TikTok

TikTok กระแสแรงปี 63 เดินหน้าเพิ่มกลยุทธ เพื่อความบันเทิงสู่ความคิดสร้างสรรค์

TikTok ตอกย้ำกระแสความนิยมตลอดปี 2563 เดินหน้ายกระดับจากแพลตฟอร์มความบันเทิงสู่ศูนย์รวมความคิดสร้างสรรค์และแรงบันดาลใจ

TikTok ที่มาพร้อมพันธกิจ Inspire creativity and bring joy หรือ การสร้างแรงบันดาลใจและส่งต่อความสุขให้กับผู้คน ภายหลังจากที่ได้สร้างนิยมทั้งทั่วโลกและในประเทศไทยตลอดปี 2563 ที่ผ่านมา TikTok ประกาศเดินหน้ายกระดับจากแพลตฟอร์มเพื่อความบันเทิงสู่ศูนย์รวมความคิดสร้างสรรค์และแรงบันดาลใจให้กับทุกคน เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์การใช้แพลตฟอร์มที่จะเติมเต็มความต้องการของผู้ใช้ ครีเอเตอร์ และพันธมิตรแบรนด์ ทั้ง Ecosystem ให้แข็งแกร่งและยั่งยืน ผ่าน 3 กลยุทธ์สำคัญ ได้แก่ กลยุทธ์ด้านคอนเทนต์ที่เน้นการเพิ่มความหลากหลายของคอนเทนต์เพื่อตอบโจทย์ความสนใจผู้ใช้ในแต่ละกลุ่ม ,กลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์ด้วยการเตรียมเสริมทัพฟีเจอร์และเทคโนโลยีใหม่ๆ และ กลยุทธ์ด้านครีเอเตอร์ที่มาพร้อมโอกาสที่เปิดกว้างให้ทุกคนสามารถเป็นครีเอเตอร์มืออาชีพได้อย่างง่ายดายบน TikTok

สุรยศ เอี่ยมละออ Head of Marketing ของ TikTok เปิดเผยว่า ปี 2563 ถือเป็นปีที่ TikTok ได้สร้างปรากฏการณ์ความสำเร็จอย่างท่วมท้น ซึ่งประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการเติบโตทั้งจำนวนผู้ใช้และการมีส่วนร่วมกับแพลตฟอร์มมากที่สุดประเทศหนึ่งในภูมิภาค รวมถึงการแจ้งเกิดปรากฏการณ์การส่งต่อความสุขและแรงบันดาลใจในปี 2563 จนทำให้เกิดกระแสคอนเทนต์แนวใหม่ เช่น #TikTokUni ที่สร้างยอดวิวสูงสุดในประเทศไทยกว่า 10.7 พันล้าน และไม่เพียงแค่นั้นยังรวมถึงการมีส่วนร่วมกับการสร้างสรรค์สิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อผู้คนและชุมชนบน TikTok ซึ่งเห็นได้จากในช่วงการแพร่ระบาดของ COVID–19 ที่ TikTok ได้ชวนคนไทยมาเปลี่ยนความเครียดให้เป็นความสนุกผ่านแคมเปญ #เมษาAtHome ที่ชวนคนไทยมาแชร์คลิปการกักตัวอยู่บ้านอย่างสร้างสรรค์จนมียอดวิวสูงถึง 1.9 พันล้าน รวมไปถึงกระแสไวรัลที่เป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์มากมาย ทั้งไวรัลแอคชั่นยอดฮิต อาทิ #wipeitdown ที่มียอดวิวสูงถึง 10.4 พันล้าน #igogechallenge กับยอดวิวที่สูงถึง 5.9 ล้าน และเพลงดังยอดฮิต ใส่ใจได้แค่มอง จากศิลปิน Gx2 , เพลง พักก่อน จากศิลปิน Milli และ เพลง เจนนุ่นโบว์ อีกทั้งการแจ้งเกิดของครีเอเตอร์หน้าใหม่ และการใช้ TikTok เป็นพื้นที่ในการแสดงตัวตนของเหล่าเซเลบริตี้ชื่อดังมากมาย

TikTok ได้ชื่อว่าเป็นแพลตฟอร์มที่เติบโตเร็วมากที่สุดในเวลาเพียงไม่กี่ปี โดยได้สร้างปรากฏการณ์ไปทั่วโลกในช่วง
ล็อกดาวน์ แต่ถึงกระนั้นก็พบว่า แม้จะเป็นช่วงปลดล็อกดาวน์แล้ว TikTok ก็ยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากยอดการดาวน์โหลด TikTok ทั่วโลกที่ยังครองอันดับหนึ่งมาตั้งแต่ต้นปี (ที่มา: Sensor Tower) ซึ่งหากวิเคราะห์ปัจจัยการเติบโตของ TikTok ในตลอดปีที่ผ่านมา จะพบว่า การเติบโตของ TikTok ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มวิดีโอสั้น มีปัจจัยสำคัญมาจากหลายส่วน

โดยเฉพาะกระแสความความนิยมคอนเทนต์วิดีโอสั้นที่กำลังมาแรงและเริ่มเข้ามาทดแทนคอนเทนต์ประเภทภาพนิ่งหรือวิดีโอยาวมากขึ้น โดยพบว่า วิดีโอสั้นแบบแนวตั้งมีประสิทธิภาพในการเข้าถึงผู้ชมได้สูงถึง 90% (ที่มา: MediaBrix, 2020)  และมากไปกว่านั้น TikTok ได้ปฏิวัติวิถีการรับชมคอนเทนต์กับหัวใจหลักที่ทำให้ TikTok ประสบความสำเร็จ ได้แก่ การนำเสนอคอนเทนต์ผ่านหน้าฟีต “For You Page” ที่ใช้ Machine Learning มาช่วยให้ผู้ชมได้รับชมคอนเทนต์ที่ตอบโจทย์ความชอบและความสนใจ อีกทั้งยังมี “Creative Tools” หรือ “เครื่องมือเพื่อการสร้างสรรค์วิดีโอสั้น” ที่ทำให้ทุกคนสามารถเป็นครีเอเตอร์และสร้างคอนเทนต์วิดีโอด้วยตัวเองได้อย่างง่ายดาย โดยมีเครื่องมือยอดนิยมของคนไทย คือ Green Screen, Voice Over, Sticker และ Stitch รวมไปถึงการ

มีกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้และชุมชนได้มีส่วนร่วมอย่างสร้างสรรค์ผ่านแคมเปญ “Hashtag Challenge” ซึ่งทำให้เกิด User Generated Content และกระแสไวรัลมากมาย และสุดท้าย TikTok คือแพลตฟอร์มที่สร้างความเท่าเทียมให้ทุกคนสามารถก้าวขึ้นมาเป็นครีเอเตอร์ได้อย่างไม่มีข้อจำกัด จึงส่งผลให้ในวันนี้ TikTok คือ ตัวแทนของแพลตฟอร์มที่ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงและกลายเป็นพื้นที่แห่งความสุขและการแสดงออกทางความคิดสร้างสรรค์ของผู้คนอย่างไร้ข้อจำกัด” สุรยศ กล่าว

สำหรับก้าวต่อไปของ TikTok ในประเทศไทย TikTok มีความพร้อมที่จะยกระดับการสร้างการรับรู้จากแพลตฟอร์มเพื่อความบันเทิงสู่ศูนย์รวมความคิดสร้างสรรค์และแรงบันดาลใจ ผ่าน 3 กลยุทธ์สำคัญ ได้แก่

  • กลยุทธ์ด้านคอนเทนต์: การสร้างความหลากหลายของคอนเทนต์ เพื่อตอบโจทย์ความสนใจที่หลากหลายของผู้ใช้ในแต่ละกลุ่ม อาทิ การพาร์ทเนอร์กับกลุ่มพันธมิตรในอุตสาหกรรมบันเทิงชั้นนำและเหล่าดาราศิลปิน ในการสร้างสรรค์คอนเทนต์เอ็กคลูซีฟในหลากหลายรูปแบบ อาทิ TikTok Stage with BLACKPINK, WOODY’S TIKTOK STAR LIVE และการสร้างคอนเทนต์เจาะกลุ่มเซ็กเมนต์ที่มาแรง อาทิ กลุ่มแฟนคลับซีรีย์ Y, กลุ่มผู้ชายที่ชื่นชอบคอนเทนต์เทคโนโลยีและกีฬา หรือกลุ่มผู้ที่ชื่นชอบการดูดวง เป็นต้น
  • กลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์หรือการพัฒนาแพลตฟอร์ม: การเปิดฟีเจอร์ใหม่ๆ เพื่อยกระดับประสบการณ์บนแพลตฟอร์มให้กับผู้ใช้ อาทิ TikTok LIVE ที่เปิดให้ผู้ใช้ที่มียอดผู้ติดตาม 1,000 คนขึ้นไป และมีอายุ 18 ปีขึ้นไป สามารถเปิดใช้ฟีเจอร์ livestreaming ได้ ซึ่งที่ผ่านมาได้รับกระแสตอบรับอย่างดีเยี่ยม รวมถึงการเพิ่มความยาวของคอนเทนต์วิดีโอบนแพลตฟอร์มเป็น 3 นาที สำหรับผู้ใช้ที่มีผู้ติดตาม 5,000 คนขึ้นไป เพื่อตอบโจทย์ความต้องการในการสร้างสรรค์คอนเทนต์ของผู้ใช้บนแพลตฟอร์ม
  • กลยุทธ์ด้านครีเอเตอร์: TikTok เป็นแพลตฟอร์มที่เปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถเป็นครีเอเตอร์มืออาชีพได้ ผ่านการสร้างสรรค์คอนเทนต์ และการเข้าร่วมในแคมเปญต่างๆ เพื่อเชิญชวนให้ผู้มีความรู้หรือผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่างๆ เข้ามาเป็นครีเอเตอร์ร่วมสร้างสรรค์คอนเทนต์ เช่น ความสำเร็จของแคมเปญ #TikTokUni ที่ได้แจ้งเกิดครีเอเตอร์แนวสาระความรู้ในหลากหลายแขนง พร้อมด้วยการจัดกิจกรรมเพื่อให้ความรู้ในการพัฒนาวิธีการสร้างสรรค์และนำเสนอคอนเทนต์ได้อย่างน่าสนใจ และการเปิดบริการ “TikTok Creator Marketplace” ในการเชื่อมครีเอเตอร์และแบรนด์ เพื่อต่อยอดโอกาสสู่การสร้างรายได้ให้กับครีเอเตอร์บน TikTok ได้อย่างแท้จริง

TikTok เป็นแพลตฟอร์มที่กำลังได้รับความสนใจในหลากหลายประเทศทั่วโลก และสำหรับประเทศไทย ถือเป็นประเทศที่มีความโดดเด่นในด้านการเติบโตของผู้ใช้ ครีเอเตอร์ รวมถึงเหล่าพันธมิตรแบรนด์ต่างๆ ที่ให้ความสนใจในการใช้แพลตฟอร์ม TikTok เป็นเครื่องมือในการสร้างสรรค์และการทำการตลาดดิจิทัลเพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายโดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่  Gen Y และ Gen Z ซึ่งในปัจจุบันเราพบว่า กลุ่มผู้ใช้ TikTok มีการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในกลุ่มอายุ 18 – 34 ปี ที่ปัจจุบันมีสัดส่วนมากกว่า 60% ของผู้ใช้ทั้งหมดในประเทศไทย

ทั้งนี้ สุรยศ ได้กล่าวในตอนท้ายว่า “ความสำเร็จของ TikTok ในวันนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงในประเทศไทย เช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นแล้วในหลายประเทศทั่วโลก โดยเป้าหมายสำคัญที่จะทำควบคู่ไปกับการพัฒนาประสบการณ์บนแพลตฟอร์มให้กับผู้ใช้ของเรา TikTok จะไม่หยุดนิ่งในการพัฒนาแพลตฟอร์มเพื่อตอบโจทย์ความ ต้องการของผู้ใช้ในทุกกลุ่มอายุและประเภทความสนใจ สู่เป้าหมายการสร้างแพลตฟอร์มให้เติบโตอย่างยั่งยืนในประเทศไทย ควบคู่ไปกับการสร้างสรรค์ชุมชนที่ปลอดภัย เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้ ครีเอเตอร์ และพันธมิตรแบรนด์ต่างๆ ของเราตลอดไป”