รีวิว RAZER Blackwidow V3 Pro เกมมิ่งคีย์บอร์ดระดับแข่งขัน ต่อไร้สายไม่หน่วง

รีวิว RAZER Blackwidow V3 Pro คีย์บอร์ดแบบเมคานิเคิล สำหรับนักกีฬาอีสปอร์ตใช้แข่งขัน ให้ประสบการณ์ที่ดีในการเล่นเกม พร้อมการเชื่อมต่อไร้สาย RAZER HYPERSPEED WIRELESS ที่ต่อกับคอมแล้ว มีความหน่วงที่ต่ำ ให้ความรู้สึกในการควบคุมใกล้เคียงกับการใช้แบบต่อสาย รวมถึงยังมีฟีเจอร์ในการเล่นเกมตอบโจทย์ครบครัน ปรับแต่งได้อย่างที่ต้องการ และที่คุณจะต้องหลงรัก กับเสียงกดคีย์บอร์ดอันสุขุมนุ่มลึกดูเป็นผู้ดี ที่เป็นเอกลักษณ์ของ RAZER

RAZER Blackwidow V3 Pro เป็นหนึ่งในสินค้าซีรี่ย์ RAZER HYPERSPEED WIRELESS ที่นอกจากตัวคีย์บอร์ดแล้ว ยังมีหูฟัง Blackshark V2 Pro และ เม้าส์ Deathadder V2 Pro จุดเด่นของเทคโนโลยีนี้ ก็คือ การเชื่อมต่ออุปกรณ์แบบไร้สายกับเครื่องคอมพิวเตอร์ ที่ให้ค่าความหน่วงต่ำ น้อยกว่าการต่อด้วย Bluetooth และให้ความรู้สึกในการใช้งานเทียบเท่ากับการเชื่อมต่อแบบเสียบสาย USB เลยทีเดียว

รีวิว Razer Blackwidow V3 Pro

เกมมิ่งคีย์บอร์ดตัวนี้ ทาง RAZER ออกแบบมาให้ใช้เชื่อมต่อได้ถึง 3 รูปแบบด้วยกันคือ

  • เชื่อมต่อผ่านสาย USB โดยเสียบผ่านพอร์ต USB-C ด้านหลังเครื่อง
  • เชื่อมต่อไร้สายผ่าน Bluetooth สามารถเลือกการจดจำเชื่อมต่อได้ 3 อุปกรณ์
  • RAZER HYPERSPEED WIRELESS โดยเชื่อมต่อ ผ่าน Dongle 2.4Ghz

คีย์บอร์ดตัวนี้จึงมีความยืดหยุ่น ในการเชื่อมต่อใช้งาน คือจะต่อสายใช้งานก็ได้ จะต่อแบบไร้สายก็เลือกได้ว่าจะใช้เป็น Bluetooth หรือว่าจะเสียบ Dongle เพื่อใช้งานแบบไร้สายไม่มีหน่วง และเป็นข้อดีสำหรับคนที่ใช้งานหลายอุปกรณ์

เพราะคีย์บอร์ดตัวเดียว คุณสามารถเอาไว้ใช้งานกับอุปกรณ์ได้ถึง 5 เครื่อง (เสียบสาย + ต่อไร้สายผ่าน Dongle และต่อ Bluetooth ได้อีก 3 อุปกรณ์) เรียกว่าตัวเดียวใช้ได้ครบเลย

แกะกล่อง รีวิว RAZER Blackwidow V3 Pro

รีวิว Razer Blackwidow V3 Pro

ในแพ็กเกจนั้น ตัวคีย์บอร์ดจะมีพลาสติกกรอบครอบกันกระแทกมาให้ ในกล่องจะมีเอกสารและจดหมายรักของ Razer ขอบคุณที่เลือกใช้สินค้าเกมมิ่งที่มีคุณภาพ มาพร้อมกับคู่มือการใช้งานเบื้องต้น และสติกเกอร์โลโก้ของ Razer

รีวิว Razer Blackwidow V3 Pro

นอกจากตัวคีย์บอร์ดแล้ว จะมีตัวฐานรองข้อมือวัสดุเป็นหนังสังเคราะห์ ที่มีความนุ่ม ช่วยพักข้อมือระหว่างพิมพ์หรือใช้งาน และมีสาย USB-C to USB-A สำหรับเอาไว้เสียบใช้งานกับคอมพิวเตอร์เพื่อใช้งานแบบสาย และเอาไว้ชาร์จแบตเตอรี่เพื่อเอาไว้ใช้งานไร้สาย

รีวิว Razer Blackwidow V3 Pro

โครงสร้างด้านบนของตัวคีย์บอร์ดนั้น จะเป็นอลูมิเนียมที่มีความแข็งแรงทนทาน ที่เห็นคือเป็นสีดำที่เคลือบเป็นสีด้านอีกที ให้ความรู้สึกที่ดูบึกบึน และสีดำก็ช่วยสะท้อนแสงไฟของตัว RGB ได้สวยงาม รวมถึงการทำความสะอาดก็เช็ดได้ง่าย

ด้านล่างตัวคีย์บอร์ดจะเป็นพลาสติก ที่จะมีตัวขาปรับระดับมาด้วย ช่วยให้เราสามารถปรับระดับความลาดชันของคีย์บอร์ดได้ถึง 3 ระดับ ให้เหมาะและถนัดกับการพิมพ์งานมากขึ้น

ที่ใต้คีย์บอร์ด จะมีฝาปิดสำหรับเก็บตัว Dongle USB สำหรับใช้งานเชื่อมต่อแบบ RAZER HYPERSPEED WIRELESS เอาไว้ เปิดออกมาแล้วแกะไปติดกับคอมพิวเตอร์ที่ต้องการใช้ได้เลย

ด้านหลังจะมีช่อง USB-C สำหรับเสียบสายเพื่อชาร์จไฟ และเอาไว้เชื่อมต่อใช้งานกับคอมพิวเตอร์

ด้านข้างทางซ้าย จะเป็นสวิทช์เลื่อนเพื่อเปลี่ยนโหมดการใช้งานเชื่อมต่อ เลื่อนตำแหน่งกลางคือ ปิดการใช้งาน หรือถ้าใช้เป็นเสียบสายก็เลือกอันนี้ ถ้าใช้งานคู่กับ Dongle 2.4GHz ส่วนเลื่อนมาทางขวาจะเป็นเลือกใช้โหมดเชื่อมต่อด้วย Bluetooth

ตอนเชื่อมต่อ Bluetooth นั้น จะมีให้เราเลือกเปลี่ยนได้ 3 อุปกรณ์ โดยที่คีย์บอร์ดจะมีไฟกระพริบสีขาวที่ C L S และที่แป้นเลข 1,2 หรือ 3 เพื่อระบุว่าเราเชื่อมต่อที่อุปกรณ์ไหน การสับเปลี่ยนอุปกรณ์ ให้กดปุ่ม Fn พร้อมกับหมายเลขอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อไว้ (1,2,3)

ตัวคีย์บอร์ดนั้น เป็นแบบ Full Size ที่ด้านบนมุมขวา จะมีปุ่ม Multi-Function ที่เป็นปุ่มควบคุมมีเดีย 4 ปุ่ม สำหรับกด เล่น-หยุด, เปลี่ยนเพลง, Mute และมีปุ่มหมุนแบบ Dial สำหรับปรับเพิ่มลดเสียง

ตัวปุ่มกด Keycap ออกแบบมาเป็นแบบโค้งเว้า ให้สัมผัสในการกดปุ่มที่แม่นยำ และยังใช้เทคนิค Doubleshot ABS ในการฉีดขึ้นรูปพลาสติกของตัวปุ่มกดแบบ 2 ชั้น คือส่วนฐานเป็นสีขาวที่นำแสงของไฟ Backlit ได้ ครอบทับด้วยพลาสติกสีดำอีกชั้น ข้อดีของปุ่มแบบนี้คือ ตัวปุ่มจะมีความหนา เพราะเป็นวัสดุ ABS ทั้งชิ้น ทำให้การใช้งานหนักๆ ก็ไม่ต้องกลัวว่าปุ่มสีจะหลุดลอก (ตัวที่เราได้มารีวิวนี้ เป็นแป้นแบบ US ซึ่งรุ่นจำหน่ายในไทย จะมีเป็นภาษาไทยมาให้)

มาดูกันที่ตัวปุ่มกดกันบ้าง RAZER Blackwidow V3 Pro ปุ่มเมคานิเคิลจะมี 2 แบบคือ แบบสีเขียว (Green Switch) ตัวที่เราได้มาทดสอบ ตัวนี้ออกแบบมาสำหรับสายเกมเมอร์ ด้วยกลไกภายในตอบสนองการกดได้อย่างแม่นยำที่สุด และมีการเด้งคืนตัวกลับที่ดี ซึ่งเหมาะสำหรับการเล่นเกมที่ต้องการออกคำสั่งที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ และเสียงของปุ่มนั้น บอกเลยเกมเมอร์ต้องชอบ เพราะเสียงคลิ๊กๆ ดังฟังชัด

ส่วนอีกแบบจะเป็น Yellow Switch แบบใหม่ อันนี้จะปรับกลไกลให้มีเสียงที่เงียบกว่า เหมาะสำหรับใครที่อยากได้เสียงกดที่ไม่ดังมาก อย่างเช่น เอาใช้งานในออฟฟิศ เสียงคีย์บอร์ดที่ดังสนั่นมากๆ อาจจะรบกวนคนอื่นได้

ส่วนตัวแล้ว แน่นอนครับ ชอบ Green Switch มากๆ ทั้งเรื่องของการตอบสนองในการกด และเสียงที่ดังดีหนักแน่น อยากฟังเสียงเป็นยังไง กดไปฟังได้ที่นี่

ที่ตัวเมคานิคของปุ่มมีการออกแบบ Wall เพิ่มขึ้นมารอบๆ อีกชั้น เพื่อช่วยให้การกดมีความมั่นคงมากยิ่งขึ้น รวมถึงยังช่วยในเรื่องการป้องกันไม่ให้ฝุ่นหรือของเหลวเข้าไปสร้างปัญหากับระบบกลไกในปุ่มได้ด้วย ซึ่งปุ่มแบบนี้ทาง Razer ทดสอบแล้วมีอายุการใช้งาน รองรับการกดได้ 80 ล้านครั้งเลยทีเดียว

นอกจากนี้ ตัวกรอบด้านบนของปุ่มคีย์บอร์ดทุกปุ่ม ออกแบบมาเป็นแบบโปร่งแสง ช่วยให้สีของไฟ RGB ส่งสว่างได้มากกว่าเดิม และแน่นอนว่า คีย์บอร์ดตัวนี้รองรับการทำงานของ Razer Chroma ที่ใช้ควบคุมการแสดงสีไฟ RGB ได้ 16.8 ล้านสี ที่มีอยู่ในทุกปุ่มบนคีย์บอร์ด ได้อย่างอิสระ และยังทำงานแบบ Dynamic ร่วมกับเกมต่างๆ ได้อีกด้วย

การใช้งาน RAZER Blackwidow V3 Pro ร่วมกับ Razer Synapse

รีวิว Razer Blackwidow V3 Pro

สำหรับอุปกรณ์เกมมิ่งของ Razer จะทำงานควบคู่กับโปรแกรม Razer Synapse ที่จะช่วยในการปรับแต่งการใช้งานของคีย์บอร์ดได้อย่างอิสระ ตั้งแต่การปรับสีของ Razer Chroma ในการกำหนดรูปแบบการแสดงสีได้มากมาย มีทั้งแบบที่เป็นแพทเทิร์นอยู่แล้ว หรือจะเข้าโหมด Studio เพื่อปรับแต่งแยกทุกปุ่มได้ตามที่ต้องการ และยังซิงค์การแสดงสีร่วมกับอุปกรณ์ Razer อื่นๆ ให้เป็นธีมเดียวกัน

รีวิว Razer Blackwidow V3 Pro

ตัวคีย์บอร์ดมี Memory มาในตัว ที่เอาไว้เก็บการตั้งค่าต่างๆ ได้ถึง 4 Profile ที่ให้คุณกดเปลี่ยนสลับได้จากคีย์บอร์ดได้เลย ไม่ต้องมาเลือกจากในโปรแกรม สะดวกสำหรับคนที่เล่นเกมหลายสไตล์หลายเกม แล้วตั้งค่าปุ่มไม่เหมือนกัน เราเซ็ตแล้วเซฟไว้ ไปเล่นที่ไหน หรือไปแข่งเกมก็พก RAZER Blackwidow V3 Pro ไปแข่งได้เลย ไม่ต้องกดตั้งค่าใหม่

รีวิว Razer Blackwidow V3 Pro

ประสบการณ์หลังลองใช้

ฟีเจอร์สำหรับการเล่นเกมด้วยคีย์บอร์ดของ Razer ใส่มาให้ครบหมด ทั้ง มาโคร การตั้งโปรไฟล์ปุ่มกดที่เก็บข้อมูลไว้ในหน่วยความจำของคีย์บอร์ดได้ ถ้าเป็นนักกีฬาสายอีสปอร์ต ถือว่าตอบโจทย์ด้วยฟังก์ชั่นและการออกแบบเมคานิคต่างๆ เพื่อการแข่งขันโดยเฉพาะ

วัสดุต่างๆ แน่นหนาพรีเมี่ยมตามสไตล์ของ Razer ส่วนตัวผมชอบดีไซน์ของซีรี่ย์นี้ ที่เรียบและดูลงตัว ทั้งเลย์เอาท์ตำแหน่งของปุ่มต่างๆ ตัวแป้นคีย์แคปที่ทำมารับมือ การปรับความเอียงลาดได้อย่างที่ต้องการ และการทำแบบ Doubleshot ABS นั้นทำให้ปุ่มมีความทนทานในการใช้งานมากยิ่งขึ้น

ลูกเล่นสีไฟ RGB จัดเต็ม ทำงานร่วมกับ RAZER Chroma ได้เต็มรูปแบบ ปรับแต่งได้เยอะมาก ความสว่างในห้องที่แสงน้อยๆ นี่คือวิบวับดีมาก

ตัว Green Switch คือสุนทรียแห่งการเล่นเกม เสียงกดของปุ่มแบบเมคานิเคิลของ Razer นั้น มีความแน่นและดังในแบบที่ไม่น่ารำคาญ ความแม่นยำในการกดเล่นเกมนั้นดีมากคือกดไม่เต็มตรงกลางก็ยังได้อยู่ ไม่โงกเงก

การออกแบบเรื่องกลไกที่ช่วยกันเรื่องฝุ่นและน้ำได้คือดีมาก เพราะผมเคยลองใช้งานคีย์บอร์ดบางแบรนด์ ออกแบบปุ่มมาไม่ค่อยดี คือฝุ่นลงไปแล้วทำให้ปุ่มกดไม่ค่อยติด ต้องแก้ด้วยการมาเป่าไล่ฝุ่นที่หล่นลงไป ซึ่งน่ารำคาญมากๆ แต่กับ RAZER Blackwidow V3 Pro ที่ทำสอบใช้งานมาพักใหญ่ๆ นั้นไม่มีปัญหานี้มากวนใจแต่อย่างใด

และสิ่งที่เป็นจุดเด่นของรุ่นนี้ ก็คือการเชื่อมต่อที่รองรับได้หลายรูปแบบ จะเลือกแบบมีสาย ไร้สาย ต่อ Bluetooth ก็ได้ ทำให้เชื่อมต่อได้กับทุกอุปกรณ์ที่มีได้สบายๆ ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์, PC, Mac, สมาร์ทโฟน, PlayStation, สมาร์ททีวี ฯลฯ

ส่วนเทคโนโลยี RAZER HYPERSPEED WIRELESS คือสิ่งที่ประเสริฐและดีงามมากๆ คุณสามารถใช้งานคีย์บอร์ดไร้สายที่มีความรู้สึกหน่วงน้อยมากๆ ชนิดที่ว่าพอๆ กับใช้เสียบสายเล่นเลย ข้อดีก็คือทำให้คุณสะดวกในการจัดวางใช้งานบนโต๊ะได้แบบไม่ต้องมีสายลากบนโต๊ะ ทำให้โต๊ะคอมคุณจัดระเบียบได้สวยงามยิ่งขึ้น

จุดเดียวที่รู้สึกขัดใจกับคีย์บอร์ดรุ่นนี้คือตัวแป้นวางพักข้อมือ ที่มีแถมมาให้ ดันไม่มีระบบแม่เหล็ก ทำให้เวลาเอามาวางกับคีย์บอร์ดแล้วมันไม่ยึดติดกัน บางทีใช้งานเลยมีเลื่อนๆ หลุดอยู่บ้าง

RAZER Blackwidow V3 Pro ราคา วางจำหน่ายในประเทศไทย (มีแป้นภาษาไทยให้เรียบร้อย) อยู่ที่ 7,790 บาท อยู่ในราคาที่ค่อนข้างสูงพอสมควร แต่ก็สมเหตสมผลกับกับทั้งวัสดุ, การออกแบบ ประสิทธิภาพ และฟีเจอร์ที่ทำให้การใช้งานคีย์บอร์ดเล่นเกมได้ดีเยี่ยม เสียงปุ่มเมคานิเคิลที่ดังแบบผู้ดีและเด้งสู้มือ ถือว่าเป็นคีย์บอร์ดที่ใช้แล้วชอบ พร้อมยังมีประกันให้ถึง 2 ปี

สนใจรายละเอียดเพิ่มเติม และสถานที่ซื้อ สามารถดูได้ที่ www.razer.com