รีวิว Casio G-SHOCK G-SQUAD GBD-100

รีวิว Casio G-SHOCK G-SQUAD GBD-100 เชื่อมต่อสมาร์ทโฟน พร้อมฟีเจอร์เทรนนิ่ง

รีวิว Casio G-SHOCK G-SQUAD GBD-100 ความน่าสนใจของ จี-ช็อครุ่นนี้ ก็คือสามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้ และมีฟีเจอร์สำหรับคนชอบออกกำลังกายให้มาด้วย

นาฬิกา G-SQUAD Training Series ถือว่ามีความน่าสนใจตั้งแต่มีข่าวเปิดตัวตั้งแต่ช่วงต้นปี 2020 ที่ผ่านมา เพราะว่าคราวนี้ นาฬิกา G-Shock จะมีฟีเจอร์การใช้งานที่เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน เพื่อใช้ในเรื่องของการออกกำลังการได้แล้ว เชื่อว่าเป็นสิ่งที่หลายคนรอให้คาสิโอทำอยู่

ในซีรี่ย์นี้เปิดตัวมา มีด้วยกัน 2 รุ่นคือ GBD-1000 ที่เป็นรุ่นใหญ่ ใส่ความสามารถจัดเต็มทั้ง GPS ในตัว, ระบบวัดอัตราการเต้นของหัวใจ, ชาร์จแบตด้วยพลังแสงอาทิตย์ ซึ่งพอเข้าไทยมากระแสดีมากๆ คือไม่กี่วันก็จองและขายแบบหมดเกลี้ยงอย่างรวดเร็ว และอีกรุ่นก็คือ ตัวที่ทีมงานล้ำหน้าฯ เราได้มา รีวิว คือ Casio G-SHOCK G-SQUAD GBD-100 ที่เป็นรุ่นน้องที่มีขนาดเล็กลงมา และใส่ฟีเจอร์การออกกำลังกายพื้นฐาน และการวิ่งมาให้ด้วย

รีวิว Casio G-SHOCK G-SQUAD GBD-100

Unbox แกะกล่อง G-SHOCK G-SQUAD GBD-100

สำหรับใครที่เป็นแฟนของจี-ช็อค ก็จะคุ้นเคยกับแพ็กเกจนาฬิกายี่ห้อนี้ดี เพราะจะมาในกล่องกระดาษสีดำ ที่จะมีแปะรหัสของสินค้าเอาไว้ ในกล่องจะเป็นกล่องโลหะรูปทรง 6 เหลี่ยมสีดำ ที่บนฝาจะมีโลโก้ G-Shock ติดอยู่ สำหรับรุ่นนี้ก็เป็นเหมือนกันกับทุกรุ่น ไม่ได้แตกต่าง

ในกล่องจะมีคู่มือการใช้งานเบื้องต้นเล่มเล็กแต่หนามาก เพราะใส่มาทุกภาษา และก็มีบัตรรับประกันแบบ International Warranty มาให้ด้วย

สำหรับรุ่น G-SHOCK GBD-100 ที่เข้ามาขายในประเทศไทยช่วงเปิดตัว จะมีด้วยกันทั้งหมด 3 รุ่นด้วยกันคือ

  • GBD-100-1 สีดำ
  • GBD-100-2 สีน้ำเงิน Navy
  • GBD-100-1A7 ตัวเรือนสีดำ สายสีขาว

วัสดุที่ใช้ ฝาหลังของนาฬิกาจะเป็น สแตนเลสสตีล ส่วนตัวกรอบวัสดุเรซินและไฟเบอร์กลาส ที่มีความเบาและทนทาน สายเป็นวัสดุยูรีเทนแบบนุ่ม สวมใส่สบายโดยรุ่นนี้ด้านหลังจะมีลวดลายเป็นเส้นเล็กๆ เพื่อช่วยให้ระบายอากาศและความอบชื้นได้มากขึ้น ส่วนกระจกหน้าปัดเป็นแบบ Mineral

ดีไซน์ของ G-SHOCK นั้นมีเอกลักษณ์ที่เด่นชัด คือมองปั้บก็รู้เลยว่านี่ล่ะ G-SHOCK ที่ใครก็ยากจะเลียนแบบ และมันก็คือสเน่ห์ของนาฬิกาข้อมือที่เป็นตำนานมาอย่างยาวนาน ทั้งการออกแบบ งานประกอบที่ปราณีต และการเล่นลวดลายสีสันที่ลงตัว

สำหรับ Casio G-SHOCK G-SQUAD GBD-100 ตัวที่ทางทีมงานฯ ได้มา รีวิว เป็น GBD-100-1 ตัวเรือนสีดำด้านทั้งตัวกรอบหน้าปัดและสาย จะมีตัดขอบด้านในกรอบเป็นโลหะสีเงิน และเฟรมด้านล่างตัวเรือนกับปุ่มกดด้านข้างที่เป็นสีแดง ดูเท่ดี ตัวเรือนก็มีน้ำหนักเบา เพียงแค่ 69 กรัม

ความแข็งแกร่งของ G-Shock นั้น ขึ้นชื่อลือชาคือทนต่อแรงกระแทกต่างๆ ได้ดีเยี่ยม สามารถใช้งานได้ในทุกสภาพอากาศทั้งร้องจัดหรือหนาวจัด ตัวเรือนสามารถกันน้ำได้ระดับ 20 บาร์ คือลึกได้ถึง 200 เมตร

ด้านข้างทางซ้ายจะเป็น ปุ่ม FWD กับ REV อยู่ด้านบนและล่างเพื่อกดเลื่อนเมนู ส่วนปุ่ม FWD กด 1 ครั้งจะเป็นการเปลี่ยนรูปแบบการแสดงผลของหน้าปัด ที่มีทั้งหมด 4 แบบ หรือกดค้างไว้ 3 วินาทีจะเรียกเมนู Setting ส่วนปุ่ม REV ในหน้าหลักจะเป็นการเลื่อนเปลี่ยนโหมดการใช้งานของนาฬิกาได้ด้วย

และตรงกลางจะเป็นปุ่ม RUN สำหรับกดเริ่มเข้าโหมดบันทึกกิจกรรมการวิ่ง ที่ออกมาให้มีขนาดใหญ่ มีลวดลายกันลื่นกดได้ง่าย

ทางด้านขวาจะมีปุ่มกดอยู่ 2 ปุ่มด้วยกันคือ Light สำหรับเปิดไฟดูนาฬิกาในเวลาที่มืด และปุ่ม Laps สำหรับกดบันทึกรอบของกิจกรรมในโหมดต่างๆ และยังเอาไว้ใช้เป็นคำสั่ง Back ในหน้า Setting ได้ด้วย

สำหรับการควบคุมจะมีปุ่มให้ใช้เพียงเท่านี้ มาดูกันที่หน้าจอกันต่อ เป็นจอแบบ MIP LCD (Memory in pixel LCD) แสดงข้อมูลเป็นขาวดำ จุดเด่นของจอแบบนี้ก็คือมองเห็นได้ชัดในที่ๆ มีแสงสว่าง ยิ่งออกกลางแจ้งหรือกลางแดดก็จะยิ่งเห็นได้ชัด ต่างจากนาฬิกาสมาร์ทวอชที่ใช้เป็น OLED ที่เมื่อออกแดดแล้วก็จะมองเห็นได้ยาก

การแจ้งเตือนจากสมาร์ทโฟน แสดงภาษาไทยได้

ฟีเจอร์หลักของการใช้งานด้านนาฬิกาของ Casio G-SHOCK G-SQUAD GBD-100

  • หน้าจอแสดงข้อมูลหลัก มี 4 แบบด้วยกันคือ แสดงเวลา/วันที่ , แสดงเวลา/วันที่ ของสถานที่ปัจจุบันและเมืองอื่น, แสดงข้อมูลการเดินแบบวัน/สัปดาห์ และ แสดงข้อมูลการเดินแบบเดือน
  • รีวิว Casio G-SHOCK G-SQUAD GBD-100
  • รีวิว Casio G-SHOCK G-SQUAD GBD-100
  • รีวิว Casio G-SHOCK G-SQUAD GBD-100
  • รีวิว Casio G-SHOCK G-SQUAD GBD-100
  • การจับเวลา แบบ Workout สำหรับตั้งเป็น Set เพื่อนับเวลาและเตือนในแต่ละเซ็ต สำหรับการออกกำลังกาย, เล่นฟิตเนส และฟึกซ้อมต่างๆ
  • Stopwatch นาฬิกาแบบจับเวลานับถอยหลัง กดจับเวลาโดยกด Laps เพื่อจับแยก Split เป็นช่วงๆ ได้
  • Activity เข้าไปดูข้อมูลย้อนหลังกิจกรรมการวิ่งที่เราเคยบันทึกไว้ได้
  • Notification เข้าไปดูข้อความแจ้งเตือนที่ส่งมาจากสมาร์ทโฟน
  • รีวิว Casio G-SHOCK G-SQUAD GBD-100
  • รีวิว Casio G-SHOCK G-SQUAD GBD-100
  • รีวิว Casio G-SHOCK G-SQUAD GBD-100
  • รีวิว Casio G-SHOCK G-SQUAD GBD-100
  • รีวิว Casio G-SHOCK G-SQUAD GBD-100
  • ตั้งปลุกได้ 4 เวลา
  • เซ็ตค่าแสดงเวลาทั่วโลกได้ 38 เมือง
  • ไม่ต้องชาร์จแบตเตอรี่ ใช้พลังงานจากถ่าน CR2032 ที่มีอายุการใช้งานได้นานสูงสุดถึง 2 ปี
  • ปรับเป็น Airplane Mode ได้
  • มีคำสั่ง Phone Find เพื่อสั่งให้สมาร์ทโฟนเครื่องที่เชื่อมต่อส่งเสียงดัง เวลาหาโทรศัพท์ไม่เจอ

Casio G-SHOCK G-SQUAD GBD-100 ทำงานร่วมกับแอพในสมาร์ทโฟน

ก่อนอื่นเราต้องบอกให้เข้าใจกันก่อนว่า เจ้า G-SHOCK GBD-100 ตัวนี้ “มันไม่ใช่สมาร์ทวอช” แต่มันคือ “นาฬิกาจี-ช็อคที่ทำงานเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้” เพราะว่าพื้นฐานการใช้งานทุกอย่างมันคือนาฬิกาจี-ช็อคทุกประการ โดยเพิ่มความสามารถหลายๆ อย่างโดยทำงานร่วมกับแอพในสมาร์ทโฟนได้ ไม่ได้ใช้ระบบปฎิบัติการใหม่ที่ทำขึ้นมา ดังนั้นความสามารถที่เป็นสมาร์ทวอชหลายอย่างจึงไม่มี

ตัวแอพพลิเคชั่นที่ต้องใช้ก็คือ G-SHOCK MOVE สามารถดาวน์โหลดมาติดตั้งใช้งานได้ฟรี รองรับทั้งใน iOS (ตั้งแต่ iOS 11 ขึ้นไป) และระบบ Android ตั้งแต่เวอร์ชั่น 7.0 ขึ้นไป ให้คุณทำการดาวน์โหลดมาติดตั้งกับสมาร์ทโฟนให้เรียบร้อย โดยการเริ่มใช้งาน จะต้องสมัครบัญชีสมาชิก CASIO ID เสียก่อน จะสมัครผ่านในแอพเลยก็ได้ หรือจะเข้าทางเว็บ https://cws.casio-intl.com/

ที่ต้องสมัครสมาชิก เพราะว่าระบบจะเอาไว้ใช้สำหรับเก็บข้อมูลกิจกรรมในส่วนของการออกกำลังกาย, การวิ่ง และการเดินของเรา เพื่อมาบันทึกและประมวลผลสถิติให้ โดยการเริ่มใช้งานเมื่อ Log In เรียบร้อยแล้ว จะมีสิ่งที่แนะนำให้จัดการตั้งค่าให้เรียบร้อยก่อนใช้งานดังนี้ (กดที่ more)

  • User Profile ระบุข้อมูลส่วนตัวเกี่ยวกับ อายุ เพศ ส่วนสูง น้ำหนัก และมือข้างที่สวมนาฬิกา เพื่อที่ให้ระบบประมวลค่าการออกกำลังกายได้แม่นยำมากขึ้น
  • ตั้ง Goal เป้าหมายในการออกกำลังกาย อย่าง Lifelog ก็ตั้งได้ว่าต้องการจะเดินอย่างน้อยวันละกี่ก้าว หรือให้แต่ละวันเผาผลาญแคลอรี่อย่างน้อยเท่าไร ส่วน Activity เป็นการตั้งเป้าการวิ่งว่าต่อเดือนจะวิ่งให้ได้ระยะทางเท่าไร หรือเป็นเวลากี่ชั่วโมงต่อเดือน
  • ตั้งค่าในส่วนของนาฬิกา ความสะดวกคือคุณปรับทุกอย่างได้จากในแอพ แล้วส่งค่าที่ตั้งปรับไปที่นาฬิกาได้เลย ทั้งฟังค์ชันระหว่างการออกกำลังกาย, การตั้งค่าแสดงหน้าจอระหว่างวิ่ง, ตั้งปลุก, ตั้งให้พัก Sleep ฯลฯ
  • Link with External App สำหรับคนที่ต้องการแชร์ข้อมูลกิจกรรมการวิ่งของเราไปยังแพลตฟอร์มอื่น ก็สามารถทำได้ โดยจะรองรับทั้ง Apple Health, Google Fit และ Strava

การทำงานนาฬิกาจะเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่านทาง Bluetooth ดังนั้นจะต้องเปิดบลูทูธเอาไว้ด้วยระหว่างที่ใช้งาน โดยจะมีการแสดงข้อความแจ้งเตือนในมือถือไปบอกที่หน้าปัดนาฬิกาได้ และดีมากคือการแจ้งเตือนสามารถแสดงเป็นตัวอักษรภาษาไทยได้ด้วย

ทดสอบลองใช้ ในการวิ่งออกกำลังกาย

การวิ่ง ในแอพ G-SHOCK MOVE จะมีให้เลือก PLAN สำหรับจัดตารางการฝึกวิ่งได้ด้วย ว่าอยากจะจัดตารางวิ่งเพื่อฝึก Cadio หรือฝึกซ้อมเพื่อวิ่งในระยะต่างๆ ให้เลือกตั้งเป้าหมายที่ต้องการ ระยะเวลาการซ้อม แล้วระบบจะจัดเวลาให้เลยว่าวันไหนต้องซ้อมเท่าไหร่ ระยะเท่าไร ช่วยให้เราซ้อมวิ่งได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิม

ในตัวนาฬิกานั้น จะมีเซ็นเซอร์ Accelerometer สำหรับเก็บข้อมูลการเคลื่อนไหวและนับก้าวเดินให้อัตโนมัติ ส่วนในเรื่องของการออกกำลังกาย เราจะใช้ G-SHOCK GBD-100 สำหรับกิจกรรมวิ่งกลางแจ้งได้ โดยจะเลือกได้ว่าการคำนวนระยะทางจะใช้จาก GPS บนโทรศัพท์ที่เชื่อมต่อ หรือประเมินระยะทางจาก เซ็นเซอร์ Accelerometer แน่นอนว่าเราแนะนำให้เลือก GPS จากโทรศัพท์จะได้เรื่องความแม่นยำมากกว่า และจะได้ข้อมูลแผนที่เส้นทางระหว่างที่วิ่งมาด้วย ส่วนถ้าใครวิ่งในร่มหรือวิ่งบนลู่วิ่ง ก็ใช้วิธีคำนวนจาก Accelerometer แทน

ในการวิ่งตัวหน้าปัดเราเลือกปรับ Setting ในแอพได้ว่าจะแสดงผลแต่ละหน้าในข้อมูลอะไรบ้าง ได้อย่างที่เราต้องการ สำหรับการจับเวลาและระยะทาง เราเลือกตั้งการนับรอบได้ทั้งแบบกดบันทึกเอง หรือเลือกบันทึกอัตโนมัติก็ได้

เมื่อวิ่งเสร็จกดบันทึกกิจกรรม ข้อมูลก็จะถูกบันทึกไว้ในระบบของ G-SHOCK MOVE หรือถ้าเชื่อมต่อ Strava ไว้ก็จะซิงค์ข้อมูลให้ทันที การใช้งานก็ถือว่าไม่ยุ่งยาก โดยข้อมูลในการวิ่งจะเก็บมาให้ทั้งระยะทาง, เวลา, ค่าเฉลี่ย PACE ต่อ 1 กิโลเมตร, PACE รอบที่เร็วที่สุด, แคลอรี่ที่เผาผลาญได้, รอบขาต่อนาที, ระยะขึ้นเนินลงเนิน และระยะขึ้นเนินลงเนินสูงที่สุด

สรุป Casio G-SHOCK G-SQUAD GBD-100 น่าสนใจแค่ไหน และเหมาะสำหรับใคร?

เรื่องของดีไซน์ความสวยงาม คงต้องบอกว่าเหมาะเจาะลงตัว และเปี่ยมล้นด้วยความเป็น G-SHOCK แบบล้นปรี่ ใครที่ชอบดีไซน์ลุยๆ แบบนี้ก็ต้องบอกเลยว่าไม่ผิดหวัง สำหรับฟีเจอร์การเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนที่เพิ่มขึ้นมา สิ่งดีที่ชอบเลยก็คือการแจ้งเตือนที่แสดงผลเป็นภาษาไทย ถึงแม้ว่าจะสั่งโต้ตอบจากนาฬิกาไปยังมือถือไม่ได้ แต่ก็ช่วยให้สะดวก ไม่ต้องเสียเวลาหยิบมือถือขึ้นมาบ่อยๆ เพื่อดูการแจ้งเตือน

แบตเตอรี่ก็ถือว่ากินขาด คือใช้งานกันลืมไปเลยแบบข้ามปีโดยไม่ต้องชาร์จแค่เปลี่ยนถ่านเอา ความอึดถึกทนทั้งด้านการกันกระแทก กันน้ำลึก ใช้งานกลางแจ้งหน้าจอก็ดูได้คมชัด ส่วนการใช้งานตั้งค่านาฬิกาต่างๆ สามารถเลือกตั้งจากในแอพแล้วซิงค์เข้าไปที่ตัวนาฬิกาได้ ก็ทำให้สะดวกมากขึ้นกว่าเดิม

ข้อจำกัดที่คุณต้องรู้ เกี่ยวกับ G-SHOCK GBD-100

  • Life Log ทำหน้าที่เฉพาะนับจำนวนก้าวเดิน และคำนวนแคลอรี่ที่เผาผลาญแต่ละวัน ไม่มีฟีเจอร์ด้าน Fitness Tracker
  • ด้วยที่รุ่นนี้ไม่มี Heart Rate Monitor จึงวัดค่าหลายๆ อย่างระหว่างการวิ่งไม่ได้ ทั้งอัตราการเต้นของหัวใจ และ VO2MAX
  • Activity รองรับเฉพาะการวิ่งกลางแจ้ง ด้วยการเชื่อมต่อสัญญาณ GPS จากมือถือ ส่วนวิ่ง Treadmill จะใช้วัดด้วย Accelerometer
  • ไม่มีรองรับกิจกรรมการออกกำลังกายอื่นๆ อย่างปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ เล่นฟิตเนส หรือการเล่นกีฬาต่างๆ

อย่างที่บอกไปในตอนต้นว่า G-SHOCK GBD-100 นั้นไม่ใช่สมาร์ทวอช แต่เป็นจี-ช็อค ที่เชื่อมต่อทำงานกับแอพบนสมา์ทโฟนได้ ฟีเจอร์หลายๆ อย่างจึงไม่ได้มีมาก แต่ก็ตอบโจทย์คนที่อยากได้นาฬิกาเอาไว้เก็บข้อมูลก้าวเดินในแต่ละวัน และใช้ใส่วิ่งออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ หรือฝึกฝนร่างกายในระดับเบื้องต้นได้อยู่ เพราะถ้าอยากได้ฟังค์ชั่นแบบเต็มๆ ระดับใส่เพื่อฝึกวิ่งแข่ง หรือใช้ใส่ลงแข่งขัน ตัวรุ่นพี่อย่าง GBD-1000 น่าจะลงตัวมากกว่า

ราคา ของ Casio G-SHOCK G-SQUAD GBD-100 ในประเทศไทย อยู่ที่ 7,000 บาท นำเข้าและจัดจำหน่ายโดย CMG (Central Marketing Group) สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติม และสถานที่จัดจำหน่ายได้ที่ https://casio-cmg.com/