ทดสอบ OPPO Reno2 ถ่ายวิดีโอ ถ่ายภาพ สวยทุกช็อต! เก็บครบทุกระยะ กันสั่นนิ่งกริ๊บ!

ทีมงานล้ำหน้าฯ เราจะมาทดสอบสมาร์ทโฟน OPPO Reno2 Series ใหม่ ที่ครั้งนี้พัฒนาเรื่องการถ่ายวิดีโอให้ดีขึ้นยิ่งกว่าเดิม เพิ่มฟีเจอร์ใหม่เพียบ เรียกได้ว่าใช้เป็นกล้อง VLOG เก็บทุกเหตุการณ์ตลอดทั้งวันได้แบบไม่มีพลาด แถมเอามาตัดต่อจบในสมาร์ทโฟนเครื่องเดียวได้เลย

OPPO Reno 2 Series ถือว่าเป็นอีกรุ่นที่ทางออปโป้พัฒนาต่อยอดจากรุ่นก่อน ทั้งใน Series F ที่เน้นถ่ายรูปถ่ายเซลฟี่ได้สวยเป๊ะ และ Series R ที่เด่นกับเรื่องเทคโนโลยีการถ่ายภาพและวิดีโอระดับโปร

ตัวเครื่องนั้นดีไซน์สวยงามเป็นเอกลักษณ์ของออปโป้ ด้วยวัสดุกระจก Corning Gorilla Glass ทั้งหน้าหลัง ที่ให้ความสวยงามพรีเมี่ยมและคงทนต่อการขูดขีดและการกระแทก ลวดลายที่ฝาหลังมีมิติมุมมองไม่เหมือนใคร

ที่สำคัญตัวฝาหลังนั้นตัวชุดกล้อง Quad-camera เนียนเรียบไปกับฝาหลัง ไม่มีนูนออกมา โดยจะมี O-Dot วางอยู่ในตำแหน่งที่ช่วยให้ฝาหลังไม่แนบกับพื้นเวลาวาง และการจัดตำแหน่งแบบสมมาตร อยู่กึ่งกลางสวยงามอย่างลงตัว

กล้องหน้าเซลฟี่ ใช้นวัตกรรมที่โดดเด่นกว่าทุกรายในตลาดสมาร์ทโฟนตอนนี้ ด้วยกลไกลแบบ Shark Fin Pop-up Camera ที่ชุดกล้องหน้าถูกซ่อนไว้ใต้หน้าจอ แล้วเปิดขึ้นมาเป็นแบบครีบฉลาม

ตัวเครื่องมีให้เลือก 2 สี ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากธรรมชาติ คือ Luminous Black และ ชมพู Sunset Pink

OPPO Reno2

OPPO Reno2 “ชัดทุกระยะ สวยทุกมุมมอง”

สโลแกนของรุ่นนี้ ออปโป้ประกาศชัดว่าชั้นเน้นเรื่องการถ่ายภาพถ่ายวิดีโอแบบจัดเต็มแน่นอน กับ Reno รุ่นแรกที่ทำออกมาได้น่าประทับใจแล้ว มาใน Reno 2 นี่มีปรับปรุงพัฒนาหลายอย่างให้ใช้งานตอบโจทย์ได้ดียิ่งขึ้นไปอีก

ด้วยการเลือกใช้ระบบกล้องหลังแบบ 4 ตัว ที่ช่วยให้ถ่ายภาพได้ดีในทุกระยะ ไม่ว่าจะเป็นด้วยระบบซูม 5x Hybrid Zoom ที่ดึงระยะซูมได้มากถึง 20x digital และเพิ่มโหมดการมุมกว้าง Ultra Wide Angle 116 องศา และเจาะลึกในระยะใกล้ Ultra Macro Mode ได้ใกล้ระยะถึง 2.5 เซนติเมตร

ถ้าให้เทียบกับกล้องจริงๆ OPPO Reno 2 ก็จะมีระยะในการเก็บภาพเทียบเท่ากับเลนส์ 16–83mm ภายในสมาร์ทโฟนเครื่องเดียว

Ultra Steady Mode ถ่ายวิดีโอไหลลื่นเนียนๆ ได้ ไม่ต้องใช้กิมบอล

เป็นฟีเจอร์ใหม่ที่ถูกใจคนที่ชอบการถ่ายวิดีโอมากๆ เพราะปัญหาใหญ่มานมนานของการใช้มือถือถ่ายวิดีโอคือ ภาพที่สั่นไหวเวลาที่เดินถ่าย ทำให้ภาพที่ได้ออกมากระตุกและชวนปวดหัว

ใน OPPO Reno 2 นั้น ตัวกล้องหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล จะมีระบบลดการสั่นไหวของภาพเป็นแบบ OIS (Optical Image Stabilization) ที่ตัวชิ้นเลนส์ ทำงานคู่กับระบบ EIS (Electrical Image Stabilization) เมื่อทั้ง 2 ระบบทำงานประสานกัน จึงทำให้การถ่ายวิดีโอนั้น ได้ภาพที่นิ่งขึ้นมาก รวมถึงความคมชัดก็ดีขึ้นด้วยเช่นกัน

[youtube v=”JjKLR_kKPgE”]

ความนิ่งของระบบ Ultra Steady Mode นั้น ถามว่าดีขนาดไหน จากการทดสอบลองถ่ายแล้วเปิดโหมดใช้งาน เห็นได้ชัดเจนเลยว่า วิดีโอที่ได้มีความนิ่งของภาพขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด เราถือเดินถ่ายตามปกติ ได้ความนิ่งในระดับใช้กิมบอลได้เลย เรียกว่าใช้ถ่าย VLOG เก็บบรรยากาศหรือถ่ายคลิปสั้นได้สบายๆ ไม่ว่าจะเป็นซีนเดินทั่วไป ขึ้นบันได หรือเดินเร็วๆ ก็ยังพอได้อยู่

Bokeh Effect ที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

[youtube v=”kuUX7AHydOA”]

การถ่ายแบบระยะชัดตื้น หน้าชัดหลังเบลอแบบ Bokeh Effect ทางออปโป้มีการพัฒนาให้ดีขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง และในเวอร์ชั่นล่าสุดบน OPPO Reno2 เราสามารถเลือกปรับระดับความเบลอของฉากหลังได้แล้ว เพื่อให้ได้ฉากหลังที่เบลอตามที่ต้องการ

และไม่ใช่ว่าจะใช้ได้เฉพาะภาพถ่ายอย่างเดียว แต่ยังสามารถใช้ Bokeh Effect กับการถ่ายวิดีโอได้อีกด้วย ทำให้วิดีโอที่ได้อารมณ์เเหมือนใช้กล้องเลนส์รูรับแสงกว้างๆ ถ่าย ให้ความสวยงามละมุนมากยิ่งกว่าเดิม

Ultra-Wide Angle เก็บมุมมองได้กว้างขึ้น ทั้งภาพถ่ายและวิดีโอ

กล้องหลังของ OPPO Reno 2 นั้นมีตัวเลนส์มุมกว้างถึง 116 องศา ช่วยให้เก็บมุมมองที่กว้างมากกว่าเดิม เหมาะสำหรับเอาไว้ถ่ายภาพวิวทิวทัศน์หรือ Landscape ที่ดูยิ่งใหญ่อลังการ แล้วตอนนี้เราสามารถใช้เลนส์ Ultra-Wide Angle สำหรับถ่ายวิดีโอได้ด้วย ทำให้ได้มุมมองที่สวยกว่าเดิม

ถ่ายวิดีโอ ที่ซูมได้ตั้งแต่ระยะ 0.6x ไปจนถึง 20x

[youtube v=”5aQynO_fpfA”]

ระยะของการถ่ายวิดีโอนั้น ระหว่างที่กำลังถ่าย สามารถเลือกซูมเข้าออกได้ด้วย โดยเก็บระยะได้ครบหมดของทุกเลนส์กล้องหลัง นั้นคือตั้งแต่ระยะ Ultra Wide กว้างสุดที่ 0.6x ไล่มาเป็นระยะปกติ 1x แล้วซูมเข้าที่ 2x Optical, 5x Hybrid Zoom ไม่ใช่แค่นั้น ยังลากซูมต่อไปได้สุดๆ ถึง 20x Digital

ระบบบันทึกเสียงที่เลือกได้หลายมิติ

อีกสิ่งที่ Vlogger สายวิดีโอต้องการ ไม่ใช่แค่เรื่องกล้องเท่านั้น แต่เรื่องของไมโครโฟนบันถึกเสียงก็สำคัญ OPPO Reno 2 นั้นใส่ลูกเล่นการบันทึกเสียงที่ดีกว่าสมาร์ทโฟนอื่นๆ ในท้องตลาดมาให้ด้วย ตั้งแต่ระบบบันทึกแบบ 3 มิติ ที่เก็บเสียงได้รอบทิศ 360 องศา เหมาะสำหรับเดินถ่ายเก็บบรรยากาศ

[youtube v=”xZ-aNR0FNFE”]

มีระบบโฟกัสเสียง ที่เพิ่มประสิทธิภาพของไมค์ให้เน้นเก็บเสียงที่ด้านหน้าตามระยะของการซูม อันนี้สายถ่ายวิดีโอคอนเสิร์ตเล่นสดนี่เป็นปลื้มเลย เพราะเก็บวิดีโอซูมได้แล้ว ยังเร่งเสียงให้ชัดขึ้นด้วย

และมีอีกสิ่งที่ดีมาก คือระบบลดเสียงลม ที่ช่วยเวลาที่ถ่ายวิดีโอกลางแจ้ง ที่เดินแล้วมีเสียงลมพัด มีเสียงพรึ่บๆๆ รบกวนน้อยลง หรือถ้าถ่ายในห้องที่เงียบแต่เปิดแอร์ ก็แทบจะไม่ได้ยินเสียงแอร์เลย

SOLOOP วิดีโอตัดต่อเสร็จจบได้ในแอพเดียว ไม่ต้องโหลดเพิ่ม

[youtube v=”sFgyFkWDD0c”]

ทีเด็ดใหม่ที่ออปโป้ใส่ให้มาใน OPPO Reno 2 คือแอพพลิเคชั่นตัดต่อวิดีโอที่ชื่อว่า SOLOOP ที่ฉลาดและใช้งานง่ายมากๆ เพียงแค่เข้าแอพ กดเลือกวิดีโอหรือภาพที่ต้องการ จากนั้นระบบจะทำการตัดคลิปทั้งหมดมาประกอบ พร้อมใส่เอฟเฟคให้เสร็จเรียบร้อยแบบเราไม่ต้องทำอะไรเลย

SoLoop OPPO Reno2 ถ่ายวิดีโอ

ซึ่งถ้าเราอยากจะปรับเปลี่ยน ก็มี Theme ให้เลือกมากมายหลายแบบหลายอารมณ์ เลือกเปลี่ยนเพลงหรือใส่ข้อความไตเติ้ลได้ด้วย เรียกว่าไม่ต้องมีความรู้เกี่ยวกับการตัดต่อวิดีโอ ก็สามารถตัดคลิปสั้นเท่ๆ ออกมาได้ง่ายๆ เพียงแค่ไม่กี่คลิ้ก

และดีมากตรงที่แอปนี้ใส่มาให้ใช้ฟรีๆ ไม่ต้องไปซื้อโหลดเพิ่มให้วุ่นวาย แถมไฟล์ที่ตัดออกมาก็คมชัดพร้อมเอาไปแชร์บนโซเชียลได้ทันที

[youtube v=”l-lhwgNxE9Y”]

ตัวอย่างคลิปที่ใช้แอพ SoLoop ตัด ที่ออกมาดูดีมาก โดยที่เราไม่ต้องทำอะไร โปรแกรมจัดการให้เองทั้งหมด

Ultra Dark Mode ถ่ายภาพกลางคืนได้สวยขึ้นไปอีกขั้น

โหมดการถ่ายภาพกลางคืนหรือสภาพแสงน้อย เป็นอีกสิ่งที่ออปโป้ทำดีขึ้นมาทุกรุ่น ก็คือการถ่ายภาพในสภาพแสงน้อย ที่ก่อนหน้านี้มี Ultra Night Mode 2.0 พัฒนาการประมวลผลภาพได้รวดเร็ว แต่นี่เป็นอีกขั้นของการถ่ายกลางคืน ด้วย Ultra Dark Mode

การทำงานของระบบนี้จะต่างจาก Ultra Night Mode ตรงที่กล้องจะทำการถ่ายภาพพร้อมกันทีเดียวหลายๆ ภาพ ที่เป็นภาพจากค่าความสว่างที่แตกต่างกัน แล้วเอาทั้งหมดมาประมวลผลรวมกันเป็นรูปเดียว ทำให้ได้ภาพที่สว่างชัดทั้งภาพ ส่วนที่เป็นเงามืดก็จะเห็นรายละเอียด ส่วนที่เป็นแสงสว่างก็ไม่จ้าจนขาวโพลน

ภาพซ้ายเป็น Night Mode ปกติ และเมื่อในสภาพแสงน้อยมากๆ ตัวระบบกล้องจะเปิด Ultra Dark Mode ให้ เพื่อเก็บภาพในที่มืดให้สว่างขึ้นอย่างสดใส

คราวนี้ทำให้การถ่ายภาพกลางคืนในซีนต่างๆ ทำได้ดีขึ้นมาก ที่มืดสนิทก็ดูสว่างขึ้น หรือถ้าถ่ายภาพบุคคลในแสงน้อยๆ ก็ได้ความสว่างสวย สกินโทนสีผิวก็ดูดีอีกด้วย โดยไม่ต้องใช้แฟลช

OPPO Reno2 สมาร์ทโฟนถ่ายวิดีโอถ่ายภาพได้ดี ในราคาที่คุ้มสุด

การทดสอบเรื่องถ่ายวิดีโอของ OPPO Reno2 นั้น ถือว่ารุ่นนี้มีฟีเจอร์เด่นสำหรับการถ่ายวิดีโอที่ดีขึ้นแบบผิดหูผิดตา เริ่มด้วย Ultra Steady Mode ที่ลดการสั่นไหวให้เนียนนุ่มไหลลื่น, การปรับเบลอฉากหลังทำโบเก้ที่คราวนี้ใช้กับการถ่ายวิดีโอได้ แถมปรับระดับความเบลอเองได้ด้วย

มุมมองการถ่ายวิดีโอ เก็บได้ทุกระยะตั้งแต่กว้างสุด Ultra-Wide Angle ซูมเข้าไปได้ไกล้สุดถึง 20 เท่า เพิ่มด้วยระบบการบันทึกเสียงที่เลือกได้หลายมิติ และดีมากๆ กับแอพ SOLOOP ที่แค่เลือกคลิปเลือกภาพที่ต้องการ โยนเข้าไปในแอพ เลือกธีมเลือกเพลง กดจึ้กก็ได้คลิปเท่ๆ เก๋คูลไว้แชร์ได้แบบไม่ต้องวุ่นวายอะไรเลย

ลูกเล่นถ่ายวิดีโอเยอะขนาดนี้ OPPO Reno2 ราคา เปิดตัวอยู่ที่ 17,990 บาท เรียกว่าทีเด็ดแพรวพราวคุ้มกับราคา กับสมาร์ทโฟนที่ถ่ายวิดีโอถ่ายภาพได้สมกับคำโปรโมตที่ว่า “ชัดทุกระยะ สวยทุกมุมมอง” จริงๆ

ดูรายละเอียดข้อมูลล่าสุด และโปรโมชั่นของ OPPO Reno 2 เพิ่มเติมได้ที่ www.oppo.com/th

Blogger สาย Multi Function ตามติดเทคโนโลยีมือถือ, แท็บเล็ต, แอพ, เกมคอนโซล, โลกโซเชียล และจักรยาน