Burberry กับ Tencent เปิดประสบการณ์ครั้งแรกของโลกกับ Social Retail Store

เปิดประสบการณ์ครั้งแรกของโลกกับ Social Retail Store ด้วยความร่วมมือของ แบรนด์แฟชั่นสัญชาติอังกฤษ Burberry กับ Tencent บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของโลก

Burberry แบรนด์แฟชั่นชั้นนำของโลกที่ล่าสุดอยู่ในลิสต์แบรนด์ที่ได้รับความนิยมจัดโดยบริษัทแถวหน้า ของโลกอย่าง LYST  Burberry ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นแบรนด์แฟชั่นที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนานวัตกรรมและนำเสนอประสบการณ์ใหม่ให้กับผู้ที่ชื่นชอบแฟชั่นอยู่เสมอ Burberry ได้ก้าวข้ามขีดจำกัดของประสบการณ์การช้อปปิ้งไปอีกขั้น ด้วยการเผยโฉมร้านคอนเซ็ปต์ใหม่ในเมืองเซินเจิ้น  สาธารณรัฐประชาชนจีน หรือที่ได้รับฉายาว่าเป็นซิลิคอน วัลเลย์ของฝั่งตะวันออก โดยได้ร่วมพัฒนาคอนเซ็ปต์ของร้านแห่งใหม่นี้กับยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของโลกอย่าง Tencent มาร่วมสร้างความแตกต่างให้เหล่า Digital Native ที่ผนวกประสบการณ์การช้อปปิ้งในร้านเข้ากับวิถีชีวิตดิจิทัลได้อย่างไร้ขีดจำกัด ซึ่งร้านสาขานี้จะกลายเป็นต้นแบบให้กับ สโตร์ของ Burberry อีกหลายสาขาทั่วโลก

Burberry Tencent

Burberry เป็นแบรนด์ผู้บุกเบิก ให้ความสำคัญด้านความคิดสร้างสรรค์ ที่นำไปสู่การพัฒนาอย่างไม่สิ้นสุด โดยริเริ่มทดสอบความคิดใหม่ๆ และผลักดันข้ามขอบเขตข้อจำกัด ซึ่งในปีที่ผ่านมา เราเล็งเห็นถึงการเจริญเติบโตและความล้ำสมัยทางเทคโนโลยีของผู้บริโภคชาวจีน  เราได้ร่วมมือกับTencent บุกเบิก Retail Store ภายใต้คอนเซ็ปต์ใหม่เพื่อสร้างประสบการณ์อันเหนือความคาดหมายให้กับเหล่า Digital Savvy เหล่านี้ โดยประเทศจีนถือเป็นเป้าหมายที่เหมาะสม เนื่องด้วยกลุ่มลูกค้าคือผู้มีวิถีชีวิตแห่งยุคดิจิทัลอย่างแท้จริง และ Burberry สโตร์สาขาเซินเจิ้น (Shenzhen) คือจุดเริ่มต้นที่เราจะสร้างปรากฏการณ์การเปลี่ยนแปลง พร้อมพาเหล่าสาวก Burberry ไปสัมผัสกับประสบการณ์นวัตกรรมอันล้ำสมัย ” Marco Gobbetti CEO แบรนด์ Burberry กล่าว

‘Value for users, tech for good” คือพันธกิจของ Tencent ด้วยความมุ่งมั่นในการพัฒนาความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีมาโดยตลอด เราพร้อมที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์และการบริการที่เหนือความคาดหมายให้กับBurberry เพื่อตอบสนองความต้องการอย่างไม่มีที่สิ้นสุดของผู้บริโภค ในการร่วมมือกับBurberry ครั้งนี้เรามีความมุ่งหวังที่จะยกระดับร้านค้าหรือรีเทลสมัยใหม่ให้พัฒนาไปอีกขั้น พร้อมกับยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น ส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืน และแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมควบคู่กันไป” Martin Lau ประธานบริษัท Tencent กล่าว

เมื่อหน้าร้านคือหัวใจของการสร้างแบรนด์ยุคใหม่ Burberry จึงเปิดตัว Social Retail Store สโตร์แห่งอนาคต (a store of tomorrow for today) ครั้งแรกของโลก อย่างเป็นทางการ ณ เมืองเซินเจิ้น ย่าน Bay MixC ศูนย์กลางเทคโนโลยีที่เปรียบเสมือนซิลิคอน วัลเลย์ของซีกโลกตะวันออก ที่ผสานโลกโซเชียลเข้ากับโลกแห่งแฟชั่นอย่าง ไร้รอยต่อ (seemless) โดยประสบการณ์สำคัญที่เหล่ากลุ่มคนรักแฟชั่นจะได้ สัมผัสนั้น Burberry และ Tencent ได้นำการปฏิสัมพันธ์สื่อสังคมออนไลน์มาผนวกเข้ากับบรรยากาศและ ประสบการณ์ภายในร้านผ่านช่องทาง WeChat Mini Program ซึ่งลูกค้าสามารถเข้าถึงคอนเทนต์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ และประสบการณ์อันเหนือระดับได้ อีกทั้งยังสามารถแบ่งปันประสบการณ์สุดประทับใจในโมเมนต์ต่างๆ ผ่าน สื่อสังคมออนไลน์

คอนเซ็ปต์ร้านใหม่นั้นได้แบ่งพื้นที่ให้ผู้ชื่นชอบแฟชั่นได้สัมผัสการเดินทางด้วยประสบการณ์ที่แตกต่างกัน โดยพื้นที่ภายในร้านนั้นลูกค้าสามารถสนุกไปกับการเดินทางข้ามเวลาไปพร้อมกับแบรนด์ด้วยสื่อ interactive ผ่าน เอกลักษณ์ของแบรนด์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเทรนช์โค้ท ลายโมโนแกรม และ ลายพิมพ์ของเหล่าสรรพสัตว์นานาชนิด

Thomas Burberry เป็นนักประดิษฐ์ ผู้คิดค้น และนักล่าฝัน ซึ่ง Social Retail Store แห่งใหม่ได้สะท้อนถึงจิตวิญญาณความเป็นผู้บุกเบิกและความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาในด้านนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ของผู้ก่อตั้งแบรนด์ชาวอังกฤษ และยังเป็นพื้นที่สำหรับการทดลองและการเรียนรู้ รวมถึงเป็นร้านต้นแบบเพื่อพัฒนาเครือข่ายแบรนด์ Burberry ในประเทศจีน

“ผมได้แรงบันดาลใจจากความสมดุลของธรรมชาติและเทคโนโลยี และองค์ประกอบที่พร้อมจะเชื่อมโยงทั้งสอง โลกเข้าด้วยกัน โดยสโตร์แห่งนี้ได้หลอมรวมความสัมพันธ์ระหว่างดิจิทัลและมิติมุมมองกำเนิดเป็นแนวคิดใหม่ ผมต้องการที่จะนำความมีชีวิตชีวาสู่สโตร์แห่งนี้ ที่สามารถเห็นผ่านทางลายปริ้นท์ของเหล่าสรรพสัตว์นานาชนิดภายใน Thomas Burberry คาเฟ่และร่วมดื่มด่ำไปกับดีไซน์และวัสดุต่างๆ  อีกทั้งผมต้องการที่จะให้เหล่าชุมชนของ Burberry ร่วมเดินทางไปกับการผจญภัยครั้งนี้ด้วยกัน” Riccardo Tisci ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์แบรนด์ Burberry กล่าว

THE STORE

สโตร์คอนเซปต์ใหม่นี้ถูกเนรมิตด้วยพื้นที่ ขนาด 539 ตารางเมตร โดดเด่นด้วยวัสดุอันหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ไม้อัด ไปจนถึงกระจกและส่วนต่างๆที่ได้รับการขัดเงาอย่างประณีต พร้อมตกแต่งด้วยสีเบจ สีเขียวพิสตาชิโอ สีชมพู และสีฟ้า รวมไปถึงลายปริ้นท์ Thomas Burberry Monogram และลายปริ้นท์รูปสัตว์นานาชนิด ที่ล้วนเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ อีกทั้งประกอบไปด้วยห้องต่างๆมากถึง 10 ห้อง ที่สามารถให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์แบบส่วนตัวได้อย่างแท้จริง