พรีวิว OnePlus 8 Pro

รีวิว OnePlus 8 Pro จอสวย 120Hz ดีไซน์หรู สเปคแรงไม่มีสะดุด!

ของแรงมาอีกแล้ว แกะกล่อง รีวิว OnePlus 8 Pro สมาร์ทโฟนเรือธงลำใหม่ ที่จัดใหญ่จัดเต็ม ทั้งเรื่องดีไซน์ที่สวยลงตัว จอดีไม่ผิดหวัง และประสิทธิภาพในระดับที่ไหลลื่น ไม่มีผิดหวัง

OnePlus 8 Pro เตรียมเปิดตัวในช่วงกลางเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้ และนี่เป็นอีกครั้งที่วันพลัส เดินหน้าพัฒนาสมาร์ทโฟนที่เน้นให้ผู้ใช้ได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดในทุกด้าน ตั้งแต่เรื่องของสเปคที่อยู่ในระดับแนวหน้าและดีสุดในตลาดตอนนี้ ดีไซน์ที่สวยดูดี งานประกอบที่ปราณีต และหน้าจอที่คุณภาพดี ทำให้การใช้งานได้ความรู้สึกที่ไม่มีสะดุดใดๆ

รีวิว OnePlus 8 Pro เราจะมาแกะกล่องดูกันก่อนว่ามีอะไรมาให้บ้าง ก่อนอื่นต้องบอกว่าตัวแพ็กเกจนี้เป็นเซ็ตพิเศษที่ทาง OnePlus ประเทศไทยส่งมาให้กับสื่อมวลชนเพื่อได้ทดสอบ ที่เห็นจะมีเป็น Booklet ข้อมูลการออกแบบของ OnePlus 8 Pro ที่แฟนๆ เห็นนี่คงอยากได้ไว้สะสมแน่ๆ และยังมีเคสอีก 2 แบบมาด้วย (ซึ่งจะมีเข้ามาจำหน่ายด้วยเช่นกัน)

เคสของ OnePlus 8 Pro เป็นแบบ Bumper กันกระแทก มีเป็นสีคาร์บอนเคฟล่า สไตล์รถแข่ง และแบบ Sandstone ที่สีจะเป็นแบบพาสเทลดูซอฟท์ๆ

UNBOX แกะกล่อง OnePlus 8 Pro

พรีวิว OnePlus 8 Pro

มาเริ่มแกะกล่อง พรีวิว กันเลยดีกว่า พูดถึง OnePlus ก็ต้องมาคู่กับสีแดงแรงฤทธิ์ ตัวกล่องยังเป็นรูปทรงเดิมแนวยาว ที่กล่องเป็นสีแดงสดแสบสัน มีเลข 8 ตัวใหญ่ๆ ที่หน้ากล่อง และด้านข้างจะเป็นโลโก้ของ OnePlus แบบใหม่ และชื่อรุ่นคือ OnePlus 8 Pro

พรีวิว OnePlus 8 Pro

ด้านหลังมีแปะรายละเอียด บอกชัดเจนว่าใช้ระบบ Android ที่พร้อมรองรับใช้งานกับแอพพลิเคชั่นต่างๆ ของ Google (นี่ไม่ได้จะแซะใครใช่มั้ย? ฮา) โดยรุ่นนี้จะเป็น RAM 12GB และ ROM 256GB มีโลโกของ Qualcomm Snapdragon และ Dolby Atmos มาด้วย

พรีวิว OnePlus 8 Pro

เปิดกล่องมา ยังเป็นกล่องแบบเลย์เอาท์เดิมแบบ OnePlus 8 ตรงถาดใส่เครื่องมีพิมพ์ลึกลงไปเป็นคำว่า Never Settle คำขวัญประจำใจของชาววันพลัส

พรีวิว OnePlus 8 Pro

ตัวถาดรองรองเครื่อง หยิบออกมาด้านในจะเป็นพวกอุปกรณ์เสริม ส่วนที่ตัวถาดเปิดออกได้ มีของอยู่อีกหลายอย่างใส่เอาไว้

ยอมรับเลยว่า OnePlus เป็นแบรนด์ที่ทำแพ็กเกจได้เรียบ แต่ดูมีเอกลักษณ์และแสดงความเป็นตัวตนได้ชัดเจนมาก ตัวเอกสารต่างๆ ทั้งคู่มือการใช้งานด้านความปลอดภัย, คู่มือการใช้งานเบื้องต้น, เอกสารอื่นๆ เป็นสีแดง ตัวหนังสือสีขาว แล้วยังมีสติกเกอร์โลโก้ให้มาด้วย เอาไว้สำหรับไปแปะนั่นนี่ ให้ทุกคนรู้ว่า ฉันนี่ล่ะ ใช้ OnePlus

เข็มจิ้มถาดซิม มีเหน็บใส่มาให้รวมอยู่กับเอกสารจดหมายจากใจผู้บริหาร ถึงผู้ใช้งาน OnePlus

มีเคสใสสำหรับใส่กันรอยเครื่องมาให้ด้วย มีตัวหนังสือ “Never Settle” วางพาดเป็นสีขุ่นอยู่ด้วย สวยดี

อแดปเตอร์ชาร์จที่แถมมาให้ แน่นอนว่ารองรับเทคโนโลยี Warp Charge 30T พร้อมใช้งานได้เลย

ตัวกำลังไฟที่ Output มาเมื่อใช้งานชาร์จกับ OnePlus 8 pro จะได้ที่ 5.0V-6.0A 30W ถ้าเอาไปชาร์จกับรุ่นอื่นๆ จะได้แค่ 5.0V-2.0A 10W

สาย USB สำหรับชาร์จไฟ + Data เป็นสายสีแดง หัวสีขาว สีเข้าธีมเช่นกัน และถ้าต้องการชาร์จไฟให้ได้เต็มประสิทธิภาพตามมาตรฐาน Warp Charge 30T ก็ต้องใช้อแดปเตอร์+สายชาร์จที่ให้มาในกล่องนะ เอาสายธรรมดามาเสียบก็จะไม่ได้กำลังไฟเต็มที่

Design การออกแบบ

มาดูกันที่ตัวหน้าจอกันก่อนเลย เป็นการใช้หน้าจอแบบ Fluid Display ที่เป็นขอบด้านข้างโค้ง ตัวพาเนลเป็น AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด QHD+ ( 3168×1440 ) 513ppi เป็นจอเกรดคุณภาพดีระดับแนวหน้าของวงการสมาร์ทโฟนตอนนี้ รองรับทั้ง HDR10+ ให้ค่าสีที่ระดับ 10-Bits Color พร้อม HDR Boost ที่เร่งให้สว่างและสีสดใสมากขึ้น มีเพิ่ม Reading Mode ช่วยให้มองเห็นได้สบายตาทั้งกลางวันและกลางคืน รวมถึงมี MEMC Technology ช่วยให้ภาพแสดงผลลื่นไหลมากขึ้น

และที่สำคัญจอของ OnePlus 8 Pro จะมาพร้อมค่า Refresh Rate ที่ 120 Hz ทำให้การแสดงผลภาพที่มีการเคลื่อนไหว มีความสวยมากขึ้น ไม่มีเงาเบลอ ดูไหลลื่น ซึ่งทำให้เวลาใช้งานต่างๆ หรือการเล่นเกม ให้เรามองเห็นได้อย่างสวยชัดที่สุด

กล้องหน้า OnePlus 8 Pro เป็นแบบ Push-Hole เจาะเป็นรูอยู่บริเวณทางมุมซ้ายบนของหน้าจอ มีขนาดที่ไม่ใหญ่มาก เพียงแค่ 3.8 มิลลิเมตรเท่านั้น จึงไม่รู้สึกเกะกะสายตา โดยกล้องมีความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 สำหรับเซลฟี่

และที่แถบด้านบนเหนือจอจะเป็นช่องลำโพงสนทนา ซึ่งจะทำงานเป็นลำโพงเสียงมีเดียด้วย เวลาดูหนังฟังเพลงเล่นเกม ก็จะได้เสียงแบบสเตอริโอ ส่วนเซนเซอร์อื่นๆ จะเป็นแบบซ่อนไว้ใต้จอ ทำให้พื้นที่หน้าจอใหญ่ได้เต็มตาเต็มพื้นที่มากขึ้น

เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ เป็นแบบซ่อนไว้ใต้จอ แบบ In-display fingerprint ที่ใช้สแกนสำหรับการปลดล้อคเครื่องได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ

ขนาดของตัวเครื่อง อยู่ที่ 165.3 x 74.35 มิลลิเมตร และหนา 8.5 มิลลิเมตร และน้ำหนักที่ 199 กรัม เป็นขนาดที่จับได้พอดีมือ ไม่เล็กหรือใหญ่เกินไป น้ำหนักก็ถือว่ากำลังดี ถือใช้งานมือเดียวได้สะดวกอยู่

ด้านหลังตัวเครื่อง ดีไซน์ครั้งนี้มาแบบเรียบๆ แต่หรูสวยดีมาก สีของ OnePlus 8 Pro จะมีด้วยกัน 2 สีคือ สีเขียว Glacial Green (เครื่องที่เราได้มา พรีวิว) และ สีน้ำเงิน Ultramarine Blue ความแปลกตาในรุ่นนี้ก็คือ ฝาหลังใชัวัสดุเป็นกระจก Corning Gorilla Glass ที่เป็นสีแบบด้าน ไม่ได้เงาแว๊บ ทำให้ไม่เกิดรอยนิ้วมือ คือจับไปแทบจะไม่คราบนิ้วมือเลอะติดเลย ส่วนสีจะเล่นเหลือมเงาให้ความรู้สึกเหมือนโลหะ

ตัวสี Glacial Green จะเป็นสีเขียวที่มีความเหลือบของสีน้ำเงิน ที่ดูแล้วให้ความรู้สึกเป็นสีครามๆ ดูเป็นสีธรรมชาติที่ดูสดชื่นดี

พรีวิว OnePlus 8 Pro

ชุดโมดูลกล้องเปลี่ยนมาใช้เป็นแบบเรียงแนวตั้ง วางตรงกลางเครื่องในตำแหน่งที่สมมาตร กล้องของ OnePlus 8 Pro จะเป็นแบบ 4 เลนส์ Quad Camera ประกอบด้วย

  • กล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล เซนเซอร์ Sony IMX689 เลนส์ 7 ชิ้น รูรับแสง f/1.78 มี OIS
  • กล้อง Ultra Wide Angle 48 ล้านพิกเซล มุมกว้าง 120 องศา รูรับแสง f/2.2
  • กล้อง Telephoto 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.44 มี OIS
  • กล้อง Color Filter 5 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4

โดยจะมีไฟแฟลช LED และระบบเซนเซอร์สำหรับการถ่ายภาพและโฟกัส อย่าง Laser Sensor, Flicker detect Sensor, Front RGB Sensor การวางตำแหน่งถือว่าทำได้ลงตัวสวยงามดี

และจะมี โลโก้ใหม่ของ OnePlus ต่อลงมา หลายคนอาจจะสงสัยว่า โลโก้เปลี่ยนเหรอ ทำไมเหมือนเดิม ต้องบอกว่าเปลี่ยนเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ตรงฟอนท์ของเลข 1 และขนาดของเส้นให้หน้าขึ้นนิดนึง

พรีวิว OnePlus 8 Pro

ด้านล่าง จะมีคำว่า “ONEPLUS” ที่เป็นโลโก้ใหม่เช่นกัน พร้อมรายละเอียดรุ่นโมเดลติดอยู่ จริงๆ มองเห็นไม่ชัด เพราะการทำสีมีความเหลือบ จึงมีบางช่วงที่เมื่อโดนแสงสะท้อนแล้วจะสว่างชัดขึ้นมา

พรีวิว OnePlus 8 Pro

เฟรมเครื่องเป็นโลหะทำสีเดียวกันครับตัวฝาหลัง ด้านข้างทางซ้ายจะมีปุ่มปรับระดับเสียง ส่วนทางขวาจะมีปุ่ม Power กับปุ่มเลื่อนปรับเลื่อนโหมดเป็น Ring, Silent และ Vibrate ถือเป็นเอกลักษณ์ของ OnePlus เพราะเราไม่ค่อยเห็นสมาร์ทโฟนของ Android ทำปุ่มปรับโหมดมาให้ ซึ่งเวลาใช้ก็สะดวกดีอยู่

พรีวิว OnePlus 8 Pro

ด้านล่างเครื่องมีช่องลำโพง, พอร์ต USB แบบ Type-C ช่องไมค์สนทนา และถาดซิม เป็นแบบ 2 ซิมขนาด Nano SIM ไม่สามารถเพิ่มหน่วยความจำ microSD ได้

แบตเตอรี่ภายในใส่มาให้ 4,510 mAh ถือว่าค่อนข้างใหญ่ และให้เทคโนโลยีการชาร์จไว Warp Charge 30T ที่ชาร์จเพียงแค่ 23 นาที ก็จะได้แบตเตอรี่ถึง 50% และในรุ่นนี้ยังใส่ Warp Charge 30 Wireless charging ชาร์จเร็วแบบไร้สายมาให้ด้วย ที่ใช้เวลาเพียงแค่ 30 นาทีจะได้แบตเตอรี่ 50% เรียกได้ว่าสูสีกับการชาร์จแบบสาย และยังสั่ง Reverse Wirless Charging ปล่อยกระแสไฟเพื่อชาร์จไร้สายให้กับอุปกรณ์อื่นได้อีกด้วย

พรีวิว OnePlus 8 Pro

สรุป สเปค OnePlus 8 Pro

  • ขนาด 165.3 x 74.35 มิลลิเมตร หนา 8.5 มิลลิเมตร
  • หนัก 199 กรัม
  • วัสดุด้านหลัง 3D Corning Gorilla Glass
  • หน้าจอ Fluid AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว (3168 x 1440) 513ppi อัตราส่วน 19.8:9
  • ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 865 พร้อมชิปโมเดม 5G X55
  • GPU Adreno 650
  • RAM 12 GB LPDDR5
  • หน่วยความจำภายใน 256 GB UFS 3.0
  • กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล เซนเซอร์ Sony IMX471 f/2.45
  • กล้องหลัง 4 เลนส์ Quad-camera พร้อม Dual LED Flash
    • กล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล เซนเซอร์ Sony IMX689 เลนส์ 7 ชิ้น รูรับแสง f/1.78 มี OIS
    • กล้อง Ultra Wide Angle 48 ล้านพิกเซล มุมกว้าง 120 องศา รูรับแสง f/2.2
    • กล้อง Telephoto 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.44 มี OIS
    • กล้อง Color Filter 5 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
  • ฟีเจอร์และโหมดต่างๆ ของกล้อง
    • ซูม 3x Optical ซูมได้สูงสุด 30x Digital
    • ถ่าย Macro ได้ใกล้สุดระยะ 3 เซนติเมตร
    • ถ่ายวิดีโอ 4K video 30/60 fps, 1080p 30/60 fps, Super Slow Motion: 720p 480 fps, 1080p 240 fps,
    • CINE aspect ratio video recording, Video HDR, UltraShot HDR, Nightscape, Super micro, Portrait, Pro Mode, Panorama, AI Scene Detection, RAW Image, Audio 3D, Smart Pet Capture, Color Filter Camera
  • พอร์ตเชื่อมต่อ USB 3.1 GEN1 Type-C (ไม่มีช่องหูฟัง)
  • ตัวเครื่องกันน้ำกันฝุ่น มาตรฐาน IP68
  • รองรับ 2 ซิม ขนาด Nano SIM (เพิ่ม microSD ไม่ได้)
  • ระบบสั่นแบบ Haptic Vibration
  • ลำโพงคู่แบบ Stero รองรับ Dolby Atmos
  • มีระบบ ตัดเสียงรบกวน Noise cancellation บันทึกเสียงแบบ Audio 3D, Audio Zoom
  • แบตเตอรี่ 4,510 mAh ระบบชาร์จเร็ว Warp Charge 30T พร้อมชาร์จไร้สาย Warp Charge 30 Wireless
  • เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ซ่อนใต้หน้าจอ
  • เชื่อมต่อไร้สาย 4×4 MIMO, supports up to DL Cat18/UL Cat13(1.2 Gbps /150 Mbps)
  • รองรับ Wi-Fi 2x2MIMO, 802.11 a/b/g/n/ac/ax, 2.4G/5G, Wi-Fi 6
  • Bluetooth 5.1, NFC
  • ระบบระบุพิกัด GPS (L1+L5 Dual Band), GLONASS, Galileo (E1+E5a Dual Band), Beidou, SBAS, A-GPS
  • ระบบปฏิบัติการ OxygenOS พื้นฐานบน Android 10
  • มี 2 สีให้เลือก Glacial Green และ Ultramarine Blue
พรีวิว OnePlus 8 Pro

ประสบการณ์ใช้งานด้านต่างๆ ดีแค่ไหนกับสมาร์ทโฟน Super Flagship ของ OnePlus ปี 2020

OnePlus ตอนนี้เรียกได้ว่าก้าวข้ามการเป็น Flagship Killer ที่เน้นสเปคแรงแล้วทำราคาถูก มาเป็น Super Flagship ที่จัดสเปคแบบดีที่สุด พร้อมเทคโนโลยีและนวัตกรรม สร้างประสบการใช้งานที่น่าประทับใจ เรียกได้ว่าใช้แล้วถูกใจแบบยากจะปฏิเสธ ซึ่ง OnePlus 8 Pro ก็ไม่ทำให้เรารู้สึกผิดหวังแต่อย่างใด

หลังจากที่ได้ทดสอบ รีวิว ทีมงานล้ำหน้าฯ ยกให้ OnePlus 8 Pro เป็นสมาร์ทโฟนที่ใช้ลองรีวิวแล้วหลงรักในทันที ด้วยสเปคที่แรงและการปรับแต่งซอฟท์แวร์ให้ทำงานทุกอย่างดูไหลลื่น รวดเร็ว กว่าสมาร์ทโฟนทั่วๆ ไป มันลื่นจนทำให้กลับไปจับสมาร์ทโฟนรุ่นทั่วๆ ไปในท้องตลาดแล้วเผลอรู้สึกได้เลยว่า เอ๊ะ ทำไมมันหน่วงๆ ซึ่งอันที่จริงคือ OnePlus 8 Pro มันให้ความรู้สึกที่เร็วกว่าเครื่องทั่วๆ ไปนั่นเอง

ตัว OxygenOS นั้น ถือว่าเป็น ROM ที่ทำดีและดีขึ้นเรื่อยๆ อาจจะไม่ได้หวือหวาอภินิหารมากนัก แต่ก็พร้อมสำหรับการใช้งานทุกอย่างได้ลงตัว ไม่รู้สึกติดขัดอะไร และทีมพัฒนาทีมนี้ยังขึ้นชื่อเรื่องของความขยันอัพเดต แก้ไขบั้ก ปรับเพิ่มฟีเจอร์และความเสถียร มีออกมาบ่อยและเร็วมาก และยังตามอัพเดตต่อเนื่องให้หลายปี เยอะกว่าหลายๆ แบรนด์ในท้องตลาด

ต่อด้วยขุมพลังขั้นจัดเต็มกับ Snapdragon 865 5G อัดแรมมาให้อีก 12GB และ ROM 256GB มันเป็นสเปคที่ดีระดับแถวหน้าสุดของสมาร์ทโฟนปี 2020 แล้ว เร็วในระดับที่เรียกว่า เร็วเกินไปสำหรับสมาร์ทโฟนแล้วด้วยซ้ำ (ฮา) คือมันเหลือเฟือสำหรับการใช้งานกับทุกแอพ และการเล่นเกมก็ไร้ปัญหา ผสานกับหน้าจอที่เป็น 120Hz แม้ว่ายังไม่มีเกมออกมารองรับ แต่ก็สัมผัสได้ว่าทุกอย่างที่เล่นบน OnePlus 8 Pro มันดูเร็วขึ้นจริงๆ

มาเรื่องของกล้องกันบ้าง ถ้าให้เทียบกับรุ่นก่อนอย่าง OnePlus 7T ถือว่าดีขึ้นแบบน่าประทับใจ ไม่ใช่แค่เรื่องตัวฮาร์ดแวร์ที่ดีขึ้น แต่ตัวซอฟท์แวร์เองก็พัฒนาให้เก่งขึ้นด้วย การถ่ายเซลฟี่มีบิ้วตี้ แต่ปรับเป็นระดับไม่ได้ปรับได้ยิบย่อย มีฟิลเตอร์ให้เล่นบ้างพอกรุบกริบ

มาทางกล้องหลัง ทดสอบลองใช้มาสักพักก็ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนอีกรุ่นที่ถ่ายภาพถ่ายวิดีโอได้สนุก ฟีเจอร์โหมดต่างๆ มีให้เล่นหลากหลาย ไม่ได้เยอะจนรกหรือเกะกะ ภาพถ่ายโทน HDR นั้น ให้ภาพที่แสงสีสวยคมชัดเจนมากๆ AI ในการช่วยจัดปรับโหมดภาพก็ทำงานได้รวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น

ตัวอย่างภาพถ่าย OnePlus 8 Pro

สำหรับโหมดที่เป็นกระแสไวรัลอย่าง Photochrom ที่เป็นการเอาเลนส์กล้องเสริม Color Filter มาถ่ายภาพตัดสีออก จนได้ภาพโทนสีซีดๆ ที่ดูแปลกตา แต่ปรากฎว่ามันดันไปถ่ายพลาสติกสีดำบางประเภทจนเห็นเป็นทะลุได้ คนก็เลยเข้าใจว่ามันเป็นอินฟราเรด แล้วกลัวว่ามันจะทะลุเสื้อผ้าได้ ซึ่งเราก็พยายามลองถ่ายหลายครั้งแล้ว เสียดาย เรายังไม่สามารถถ่ายจนเห็นทะลุเสื้อผ้าได้จริงๆ เสียที ที่ล่าสุด OnePlus ก็ได้อัพเฟิร์มแวร์เพื่อปิดฟีเจอร์นี้ไปก่อน

สรุปความประทับใจ OnePlus 8 Pro คุ้มมั้ยถ้าจะซื้อ?

ราคา เปิดตัวของ OnePlus 8 Pro นั้น ราคาเต็มอยู่ที่ 34,990 บาท เราคงบอกว่าเป็นราคาที่ไม่แพงเมื่อเทียบกับประสิทธิภาพที่มันทำได้ แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่สูงสำหรับสมาร์ทโฟน Android รุ่น Flagship ซึ่งจะโทษใครไม่ได้นอกจากตัวชิปเซ็ต Snapdragon 865 5G ผู้มาก่อนกาล ด้วยความใหม่จัดและรองรับเทคโนโลยีแห่งอนาคต จึงทำให้ต้นทุนส่วนนี้พุ่งปี้ดขึ้นมา จนยากที่จะกดราคาขายให้ต่ำกว่านี้ได้

แต่ถึงอย่างไร เราก็คงบอกว่า OnePlus 8 Pro เป็นสมาร์ทโฟนอีกตัวที่น่าซื้อของปี 2020 นี้ ด้วยประสิทธิภาพในระดับแถวหน้าที่คิดว่าจะยังอยู่ระดับต้นๆ แบบนี้ไปอีกนาน และไม่น่าจะมีสมาร์ทโฟนระดับ Mid-tier มาเทียบได้ในระยะ 1-2 ปีนี้ ถ้าคุณอยากได้สมาร์ทโฟนที่ใช้งานให้ประสบการณ์ลื่นไหลแบบสัมผัสได้ ใช้งานทุกอย่างไม่มีขัดอกขัดใจ

ส่วนเรื่องที่จะติอยู่ ก็คือเรื่องของความร้อน ที่ยังไงก็ยังพอจะมีอยู่บ้างระหว่างที่เล่นเกม คือมันก็ไม่ถึงกับเย็นเจี๊ยบ แต่ก็มีอุ่นๆ มือ แต่ถ้าใช้งานถ่ายภาพหรือออกแดดกลางแจ้งนั้น เครื่องจะร้อนค่อนข้างเร็วกว่าปกติ ต่อมาก็คือเรื่องของ 5G ที่ตอนนี้ยังต้องรอการอัพเดตซอฟ์ทแวร์จากเครือข่าย ซึ่งคาดว่าอาจจะเป็นช่วงครึ่งปีหลัง 2020 ถึงจะได้ใช้ ดังนั้นก็ต้องอดใจรอกันหน่อย

สรุปแล้ว OnePlus 8 Pro เป็นสมาร์ทโฟนที่มีจุดดีให้พูดมากกว่าข้อติ เรื่องราคา อย่างที่บอกมันราคาสูง แต่ก็สมเหตุสมผลกับประสิทธิภาพที่ทำได้ ถ้าอยากได้เครื่องราคาถูกลง แนะนำซื้อกับ AIS ซึ่งจะมีโปรโมชัน สมัครแพ็กเกจแล้วได้ลดค่าเครื่องไปร่วมหมื่นบาท รวมถึงช่องทางอื่นๆ สามารถดูได้ที่ http://onlineoneplus.com/

Blogger สาย Multi Function ตามติดเทคโนโลยีมือถือ, แท็บเล็ต, แอพ, เกมคอนโซล, โลกโซเชียล และจักรยาน