ย้อนอดีตกลับไปเมื่อ 10 ปี ที่แล้ว วันที่ 27 มกราคม 2010 สตีฟ จ็อบส์ ได้เปิดตัว iPad อุปกรณ์ที่เปลี่ยนโลกของคอมพิวเตอร์พกพา มาสู่ยุคสมัยของแท็บเล็ตอันน่าทึ่ง
เราจะมาย้อนอดีต สรุปเรื่องราวในทศวรรษที่ผ่านมา ว่า iPad เปลี่ยนอะไรโลกใบนี้ไปบ้าง
27 มกราคม 2010 – เปิดตัว iPad รุ่นแรก
สตีฟ จ็อบส์ ได้เปิดตัว iPad บนเวทีซึ่งสร้างความตื่นเต้นให้กับคนทั้งโลก ด้วยดีไซน์ที่อาจจะเหมือน iPhone ขยายใหญ่ แต่จริงแล้วมันคือการย่อคอมพิวเตอร์แล็ปท็อปลงมา ให้เหลือเป็นแค่หน้าจอที่มีน้ำหนักเบาแค่ 680 กรัม
ในรุ่นแรกนั้น ได้เริ่มวางจำหน่ายในเดือนเมษายน 2010 (พ.ศ.2553) โดยมีให้เลือกเป็นรุ่น Wi-Fi และ Wi-Fi+3G ซึ่งสามารถทำยอดขายไปได้ถึง 3 ล้านเครื่องในเวลาเพียงแค่ 80 วัน และเริ่มวางจำหน่ายในไทยอย่างเป็นทางการในวันที่ 3 ธันวาคม 2553
9 ธันวาคม 2010 – TIME เลือกให้ iPad เป็น “Gadget of the Year”
การเปิดตัวของ iPad นั้น สร้างความตื้นเต้นให้กับวงการเทคโนโลยี เพราะมันทำให้การใช้งานคอมพิวเตอร์ สามารถใช้งานได้สะดวกคอมพิวเตอร์แล็ปท็อป ที่ตอนนั้นน้ำหนักเบาสุดก็ยังอยู่ที่ 1-2 กิโลกรัม และความร้อนแรงและฮิตสุดๆ ตอนนั้น นิตยสาร TIME ก็ได้เลือกให้ iPad เป็น Gadget of the Year
2 มีนาคม 2011 – เปิดตัว iPad 2 ที่มาพร้อมกล้องหน้าและกล้องหลัง
ผ่านไปเพียง 1 ปี Apple ก็ได้อัพเกรดไอแพดสู่รุ่นที่ 2 เพิ่มกล้องหน้าสำหรับใช้ Facetime เพื่อติดต่อสื่อสาร และมีกล้องหลังที่สามารถถ่ายภาพ และเอาไว้ใช้งานด้านอื่นๆ
25 มีนาคม 2011 – Guinness World Record ยกให้ iPad เป็นอุปกรณ์อิเลคโทรนิคสำหรับผู้บริโภคที่ขายดีที่สุดในประวัติศาสตร์
เครื่องยืนยันถึงความร้อนแรงของ iPad ในยุคนั้น เพราะมันสามารถทดแทนและเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ของผู้คนทั่วโลกได้อย่างน่าอัศจรรย์ ไม่ว่าจะเป็นการอ่านหนังสือ การศึกษา การเล่นเกม ฯลฯ
7 มีนาคม 2012 – เปิดตัว iPad รุ่นใหม่มาพร้อมจอเรตินา ให้ความละเอียดมากกว่า iPad 2 มากถึงสี่เท่า
การพัฒนาต่อให้ไอแพดสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น กับการเปิดตัว New iPad ที่ยกเครื่องหน้าจอมาใช้เป็นแบบ Retina Display ที่มีความละเอียดเพิ่มขึ้น แสดงผลภาพให้คมชัดสวยงามยิ่งขึ้นกว่าเดิม
22 ตุลาคม 2013 – เปิดตัว iPad Air และ iPad mini มาพร้อมจอเรตินา
Apple สร้างความตื่นเต้นอีกครั้ง ด้วยการพัฒนาให้ iPad มีความบางและเบายิ่งกว่าเดิม โดยใช้ชื่อว่า iPad Air พร้อมทั้งเปิดตัว iPad Mini ที่มีขนาดเล็กลง ตอบโจทย์คนที่ต้องการเพื่อพกพาใช้งานได้สะดวกมากขึ้น และในวันที่ 16 ตุลาคม 2014 ก็ได้เปิดตัว iPad Air 2 และ iPad mini 3
9 กันยายน 2015 – เปิดตัว iPad Pro 12.9 นิ้ว และ iPad mini 4
อีกครั้งที่สร้างความฮือฮาของ iPad Pro ที่มีจอใหญ่ขนาดถึง 12.9 นิ้ว เรียกได้ว่าพอๆ กับหน้าจอของคอมพิวเตอร์แล็ปท็อป ซึ่ง Apple ต้องการให้มันสามารถทำงานทดแทนคอมพิวเตอร์ PC พร้อมทั้งยังมีอุปกรณ์ใหม่คือ Apple Pencil ปากกาสไตลัสที่ทำให้การทำงานบน iPad มีความหลากหลายยิ่งขึ้นกว่าเดิม พร้อมรองรับทั้งการจดบันทึก วาดรูป ฯลฯ
21 มีนาคม 2016 – เปิดตัว iPad Pro 9.7 นิ้ว
iPad Pro ในขนาดหน้าจอที่เล็กเท่า iPad รุ่นปกติ ทำให้มันสามารถทำงานระดับสูงได้ในขนาดที่พกพาได้สะดวกยิ่งขึ้นกว่าเดิม
21 มีนาคม 2017 – เปิดตัว iPad 9.7 นิ้วรุ่นใหม่ มาพร้อมจอเรตินาในราคาย่อมเยาว์
นอกจากรุ่นโปรแล้ว Apple ยังอัปเดตประสิทธิภาพให้กับไอแพดรุ่นเริ่มต้น ที่มีราคาไม่สูงมาก แต่ได้หน้าจอที่คมชัดแบบเรตินา และเริ่มผลักดันให้เป็นไอแพดเพื่อการศึกษา
5 มิถุนายน 2017 – เปิดตัว iPad Pro 10.5 นิ้ว และ 12.9 นิ้ว รุ่นใหม่
ไอแพด โปร ได้รับการอัปเดตใหม่ โดยรุ่นเล็กปรับขนาดหน้าจอใหญ่ขึ้นเป็น 10.5 นิ้ว ตัวจอใช้เทคโนโลยี Promotion ที่มีค่ารีเฟรชหน้าจอสูงถึง 120Hz ชิปเซ็ต CPU ที่ประสิทธิภาพสูงขึ้น และรองรับการทำงานทั้ง Apple Pencil และ Smart Keyboard เพื่อช่วยให้ใช้งานด้านต่างๆ ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
27 มีนาคม 2018 – เปิดตัว iPad (6th gen)
เป็นครั้งแรกที่ iPad รุ่นอื่นที่ไม่ใช่รุ่น Pro สามารถใช้งาน Apple Pencil ได้ เพื่อตอบโจทย์การใช้งานด้านการจดบันทึกและสร้างสรรค์ บนแท็บเล็ตขนาดจอ 9.7 นิ้ว ที่เหมาะสำหรับนักเรียน นักศึกษา
30 ตุลาคม 2018 – เปิดตัว iPad Pro ใหม่ ใช้ Face ID และพอร์ตแบบ USB-C
การก้าวไปอีกขั้นของ iPad ให้ใกล้เคียงกับคอมพิวเตอร์มากขึ้น iPad Pro ตัวใหม่ ปรับโฉมให้มีหน้าจอที่เต็มพื้นที่ เปลี่ยนมาใช้ FaceID แทนปุ่มโฮม และตัวพอร์ตเชื่อมต่อเป็นแบบ USB-C ทำให้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆ ได้สะดวกมากขึ้น และตัว Apple Pencil ก็ได้รับการออกแบบใหม่ให้สามารถชาร์จแบบไร้สาย และมีแม่เหล็กติดกับตัวเครื่องได้
18 มีนาคม 2019 – เปิดตัว iPad mini 5 และ iPad Air รุ่นใหม่
การอัปเดตสเปคให้กับ iPad mini รุ่นจอเล็กที่หลายคนชื่นชอบ และ iPad Air ให้มีความแรงมากขึ้น พร้อมเพิ่มการใช้งานร่วมกับ Apple Pencil ได้ด้วย
10 กันยายน 2019 – เปิดตัว iPad 10.2 นิ้ว (7th gen)
รุ่นที่ 7 ของ iPad ที่มาในขนาด 10.2 นิ้ว ถือว่าเป็นไอแพดสำหรับเจาะตลาดกลุ่มการศึกษาที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ทั้งเรื่องขนาดของตัวเครื่อง หน้าจอที่ใหญ่กำลังดี การใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เสริม ทั้ง Apple Pencil และ Smart Keyboard ทำให้มันทดแทนคอมพิวเตอร์ในการศึกษาไปได้เลย
จนถึงไตรมาสที่ 2 ของปี 2019 iPad ขายได้ทั้งหมดเกือบ 450 ล้านเครื่อง
ยอดจำหน่าย ในระยะเวลาที่ผ่านมาเกือบ 10 ปี ของ iPad นับถึงไตรมาสที่ 2 ปีที่แล้ว กับตัวเลข 450 ล้านเครื่อง ถือว่าเป็นจำนวนที่สูงมาก และล่าสุด นิตยสาร TIMES ก็ได้ยกให้ iPad เป็น 1 ในสุดยอดนวัตกรรมแห่งทศวรรษ Gadget of Decade อีกด้วย
10 ปี ของ iPad กับความประทับใจจากบุคคลหลากหลายสาขาอาชีพ
เอิ๊ต ภัทรวี ศรีสันติสุข, นักร้อง, นักดนตรีและนักแต่งเพลง
Instagram: @Earthpatravee
Facebook: @EarthPratravee
“ใช้ iPad มาสองปีเต็มๆ ค่ะ กลายเป็นติดไปแล้วเพราะเป็นเครื่องมือสื่อสารที่เอาตัวตนข้างในของเราออกมาง่ายที่สุดเลย ตอนแรกๆใช้อัดเพลง อัดไอเดียต่างๆ ที่คิดออกเวลาเดินทาง แต่หลังๆ ก็กลายเป็นเริ่มฝึกสกิลอื่นๆ ที่จริงๆ แล้วเราไม่เคยถนัดเลย เช่นเขียน typo หรือวาดรูป กลายเป็นว่าเวลาเราคิดอะไรออก จะคิดถึง iPad ก่อนเป็นเครื่องมือแรกเลย ได้มี lyric mv ที่เป็นลายมือเราทั้งเพลงออกมา มีอัลบั้มที่ artwork ด้านในเราวางเลย์เอาท์เองทั้งหมด เขียนตัวอักษรเองทั้งหมด คิดไม่ออกเหมือนกันว่าถ้าไม่ใช้ iPad จะผลิตมันออกมาได้ยังไง มันออกมาเป็นตัวตนเรามากๆ ได้เอาความคิดสร้างสรรค์เราออกมาใช้จริงๆ โดยไม่มีกำแพงเรื่องสกิลเลย เป็น tool ชิ้นเดียวเลยที่เป็นหนึ่งเดียวกับตัวเรา ตอนนี้ถ้ามันหายไปก็คงต้องหามาใช้ใหม่เรื่อยๆ ค่ะ”
และนี่คือ MV ที่เธอสร้างสรรค์ขึ้นมา โดยใช้ iPad
[youtube v=”I6_YMqz3TdQ”]
ภาพฟ้า พุทธรักษา (บิ๊ง), นักวาดภาพและช่างภาพ
Instagram: @bbinko
Facebook: @Phapfah Gajajiva (Binko’s)
“บิ๊งทำงานศิลปะ และโตมากับ iPad ตั้งแต่รุ่นแรก บิ๊งพก iPad ไปไหนมาไหนด้วยทุกที่ตั้งแต่เด็กๆ iPad เป็น Sketchbook และ diary ของบิ๊ง เป็นสิ่งที่ช่วยให้เราได้ฝึกฝนและดึงภาพในหัวออกมาเป็นผลงานได้จริง เหมือนเป็นสิ่งที่ช่วยต่อยอดจินตนาการของเราไปอีกขั้น มีลูกเล่นและเทคนิคใหม่ๆให้ได้เรียนรู้ต่อไปเรื่อยๆ .. ตอนนี้นอกจากวาดภาพแล้วบิ๊งยังชอบเดินทางถ่ายภาพด้วย เลยชอบพก iPad ไปวาดภาพเติมลงบนภาพถ่าย ทำให้ได้เทคนิคงานอีกแบบที่คงไม่ได้ลองทำถ้าไม่มี iPad”
ฝ้าย, นักวาดภาพ
Instagram: @freya.arts
Facebook: @freya.artss
“ฝ้ายทำงานภาพประกอบมานานตั้งแต่ก่อนเรียนจบ ทำมาหมด ทั้งงานดิจิตอล และงานบนกระดาษ บนเฟรม ด้วยความที่เราต้องจบงานเองทั้งหมด ทำให้ต้องใช้คอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีเข้าช่วย และฝันอยากให้งานดิจิตอลกับงานวาดบนกระดาษมาบรรจบกันตรงกลาง ซึ่งน่าจะเป็นอะไรที่เพอร์เฟคที่สุด หลังจากทำงานวาดรูปอยู่บนกระดาษมานาน เริ่มจะต้องเดินทางบ่อยๆ ออกไปข้างนอก ไปเจอลูกค้า และท่องเที่ยวบ่อยมาก ทำให้ต้องพกสีพกกระดาษไปด้วยทั่วโลก โชคดีที่ได้มาเปิดใจลอง iPad Pro ก็รักเลย ด้วยความที่อุปกรณ์ทำให้เราเขียนได้บนจอโดยตรง ความไวแบบ Real time เปิดโอกาสให้สร้างผลงานแบบที่ทำไม่ได้บนกระดาษ ซึ่งเหมือนทำให้ฝันของเด็กวาดรูปเป็นจริง เราเขียนบนจอได้ พกไปไหนก็ได้ วาดรูปทำงานบนเครื่องบินก็ได้ เลือกสี เลือกบรัชทำได้หมด ที่สำคัญมันทำงานได้จริงๆ ไม่ใช่แค่เอาไว้สเกชคำเวลาเท่านั้น ที่สำคัญไม่ต้องพกอุปกรณ์วาดรูปให้พะรุงพะรังแล้ว มี iPad Pro ตัวเดียวจบจริงๆค่ะ”
ต่อวงศ์ ซาลวาลา, ช่างภาพ
Instagram: @2how
Facebook: @2howfb
YouTube: 2how
“ผมเริ่มใช้ iPad ตั้งแต่รุ่นแรกจนถึงรุ่นล่าสุด iPad Pro 12.9 นิ้ว พยายามออกแบบงานที่ทำให้เป็น Mobile Workflow มาตลอด อยากทำงานที่ไหนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องนั่งทำงานที่ใดที่หนึ่ง การใช้ iPad Pro ร่วมกับ Cloud Service ช่วยได้มาก งานที่ทำจะเป็นงานที่เกี่ยวกับภาพนิ่งและวิดีโอ ซึ่งมีขนาดไฟล์ที่ใหญ่ ทำให้ต้องใช้อุปกรณ์ที่มีความสามารถในการประมวลผลค่อนข้างสูง ด้วยความสามารถของ iPad Pro และระบบปฏิบัติการ iPadOS ทำให้งานหนักๆ เป็นเรื่องง่าย อาทิ การตัดต่อ Video 4K ถือว่าทำงานบน iPad Pro ได้เร็วมาก จบงานได้เร็ว สะดวกคล่องตัว และที่ดีมากๆ คือ iPadOS สามารถเชื่อมต่อกับ External Storage ได้ ทำให้การบันทึก จัดเก็บข้อมูลต่างๆ เป็นไปโดยง่าย ทำให้ตอนนี้ทำงานแบบ Mobile Workflow ได้สมบูรณ์อย่างที่ต้องการ”
ดิษกุล ประสิทธิ์เรืองสุข, นายแพทย์และเชฟ
Instagram: @p.dissakul
Facebook: @Dissakul Prasitruangsuk
“ถ้าพูดถึงการทำงานในแต่ละวัน สิ่งที่ขาดไม่ได้เลย ณ ตอนนี้ก็คงหนีไม่พ้น iPad คู่ใจที่ไม่ว่าจะไปไหนผมก็ต้องหยิบติดมือไปด้วยตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเรียนหรือเรื่องงานอื่นๆ ที่รับผิดชอบอยู่ ผมใช้ iPad มาตั้งแต่สมัยเรียน เพราะความกะทัดรัด ใช้งานง่าย เก็บข้อมูลได้เยอะ แถมเวลาจดบันทึกยังมีลูกเล่นตรงมีสีให้เลือกใช้ในการเน้นข้อความสำคัญต่างๆ และไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีผมก็ยังสามารถกลับมาเปิดดูสิ่งที่ผมจดบันทึกไว้ได้ตลอดเวลา นอกจากนั้นผมยังสามารถบันทึกข้อมูลจากหนังสือที่ผมชอบได้จำนวนมากอีกด้วย”
พิชญาภา เรืองโชติ, นักศึกษา
Instagram: @Diaryofdek61
“iPad เป็นตัวช่วยที่ทำให้ชีวิตง่ายขึ้น และสามารถนำมาใช้กับการเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งสามารถอ่าน file หนังสือ, อ่าน slide ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว อีกทั้งยังสามารถใช้จดโน้ตได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ยังมี application มากมายที่เป็นประโยชน์ให้เลือกใช้ เรียกได้ว่า iPad เครื่องเดียวสามารถทำสิ่งต่างๆได้ครบครัน”
เลอค่า ณ นครพนม (ปาล์ม), คุณแม่ลูกหนึ่ง
Instagram: @motherlurka
Facebook: @Motherlurka
“ทุกครั้งที่เราใช้หน้าจอกับลูก ปาล์มกับน้องธัมดีจะเลี่ยงการใช้ Smartphone เพื่อป้องกันความเคยชินกับการหยิบโทรศัพท์มาดู เพราะจอเล็กอาจเผลอหยิบของเราหรือคนรอบตัวมาใช้ ซึ่งมันส่วนตัวมากเกินไป การที่เราเลือกใช้ iPad กับลูกมีข้อดีหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นขนาดหน้าจอที่ใหญ่ ทำให้ไม่ต้องเพ่งดูใกล้ๆ และยังสามารถดูด้วยกันได้ เป็นการเสริมสร้างความผูกพันระหว่างลูกกับเรา นอกจากนี้ลูกชอบใช้ Apple Pencil วาดภาพระบายสีในแอพต่างๆ ที่มีให้เลือกมากมาย ถือว่า iPad เป็นเทคโนโลยีที่มีส่วนช่วยส่งเสริมพัฒนาการลูกน้อยของเราได้ดีเลยค่ะ”
