกาสที่ต้องการ
ข้อสังเกตที่ต้องคำนึงคือขนาดของตัวเรือนที่ค่อนข้างใหญ่สำหรับผู้หญิง สาวๆ ข้อมือเล็กอาจจะสวมแล้วล้นข้อมือได้
Best Performance 9/10
หัวเว่ยเพิ่มฟีเจอร์ให้กับHUAWEI Watch 3 อย่างเยอะมากๆ การตรวจจับข้อมูลสุขภาพทำได้มากขึ้นและหลากหลาย การออกกำลังกายต่างๆ ถือว่าทำได้ไม่ผิดหวัง และมีเพิ่มเรื่องการใช้งาน eSIM ทำให้ใช้งานแบบไม่ต้องพกมือถือได้สะดวกมากขึ้น
แต่แอบขัดใจบ้างกับอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ลดลงจากรุ่นก่อนพอสมควร ดังนั้นเราอาจจะต้องหมั่นชาร์จตัวนาฬิกาบ่อยขึ้น แต่ดีที่มีใส่ระบบชาร์จเร็ว และชาร์จไร้สาย ที่ให้เราชาร์จเติมแบตได้ง่ายขึ้น
Value 8/10
ในความพรีเมียมที่เพิ่มขึ้นกว่าซีรีย์ Watch GT รวมถึงฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่ใส่มาให้แบบจัดเต็ม ส่งผลทำให้ราคาค่าตัวของHUAWEI Watch 3 สูงขึ้นด้วยเช่นกัน แต่ถามว่าคุ้มราคากับสิ่งที่ได้มาหรือไม่ ก็คงต้องบอกว่าคุ้มอยู่ครับ แอบเสียดายว่าถ้าหากมีรุ่นที่ไม่รองรับ eSIM เพื่อให้ราคาถูกลงกว่านี้ให้เลือกด้วยก็จะดีมากๆ
ราคา และการวางจำหน่าย
HUAWEI Watch 3 จะมีแบ่งออกเป็นทั้งหมด 3 รุ่นด้วยกันคือ
- HUAWEI Watch 3 Active Edition ตัวเรือนสแตนเลสสตีล สาย Fluoroelastomer ราคา 12,990 บาท
- HUAWEI Watch 3 Classic Edition ตัวเรือนสแตนเลสสตีล สายหนัง ราคา 14,990 บาท
- HUAWEI Watch 3 Pro ตัวเรือนไทเทเนียม สายหนัง ราคา 21,990 บาท
วางจำหน่ายทาง HUAWEI Experience Store และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการ พิเศษ รับฟรี HUAWEI Steel Strap* และบริการ HUAWEI Music VIP นาน 3 เดือน รวมมูลค่า 10,377 บาท เมื่อซื้อตั้งแต่วันที่ 23 กรกฎาคม 2564 ถึง 31 กรกฎาคม 2564 ผ่านทางหน้าร้าน HUAWEI Experience Store และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการ รวมถึงช่องทางออนไลน์ที่ร่วมรายการอย่าง HUAWEI Online Store, Shopee, Lazada และ JD Central