YouTube เปลี่ยนโยบายใหม่ สั่งปิดช่องที่เห็นว่า “ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์กับธุรกิจ” ได้ทันที

ทาง YouTube มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายใหม่ เพิ่มความเข้มข้นในการจัดระเบียบเนื้อหาและช่องที่อาจจะสร้างปัญหาด้านธุรกิจกับทาง YouTube และบริษัทในเครือ

ซึ่งนโยบายใหม่ที่แก้ไขนี้ ได้เพิ่มอำนาจให้ YouTube สามารถจัดการ ปิดช่อง หรือระงับบัญชีผู้ใช้ ที่พวกเขาพิจารณาแล้วว่า “ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์เชิงพาณิชย์อีกต่อไป” (no longer commercially viable)

จริงๆ แล้วการเปลี่ยนแปลงนโยบายนี้ ได้มีการประกาศมาแล้วตั้งแต่ปี 2018 แล้ว

“YouTube may terminate its legal agreement with you if the provision of the service to you by YouTube is, in YouTube’s opinion, no longer commercially viable.”

“ํYouTube อาจจะยุติการให้บริการกับผู้ใช้ (งดให้บริการ หรือปิด Channel) หากมีความเห็นจากทาง YouTube ว่า ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ในเชิงพาณิชย์อีกต่อไป”

โดยครั้งนี้เป็นการเปลี่ยนถ้อยคำให้มีความเจาะจงและชัดเจนมากขึ้นกว่าเดิม

“YouTube may terminate your access, or your Google account’s access to all or part of the Service if YouTube believes, in its sole discretion, that provision of the Service to you is no longer commercially viable.”

“YouTube อาจจะยุติการเข้าถึง รวมถึงปิดการเชื่อมต่อ Google Account กับบริการบางส่วนหรือทั้งหมด ด้วยดุลพินิจของ YouTube ที่พิจารณาเองแล้วว่า ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ในเชิงพาณิชย์อีกต่อไป”

ซึ่งนโยบายใหม่นี้ จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 10 ธันวาคมนี้

โดยตามปกติแล้วขั้นตอนการดำเนินการของ YouTube กับช่องหรือผู้ใช้งานที่มีปัญหา จะเริ่มด้วยการแจ้งให้ทราบถึงเหตุผลหรือสาเหตุที่ทำการระงับช่องนั้นๆ แต่ถ้าหาก YouTube มีเหตุให้เชื่อว่าจะมีปัญหาตามนโยบาย คือ

  • ช่องหรือผู้ใช้นั้น มีการละเมิดกฎหมายหรือทิศทางของหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งเสี่ยงที่จะทำให้ YouTube หรือบริษัทในเครือ ต้องรับผิดชอบทางกฎหมายไปด้วย
  • มีเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมออกมาอย่าง่อเนื่อง จนเกิดปัญหาด้านการดูแลควบคุมและจัดการ
  • มีความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ใช้อื่นๆ ที่เป็นบุคคลที่สาม (รวมถึง YouTube และบริษัทในเครือ)
YouTube

ความเห็นจากทีมงาน ล้ำหน้าโชว์

เนื่องด้วยข้อมูลทางนโยบายนี้ ยังเป็นภาษาอังกฤษรวมถึงยังเป็นภาษาเชิงกฎหมาย ซึ่งมีความซับซ้อนพอสมควร เราอาจจะต้องรอนโยบายอย่างเป็นทางการที่เป็นภาษาไทยอีกครั้งเพื่อความชัดเจน

แต่เชื่อว่าการปรับนโยบายใหม่จุดนี้ เป็นการทำให้ YouTube มีอำนาจแบบเด็ดขาดในการที่จะปิดช่องหรือแบนผู้ใช้ ที่ดูแล้วจะสร้างปัญหาให้กับธุรกิจของ YouTube ได้แบบเบ็ดเสร็จโดยไม่ต้องรอการพิจารณาจากฝ่ายอื่น

สำหรับผู้ใช้ทั่วๆ ไปแล้ว นโยบายนี้จะไม่มีผลกระทบอะไรเลย แต่ถ้าใครที่ยึดอาชีพผลิตคอนเทนต์วิดีโอเป็น YouTuber จะต้องมีการระมัดระวังมากขึ้น ในการทำคลิปที่ไม่เหมาะสม หรือเสี่ยงจะสร้างปัญหาออกมา ซึ่งที่ผ่านมาก็มีช่องที่ทำเนื้อหาออกมาเผยแพร่อย่างไร้ความผิดชอบต่อสังคม ต่อผู้อื่น รวมถึงสร้างผลกระทบกับสังคมเพียงเพื่อต้องการยอดวิวหรือความนิยมเพียงเท่านั้น

ข้อมูลจาก : VG247