Paloalto Networks เปิดตัว Next-Generation SD-WAN เพิ่มความปลอดภัยบนคลาวด์

Paloalto Networks เปิดตัว Next-Generation SD-WAN เพิ่มประสิทธิภาพความปลอดภัยบนคลาวด์สำหรับสาขาและการใช้งานเครือข่ายที่ไม่ซับซ้อน

 เมื่อ SD-WAN กลายเป็นสถาปัตยกรรมหลักของ WAN องค์กรกำลังต้องการโซลูชั่นส์ที่สร้างประสบการณ์การใช้งานที่ดีกว่าให้แก่ลูกค้า ทั้งใช้และจัดการได้ง่าย Next-Generation SD-WAN จากพาโล อัลโต เน็ตเวิร์กส์ คือการปฎิวัติทั้งหมดด้วยคุณสมบัติโซลูชั่นส์ดังต่อไปนี้

  • App Defined – ความสามารถในการเข้าถึงทีมเครือข่ายเพื่อสร้าง app-based policies และส่งมอบรับประกัน SLA ให้แก่ทุกแอพ และช่วยให้การใช้งานดีขึ้น  
  • Autonomous – ดำเนินการอัตโนมัติและหลีกเลี่ยงปัญหาด้วยการใช้ machine learning และ data science สามารถกำจัดปัญหา WAN และแอปพลิเคชั่นได้สูงสุด 90% 
  • Cloud-delivered – ช่วยให้บริการสาขาทำผ่านคลาวด์ได้ รวมทั้ง สร้างเครือข่ายและความปลอดภัย การจัดการ WAN ที่ง่ายขึ้น สามารถขยายสาขาได้รวดเร็วขึ้นจากเดิมที่ใช้เวลาเป็นเดือนเหลือเพียงไม่กี่นาที

การศึกษาผลกระทบทางเศรษฐกิจโดย Forrester Consulting* เผยว่า Next-Generation SD-WAN จากพาโล อัลโตฯ สามารถเพิ่ม ROI ได้ถึง 243% 

พาโล อัลโต เน็ตเวิร์กส์ เพิ่มคุณสมบัติใหม่ในโซลูชั่นส์ Next-Generation SD-WAN 

  • การดำเนินการเครือข่ายที่ง่ายมากขึ้นด้วย machine learning
  • อุปกรณ์ SD-WAN ขนาดเล็กออกแบบมาเพื่อการใช้งานในร้านค้า ออฟฟิศขนาดเล็ก/ โฮมออฟฟิศ (SOHO)
  • อุปกรณ์ SD-WAN ประสิทธิภาพสูงเหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่ขนาดใหญ่
  • การบูรณาการอย่างไร้รอยต่อจากระบบความปลอดภัยคลาวด์ Prisma™ Access

Kumar Ramachandran รองประทานอาวุโส การจัดการผลิตภัณฑ์ไฟล์วอลล์ พาโล อัลโต เน็ตเวิร์กส์ กล่าวว่า “การใช้งานคลาวด์และมัลติคลาวด์มีมากขึ้น แอปจากผู้ใช้งาน อาทิ การประชุมผ่านวิดีโอ และโซลูชั่นส์ในสำนักงานนั้นอยู่บนคลาวด์มากขึ้นเรื่อยๆ Legacy WAN มีข้อจำกัดมากโดยเฉพาะเมื่อองค์กรต้องการย้ายขึ้นไปบนคลาวด์  First-generation SD-WAN ขาดแคลนอย่างมากในการย้ายโครงสร้างพื้นฐานและบริการ WAN ของสาขา ขณะที่องค์กรกำลังต้องการโซลูชั่นส์ SD-WAN อัตโนมัติ ที่ไม่ต้องพึ่งการปฏิบัติการแบบ manual อีกต่อไป นอกจากนี้ องค์กรยังต้องการโมเดลคลาวด์ความปลอดภัยและบริการสาขาเพื่อลดต้นทุนในการขยายไปยังคลาวด์   CloudGenix SD-WAN คือ next-generation SD-WAN โซลูชั่นส์แรกของอุตสาหกรรมที่กำหนดด้วยแอปอัตโนมัติ และใช้งานบนคลาวด์ ด้วยประสิทธิภาพบนพื้นฐาน ML เราสามารถลดค่าดำเนินงานใน “วันที่ 2” ได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยเมื่อไม่นานมานี้ลูกค้าให้ข้อมูลว่าสามารถลดค่าใช้จ่าย WAN ได้ถึง 82%” 

Machine Learning และการวิเคราะห์

พาโล อัลโต เน็ตเวิร์กเพิ่มฟีเจอร์วิเคราะห์และ machine learning ใน CloudGenix SD-WAN เพื่อการทำงานเครือข่ายง่ายและการวางแผนได้ดีขึ้น เช่น ระบุสถาณการณ์ทั่วไปอัตโนมัติเมื่อเกิดการแจ้งเตือนหลายรายการ ลดเวลาในการแก้ปัญหาและเพิ่มความสามารถของแอปได้อย่างมีนัยสำคัญ ระบบแก้ปัญหาแบบอัตโนมัตินั้นจะช่วยให้บุคลากรมีเวลาในการโฟกัสกับกิจกรรมที่สำคัญมากขึ้น ฟีเจอร์การวิเคราะห์ใหม่นี้ช่วยการวางแผนได้ง่ายขึ้น เช่น เข้าใจการเชื่อมต่อ WAN ได้ง่ายขึ้น เวลาที่ต้องการใช้งาน และระบุแอปที่ใช้งาน นอกจากนี้ พาโล อัลโตฯ มีแผนจะใช้ Machine Learning กับเคสอื่นๆในอนาคตด้วย    

ION 1000

CloudGenix ION 1000 อุปกรณ์ SD-WAN รูปทรงเล็กแต่ทรงพลังออกแบบมาเพื่อการใช้งานในธุรกิจค้าปลีกและออฟฟิศขนาดเล็กหรือโฮมออฟฟิศ ION 1000  มีขนาดเล็ก  ไม่มีพัดลม ไร้เสียง สามารถตั้งไว้ในสำนักงานหากไม่มีห้องติดตั้งอุปกรณ์เฉพาะ เมื่อองค์กรกำลังปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานใหม่เพื่อรองรับการทำงานทางไกลหลังการแพร่ระบาดของไวรัส covid สามารถควบคุมประสิทธิภาพ พื้นที่ และความปลอดภัยสำหรับสำนักงานที่มีมีนโยบายเช่นเดียวกับองค์กรขนาดใหญ่

ION 9000

CloudGenix ION 9000 อุปกรณ์ SD-WAN ขนาดใหญ่และทรงพลังที่สุดในขณะนี้ ที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพขึ้นเป็น 2 เท่า จากอุปกรณ์ที่มีอยู่ในปัจจุบัน สำหรับสาขาและอนาเขตขนาดใหญ่เพื่อรองรับปริมาณงานในระดับ multi-gigabit  และถูกออกแบบให้มีศักยภาพระบบ fail-to-wire เพื่อบรรเทาผลกระทบจากการหยุดทำงานของ WAN ทางกายภาพ  

ผสานความปลอดภัย Prisma Access

CloudGenix SD-WAN สามารถใช้งานอย่างไร้รอยต่อกับ Prisma Access แฟลตฟอร์มความปลอดภัยบน SASE ที่สมบูรณ์ที่สุด ช่วยรักษาความปลอดภัยการติดต่อภายใน ระหว่างสาขา และระหว่างสาขาไปสู่แอปบนคลาวด์สาธารณะหรือคลาวด์ภายใน สามารถใช้ร่วมกันได้โดยไม่จำเป็นต้องอัพเกรตฮาร์ตแวร์แอปพลิเคชั่นของสาขา หรือ ซอฟท์แวร์เพื่อใช้งานแพลตฟอร์ม CloudGenix CloudBlades แพลตฟอร์ม CloudBlades เชื่อมการใช้งานคลาวด์ เช่น  Prisma Access ใช้ cloud-hosted API เพื่อลดการใช้ฮาร์ดแวร์สาขาหรือซอฟท์แวร์ในสาขา

พาโล อัลโต เน็ตเวิร์กส์ ทำงานร่วมกับบริษัทวิเคราะห์และปรึกษาด้านเศรษฐกิจชั้นนำอย่าง Forrester Consulting เพื่อศึกษาผลกระทบทางเศรษฐกิจหรือ Total Economic Impact (TEI) เพื่อประเมินผลทางเศรษฐกิจจากการใช้งาน CloudGenix SD-WAN โดยพบว่าการลงทุนใน CloudGenix SD-WAN สามารถสร้าง ROI ได้ถึง 243% ในช่วงสามปี

Rohit Mehra รองประทาน โครงสร้างพื้นฐานด้านเครือข่าย IDC กล่าวว่า “องค์กรต่างๆกำลังมองหาโซลูชั่นส์  next generation SD-WAN เพื่อช่วยในการเปลี่ยนผ่านด้านดิจิทัลและเครือข่าย ซึ่งรวมทั้งโมเดลคลาวด์ของการส่งมอบบริการไอทีตามสาขาเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นและคล่องตัว  SD-WAN ของพาโล อัลโต เน็ตเวิร์กส์ สร้างความปลอดภัย สื่อสารแบบครบวงจร (UCaaS) การมองเห็น และมอนิเตอร์ในรูปแบบคลาวด์ ลดค่าใช้จ่ายด้านปฏิบัติการ โดยใช้การวิเคราะห์เครือข่าย และ Artificial Intelligence/ Machine Learning ช่วยสร้างความสามารถแบบอัตโนมัติที่องค์กรกำลังต้องการเพิ่มศักยภาพเพื่อลดการแก้ปัญหาในรูปแบบแมนนวล     

Adam Rasner รองประทาน ฝ่ายปฏิบัติการเทคโนโลยี AutoNation กล่าวว่า “ในฐานะผู้นำการจำหน่ายรถยนต์ตลอด 25 ปี ประสบการณ์ของลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการในร้านมีความสำคัญมากต่อธุรกิจของเรา  AutoNation เคยประสบปัญหาด้านประสิทธิภาพเครือข่ายและความเสถียร และต้นทุนสูงในการ ปฏิบัติการ WAN รุ่นแรก เราได้พิจารณา SD-WAN หลายตัวและพบว่า CloudGenix คือโซลูชั่นส์ next generation SD-WAN ที่ดีที่สุด นอกจากนี้ เราได้รับประสบการณ์ที่ดีมากในการร่วมกับพาโล อัลโต เน็ตเวิร์กส์ โดยใช้เวลาปิดร้านเพียงหนึ่งคืนเพื่อย้ายจาก AN รุ่นแรก และสามารถใช้ CloudGenix SD-WAN ได้ในรุ่งเช้าของวันถัดไป โดยไม่รบกวนเวลาทำงานเลย CloudGenix ION ช่วยให้เราส่งมอบบริการบนคลาวด์โดยไม่ต้องการความช่วยเหลือจากหน้าร้านเลย  การวิเคราะห์ จาก machine learning และเลเยอร์ทั้ง 7 ในการแก้ปัญหาช่วยลดต้นทุนในการปฏิบัติงานได้อย่างมาก”

ข้อมูลเพิ่มเติม

พบโซลูชั่นส์ CloudGenix SD-WAN และความสามารถใหม่ๆ ที่ www.paloaltonetworks.com/cloudgenix สามารถเข้าร่วมเปิดตัวในรูปแบบออนไลน์วันที่ 7 ตุลาคม 2563 โดยลงทำเบียนที่ register.paloaltonetworks.com/sd-wan.

การจัดจำหน่าย

การใช้ machine learning และความปลอดภัย Prisma Access สามารถทำได้ผ่าน CloudGenix 5.4 และCloudBlades 2.0.  ปัจจุบัน CloudGenix ION 1000 และ ION 9000 วางจำหน่ายแล้ว