ศาลสหรัฐฯ โดดขวางการแบน WeChat พร้อมเลื่อนการแบน TikTok ในอเมริกาเป็น 27 ก.ย.นี้

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ผู้พิพากษา Laurel Beelerในแคลิฟอร์เนียมีคำสั่งให้ระงับคำสั่งของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯที่สั่งแบนการดาวน์โหลดแอป WeChat ของจีน โดยผู้พิพากษา Beeler กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า คำสั่งที่กระทรวงพาณิชย์สั่งแบนการดาวน์โหลดใหม่ของแอปจากประเทศจีนจะยิ่งทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับสิทธิตามรัฐธรรมนูญ ที่รับรองเรื่องเสรีภาพในการแสดงออก

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ได้สรุปว่าการแบนแอป WeChat และ TikTok ที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ขู่ว่าจะแบนมาหลายเดือนแล้วนั้นจะมีผลอย่างไรบ้าง อย่างแรกตั้งแต่เที่ยงคืนของวันที่ 20 กันยายน ผู้ใช้งานในสหรัฐฯจะไม่สามารถดาวน์โหลดแอปดังกล่าวจาก App Store ของ Apple และ Google Play Store ของ Google ได้ และดูเหมือนว่าจะมีการบรรลุข้อตกลงเบื้องต้นในวันเสาร์ที่ผ่านมาสำหรับนิติบุคคล TikTok ใหม่ที่มีชื่อว่า ‘TikTok Global’ ที่เป็นส่วนหนึ่งของการร่วมมือกันระหว่าง TikTok ของ ByteDance จากประเทศจีนกับ Oracle และ Walmart ที่เป็นบริษัทฝั่งอเมริกา เป็นผลให้กระทรวงพาณิชย์เลื่อนการแบน TikTok ไปจนถึงวันที่ 27 กันยายน

มีกลุ่มผู้ใช้งานแอป WeChat ที่เรียกตัวเองว่า WeChat Alliance ได้ยื่นคำร้องต่อศาลเมื่อเดือนที่แล้ว โดยอ้างว่าการแบนดังกล่าวเป็นการละเมิดเสรีภาพของผู้ใช้ และละเมิดเรื่องเสรีภาพในการแสดงออก ไม่ว่าจะการพูดหรือการแสดงความเห็น มีการตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการแบนว่า อาจมีการกำหนดเป้าหมายไปที่ชาวอเมริกันที่มีเชื้อสายจีน เนื่องจาก WeChat เป็นแอปหลักที่ผู้ใช้ภาษาจีนในสหรัฐฯใช้ ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อกับผู้คนและการมีส่วนร่วมต่างๆ ทางโซเชียล การแชร์เรื่องราวดีๆ การโต้แย้งกันทางความคิดเห็น และการมีส่วนร่วมในการอภิปรายและการสนับสนุนทางการเมือง เป็นต้น ซึ่ง WeChat Alliance ไม่มีส่วนได้เสีย/ส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับบริษัท ไม่ว่าในฐานะใดๆ เป็นแต่เพียงผู้ใช้งาน

คำสั่งห้ามเบื้องต้นของผู้พิพากษา Laurel Beeler เป็นการระงับคำสั่งของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯที่สั่งห้ามการทำธุรกรรมใดๆ ในสหรัฐฯของแอป WeChat โดยทางรัฐบาลสหรัฐฯอ้างและระบุถึงเรื่องภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติเป็นประเด็นสำคัญ แต่ก็มีหลักฐานเพียงเล็กน้อยที่แสดงว่าการห้ามใช้งานแอป WeChat กับผู้ใช้งานที่อยู่ในสหรัฐอเมริกาจะช่วยจัดการกับข้อกังวลดังกล่าวให้หมดไปได้

ทางฝั่งกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯยังไม่ออกมาแสดงความเห็นใดๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้

ที่มา : The Verge