เปิดตัว Suunto 9 Peak นาฬิกาสปอร์ตดีไซน์บางเบา รองรับ 80 โหมดกีฬา วัดออกซิเจนในเลือดได้

Suunto เปิดตัว Suunto 9 Peak นาฬิการุ่นเรือธงตัวใหม่ โดยนาฬิการุ่นนี้จะโฟกัสไปที่ทำให้สวมใส่ได้อย่างสนุกยิ่งขึ้น

จุดเด่นที่เปลี่ยนไปก็คือ ตัวเรือนจะบางลงถึง 37% และเบากว่ารุ่นก่อนอย่าง Suunto 9 Baro ถึง 36% ซึ่งน่าจะเป็นนาฬิกาสปอร์ตที่บางและเล็กที่สุดเท่าที่มีอยู่ในท้องตลาดตอนนี้

Suunto 9 Peak

ด้วยความที่เป็นรุ่นเรือธง มันจึงอัดแน่นมาด้วยฟีเจอร์ต่างๆ ที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น

  • ขนาดตัวเรือน 43 x 43 x 10.6 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก 52 กรัม
  • สายเป็นซิลิโคน ความกว้าง 22 มิลลิเมตร
  • แบตเตอรี่ สแตนบายได้นานสุด 14 วัน ใช้งานทั่วไป 7 วัน และโหมด GPS 25 ชั่วโมง
  • มาพร้อมโหมดกีฬากว่า 80 โหมด ทั้งการวิ่งมาราธอน, วิ่งเทรล, ปั่นจักรยาน, ว่ายน้ำ, ไตรกีฬา, ปีนเขา ฯลฯ
  • ตรวจสอบอัตราการเต้นของหัวใจ (Heartrate Monitor)
  • ระบบระบุพิกัดดาวเทียม GPS, GLONASS, GALILEO, QZSS, BEIDOU
  • สามารถวัดระดับออกซิเจนในเลือด SpO2
  • ชาร์จเร็วมาก โดย Suunto กล่าวว่า ชาร์ตแบตเตอรี่เต็มใน 1 ชั่วโมง
  • รองรับ Bluetooth 5
  • เชื่อมต่อกับแอป Suunto มีทั้งใน iOS และ Android สำหรับจัดการข้อมูลการออกกำลังกาย
  • สามารถแชร์ข้อมูลการออกกำลังกายกับแพลตฟอร์มอื่นๆ ได้ อาทิ Strava, Relive, UA Mapmyrun, Trainingpeak, ฯลฯ
  • สามารถปรับความเข้มของแสงอัตโนมัติ โดยขึ้นอยู่กับสภาพของแสง
  • รองรับกิจกรรมการออกำลังกายทางน้ำ กันน้ำได้ที่แรงดัน 100M
  • ภาษาในระบบรองรับหลากหลายภาษา (รองรับภาษาไทย)
Suunto 9 Peak
ฟีเจอร์หลักที่น่าสนใจใน Suunto 9 Peak

นาฬิการุ่นนี้แม้จะบางและเล็ก แต่ก็มาพร้อมความแข็งแรงและทนทาน โดยตัวเรือนทำจากไทเทเนียมเกรด 5 , หน้าปัดกระจกแซฟไฟร์และแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานถึง 170 ชั่วโมงเมื่อเปิด GPS (แต่ดูแล้ว มีความสปอร์ตและทนทานน้อยกว่า Suunto 9 Baro) ด้วยกรอบและปุ่มกดบางๆ ที่ไม่ยื่นออกด้านข้างมากนัก ทาง Suunto เรียกสิ่งนี้ว่าเป็นการออกแบบสไตร์นอร์ดิกแบบใหม่ที่ดูเรียบง่าย (new minimalistic Nordic design)

เรื่องความละเอียดของหน้าจอนั้น มีการแสดงผลที่ 240 x 240 พิเซล เมื่อเทียบกับ Suunto 9 Baro ที่มีความละเอียดที่ 320 x 320 พิกเซล

Suunto 9 Peak

นาฬิกา Suunto9 Peak มีให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สี Granite Blue Titanium กับ สี Birch White Titanium สำหรับกระจกแซฟไฟร์ และ สี All Black กับสี Moss Gray สำหรับรุ่นที่เป็นกระจกแซฟไฟร์และตัวเรือนเป็นสแตนเลสสตีล

ราคาสำหรับรุ่นสแตนเลส อยู่ที่ 569 ดอลลาร์ หรือประมาณ 17,900 บาท และรุ่นไทเทเนียม อยู่ที่ 699 ดอลลาร์ หรือประมาณ 21,900 บาท โดย Suunto 9 Peak จะวางจำหน่ายล่วงหน้าในวันที่ 25 พฤษภาคม พร้อมวางจำหน่ายแบบเต็มรูปแบบในวันที่ 17 มิถุนายนนี้

สำหรับในประเทศไทย คาดว่าจะเข้ามาเปิดตัวในช่วงเดือนมิถุนายนนี้ ซึ่งต้องรอประกาศกำหนดวัน และราคาอย่างเป็นทางการอีกครั้ง

ที่มา : Suunto | Mashable